บิ๊กตู่สั่งขยายเพดานหนี้มาตรา 28  ตุน 1.5 แสนล้าน หาเงินจ่ายประกันข้าว

“บิ๊กตู่” สั่งขยายเพดานหนี้มาตรา 28 เพิ่มเป็น 35% ตุนเพิ่มอีก 1.5 แสนล้านบาท รองรับจ่ายเงินประกันข้าวให้ชาวนา พร้อมบี้สำนักงบตั้งชดเชยเพิ่มเป็น 4% สั่งคลัง-พาณิชย์-เกษตร ถกทบทวนแนวทางโครงการใหม่ หวังช่วยลดภาระงบ ปิ๊งไอเดียโยกไปบรรจุในงบประมาณปกติ

24 พ.ย. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 2/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้มีมติให้ขยายกรอบอัตรายอดคงค้างของภาระหนี้ที่รัฐบาลต้องชดเชยตามตามมาตรา 28 ในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 จาก 30% เพิ่มเป็น 35% ของกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นระยะเวลา 1 ปี รวมทั้งยังเห็นชอบขอสนับสนุนเงินจากงบกลางเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นอีกส่วนหนึ่ง เพื่อรองรับการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เนื่องจากในปีงบประมาณ 2565 มีการตั้งงบชดเชยคืนมาตรา 28 เพียง 7.6 หมื่นล้านบาท ทำให้มีวงเงินไม่เพียงพอดำเนินโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีวงเงินที่เหลือในมาตรา 28 เพียง 5.3 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ มีการขยายกรอบอัตรายอดคงค้างของภาระหนี้ที่รัฐบาลต้องชดเชยตามมาตรา 28 เพิ่มอีก 5% เป็น 35% ของงบประมาณรายจ่ายนั้น จะทำให้มีวงเงินในส่วนนี้เพิ่มมาอีก 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับวงเงินในปัจจุบันจะเป็น 1.6 แสนล้านบาท เพียงพอสำหรับรองรับการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกร

“พล.อ.ประยุทธ์ มีความเป็นห่วงชาวนาที่ยังรอเงินจากโครงการประกันรายได้ จึงเร่งรัดให้กระทรวงการคลังพิจารณาเรื่องนี้จนได้ข้อสรุปดังกล่าว โดย 1-2 วันจากนี้จะมีการประกาศออกมา และในสัปดาห์หน้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ในส่วนที่เหลือ และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราด้วย ส่วนการจ่ายเงินนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะส่งรายชื่อเกษตรกรให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการจ่ายเงิน คาดว่าภายในเดือน ธ.ค. 2564 จะดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด” นายอาคม กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มอบนโยบายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงบประมาณไปทบทวนวิธีการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรใหม่ เพื่อลดภาระงบประมาณลง โดยอาจจะต้องกลับไปดูวิธีการกำหนดราคา การลดต้นทุนการผลิต ซึ่งจะต้องมีการหารือกันในคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) ซึ่งเชื่อว่าภายหลังการพิจารณาจะทำให้วงเงินในโครงการประกันรายได้ในปีถัด ๆ ไปปรับลดลงมาได้

รวมทั้งให้มีการบรรจุโครงการประกันรายได้เกษตรกร ไว้ในงบประมาณปกติ แทนการใช้งบประมาณตามมาตรา 28 เนื่องจากงบในส่วนนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะสนับสนุนแค่โครงการประกันรายได้เกษตรกรเท่านั้น แต่ยังมีโครงการอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องใช้เงินด้วย เช่น มาตรการสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกสาขาอาชีพ การชดเชยอัตราค่าบริการสาธารณะ เป็นต้น รวมทั้งได้มอบหมายให้คลังและสำนักงบประมาณไปเร่งรัดพิจารณาโครงการภายใต้มาตรการ 28 ที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ให้ส่งคืนวงเงินในส่วนที่เหลือ เพื่อเปิดวงเงินไว้ใช้สำหรับโครงการที่มีความจำเป็นในอนาคตต่อไป

นายอาคม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติขอให้สำนักงบประมาณกำหนดอัตราการส่งคืนเงินตามมาตรา 28 ไม่น้อยกว่า 4% ของงบประมาณรายจ่าย จากปีงบประมาณ 2565 มีการส่งคืนเงินในส่วนดังกล่าวเพียง 7.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ สำหรับนำเงินไปใช้ในโครงการอื่น ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 นั้น มีวงเงินดำเนินการทั้งสิ้น 1 แสนกว่าล้านบาท แบ่งเป็น การจ่ายชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาตลาด วงเงิน 8.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ครม. ได้มีการอนุมัติวงเงินในงวดแรกไปแล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท ยังเหลืออีก 7.6 หมื่นล้านบาท และการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรอีก 5 หมื่นล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯปลื้ม งบ 1.6 พันล้าน อัดฉีดวงการกีฬา โยนถามหน่วยงานเกี่ยวข้อง ถูกดองเงินอัดฉีด

นายกฯปลื้ม งบ 1.6 พันล้าน อัดฉีดวงการกีฬา หวังเห็นผู้เล่นมากขึ้น -พัฒนาระดับรากหญ้า โยนถามหน่วยงานเกี่ยวข้อง ปัญหานักกีฬาถูกดองเงินอัดฉีด