ร้อนแรงจนสังคมจับตา กับกรณีที่เป็นกระแสและถูกพูดถึงมากที่สุด เกิดข้อสงสัยและการตั้งคำถามในสังคมมากมาย ในคดีอุบัติเหตุรถยนต์บนทางด่วน ว่าคนรวยรอดคนจนนอนคุกหรือไม่อย่างไร
ผลปริมาณแอลกอฮอล์ของคนขับเบนท์ลีย์ ที่ล่าสุดสังคมยังคาใจแม้โดนข้อหาเมาแล้วขับแต่อาจหลุดคดีเช่นเคย เปิดโต๊ะคุยสดผ่านรายการ “เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล” (The Day News Update Special) โดยผู้ประกาศข่าว “บ๊อบ-ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์” พร้อมแขกรับเชิญทั้งสองท่านที่เข้ามาร่วมวิเคราะห์ ได้แก่ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว. และ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะอดีตตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดี บอส กระทิงแดง ซึ่งมาร่วมพูดคุยถึงข้อกฎหมายที่ให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
บ๊อบ ณัฐธีร์ : เกิดเหตุรถเบนท์ลีย์ชนกับรถปาเจโร่บนทางด่วน ซึ่งมีผลของการตรวจความเข้มข้นแอลกอฮอล์อยู่ที่ 10.73 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีการตั้งคำถามว่า แบบนี้คือไม่ได้เมาใช่หรือไม่ แต่ในที่เกิดเหตุพยานแวดล้อมต่างบอกว่า เมา และมีขวดไวน์อยู่ในรถด้วย เรื่องนี้จึงขอถามความสงสัยก่อนจากทั้งมุมมองของแพทย์และตำรวจ?
พ.ต.ต.ชวลิต : คงต้องพูดถึงการทำหน้าที่ของตำรวจตั้งแต่เกิดเหตุที่ควรจะต้องมาถึงที่เกิดเหตุให้ไว ที่ไล่เรียงไทม์ไลน์มา เที่ยงคืนครึ่งอย่างน้อย ตำรวจต้องรีบมาไม่ควรเกินครึ่งชั่วโมง เพราะสถานีก็อยู่ไม่ไกล เพราะประเด็นหลักสำคัญในคดีนี้ก็คือ เรื่องเมาหรือเปล่า ซึ่งตัวที่จะชี้ชัดว่าเมาหรือเปล่า หลักฐานก็คือแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือด
บ๊อบ ณัฐธีร์ : ซึ่งถ้าเป่าในที่เกิดเหตุเลยก็จะรู้ว่าเมาหรือไม่เมา?
พ.ต.ต.ชวลิต : ใช่ ซึ่งมันมีอัตราการเผาผลาญในร่างกายไวมาก ดังนั้นเวลาทุกชั่วโมงมีค่ามาก เวลาทอดไปเรื่อย ๆ ตัวเลขเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ
บ๊อบ ณัฐธีร์ : พอไม่มีการเป่าในที่เกิดเหตุ ตัวผู้ขับขี่รถเบนท์ลีย์ก็ไปพร้อมกับหญิงสาวที่มาด้วยกัน ขึ้นรถแท็กซี่ไปที่สถานีตำรวจ อย่างนี้ เราจะเรียกว่าชนแล้วหนีไหม?
พ.ต.ต.ชวลิต : ผมคิดว่าถ้าชนแล้วหนี ก็ต้องไม่อยู่ในที่เกิดเหตุเลย คือ ต้องหนีให้เร็วที่สุด แต่สุดท้ายเขาไปที่ สน.ก็คือไม่ได้หนี
บ๊อบ ณัฐธีร์ : แล้วกว่าจะส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจ ตี 3 ครึ่ง คิดอย่างไรกับการทำหน้าที่ของตำรวจใน สน. พื้นที่นั้น?
พ.ต.ต.ชวลิต : ตรงนี้ผมสนใจตรงหลักฐานที่ชี้ว่าเมาหรือเปล่า ก็คือปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ประเด็นตรงนี้ถ้าเกิดทำให้เวลามันยืดออกไป ผมคิดว่ามันเป็นการทำให้หลักฐานมันเสียเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้จะมีการตรวจจริง แต่ว่าระยะเวลาที่มันทอดนานออกไป 3-4 ชั่วโมง มันทำให้ตัวเลขแอลกอฮอล์ที่ตรวจมามันน้อยกว่าที่เกิดเหตุเยอะมาก ผมถือว่าเป็นกระบวนการที่ทำให้หลักฐานมันเสีย ผมคิดว่าถ้าจริงจังในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจริงๆ ตัวหลักฐานสำคัญ ซึ่งแอลกอฮอล์ก็ต่างจากยาเสพติด ถ้ายาเสพติดอาจจะไม่ต้องเร่งรีบเป็นต่อชั่วโมงแบบนี้ก็ได้ เพราะว่ายาเสพติดมันอยู่ในร่างกายนานกว่านั้น แต่ว่าพอเป็นแอลกอฮอล์ผ่านไปชั่วโมงหนึ่งก็ลดลงไป 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์แล้ว โดยประมาณ
บ๊อบ ณัฐธีร์ : มันเป็นเหตุผลที่อ้างกับตำรวจได้ไหมว่าผมเจ็บหน้าอกจากอุบัติเหตุแล้วผมเป่าไม่ได้ลมไม่ออก เดี๋ยวค่ามันเปลี่ยนแปลง ผมไปตรวจเลือดดีกว่า ซึ่งจะใช้เวลานานขึ้น สามารถอ้างได้ไหม?
พ.ต.ต.ชวลิต : ตรงนี้ถ้าอ้างอย่างนั้น ตำรวจก็ต้องมีพฤติการณ์อะไรที่ตำรวจพยายามที่จะให้ส่งตรวจเลือดอย่างรวดเร็วเพราะถ้ายังอยู่ที่สถานีตำรวจนานก็ไม่ใช่แล้ว
รศ.นพ.วีระศักดิ์ : คือจริง ๆ ก็ตรงไปตรงมาในหลักวิทยาศาสตร์อยู่แล้วนะครับว่า กรณีแบบนี้เราไม่ได้พูดถึงเฉพาะตัวคดี แต่เราพูดในหลักวิทยาศาสตร์ เวลาที่เราดื่มกินเข้าไปก็ต้องมีการเผาผลาญ ทั้งจากทางลมหายใจ ทางเหงื่อ ทางปัสสาวะ ทางอุจจาระ เพราะฉะนั้นแค่เรานั่งเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร ปริมาณแอลกอฮอล์ก็ลดลงไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นถ้าตรวจช้า อย่างไรก็ตามแอลกอฮอล์ในร่างกายก็ต้องลดลงไปเรื่อย ๆ อยู่ดี ในกรณีแบบนี้การตรวจถ้าต้องการตรวจเพื่อเอาไปใช้ทำอะไร ใช้ในทางคดีก็แสดงว่าคุณต้องการที่จะได้แอลกอฮอล์ขณะที่เกิดเหตุก็ต้องตรวจในที่เกิดเหตุ นั่นก็คือการเป่าแอลกอออล์ ทีนี้การเป่ามีข้อจำกัด จะไม่เหมือนกับที่ตำรวจไปตั้งด่านแล้วให้ประชาชนเป่า แต่นี่เกิดอุบัติเหตุ มันก็จะมีคนที่บาดเจ็บมาก บาดเจ็บน้อย บางคนบาดเจ็บมากอาจจะสลบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ก็ต้องส่งโรงพยาบาล สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเป่าในที่เกิดเหตุได้ ซึ่งการส่งตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาล สิ่งที่ตำรวจต้องทำเพิ่มเติม คือ ต้องส่งใบชันสูตรบาดแผลแนบไปด้วย เพราะฉนั้นใบชันสูตรบาดแผลสามารถระบุได้เลยครับว่าให้ตรวจแอลกอฮอล์ด้วย เพราะโรงพยาบาลจะไม่มีทางทราบเลย ถ้าตำรวจไม่แจ้งมา
บ๊อบ ณัฐธีร์ : ผมถามเลยครับ จากนี้ไป ผมโดนตำรวจเรียกเป่าคนที่ไม่มีเส้นไม่มีสาย ไม่มีสตางค์ ไม่เป่าได้ไหม คนจนทั่วไปขับรถไม่เป่าผิดไหม?
พ.ต.ต.ชวลิต : คือ กฎหมายก็เขียนชัด ว่าคนไม่เป่าก็สันนิษฐานว่าเมา การได้รับบาดเจ็บก็ต้องดูว่าเป็นเหตุอันสมควรในการจะปฏิเสธหรือเปล่า ถ้าทำ ผมก็ตีความว่า มันไม่ใช่เหตุอันสมควรที่จะปฏิเสธการเป่าได้โดยที่ไม่ผิด
ติดตามรายการ “เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล” (The Day News Update Special) โดยผู้ประกาศ “บ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศษฐ์” เจาะลึกกันแบบสด ๆ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ทางช่อง MONO29 หรือที่แอปพลิเคชัน MONO29 สามารถรับชมรายการย้อนหลังได้ที่ https://youtu.be/h1QMeDUN8Jw
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เต๋า ภูศิลป์' นำทัพศิลปินส่งมอบความสุข งานกาชาด 2567 'ทศมราชา 72 พรรษา'
เต๋า ภูศิลป์, เอิ้นขวัญ วรัญญา, จา สิงห์ชัย, ออยเลอร์ และ อายจิงจิง ศิลปินจีเอ็มเอ็ม มิวสิค เชิญชวนเที่ยวงานกาชาด ประจำปี 2567 จัดโดย สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพร” ระหว่างวันที่ 11 – 22 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 – 22.00 น. ณ สวนลุมพินี
'เบสท์' อัปเดตอาการป่วย 'พ่อบาส'
ก่อนหน้านี้ เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ได้ออกมาแจ้งข่าวว่าคุณพ่อบาส-สมรักษ์ คำสิงห์ ถูกนำตัวส่งห้องไอซียู ตรวจพบเส้นเลือดในสมองตีบ ล่าสุดในงานเปิดตัว เอ็นโดลิฟท์ เอ็กซ์ เทคโนโลยีแปลงโฉมระดับโลก อย่างเป็นทางการ ณ ชั้น 4 สถาบันสุขภาพและความงามตรัยญา พระราม 9 ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งยังได้อัปเดตอาการป่วยล่าสุดของคุณพ่อ
'ธี่หยด 3' ประกาศวันฉาย เจอกันปลายปีหน้า
อีกหนึ่งในความสำเร็จของ M STUDIO บริษัทผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทย รายใหญ่ของประเทศ คือที่สุดแห่งปรากฏการณ์ภาพยนตร์ไทย กับความสำเร็จของภาพยนตร์ ธี่หยด และ ธี่หยด 2 ที่ทำลายทุกสถิติในประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้เป็นที่จับตามองถึงภาคต่อของภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้ทะลุ 800 ล้านบาท ว่าจะมีการสร้างภาค 3 ต่อไปหรือไม่
'อี๊ฟ' เผยละคร 'เล่ห์มยุรา' พลิกแพลงเชือดเฉือนเดือด
เข้มข้นทุกตอนแน่นอน สำหรับละครเรื่อง เล่ห์มยุรา (LoveAndScandal) ผลิตโดยบริษัท สกาย เอ็นเทอร์เทนเมนท์ฯ กำกับการแสดงโดย ชัชวาล ศาสวัตกลูน นำแสดงโดย กิตตน์ก้อง ขำกฤษ, ฮาน่า ลีวิส, แอนน่า กลึคส์, จุติ จำเริญเกตุประทีป พร้อมทัพนักแสดงชื่อดังมากฝีมือมาประชันบทบาททางการแสดงกันเพียบ งานนี้ผู้จัดคนเก่ง อี๊ฟ-พุทธธิดา ศิระฉายา เผยถึงการทำงานที่ท้าทาย
'ปั่น-กบ-แมว-เมย์-ออย' ร่วมน้อมรำลึกถ่ายทอดบทเพลงพระราชนิพนธ์
สำเร็จไปอย่างงดงามกับ ‘H.M. Blues’ คอนเสิร์ตเพื่อน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙
'PERSES (เพอร์เซส)' ปล่อยเพลงรัก 'อย่าฝืน (Over)' เรียกน้ำตาส่งท้ายปี
หลังจากฟาดเพอร์ฟอร์แมนซ์สุดโหดในเพลง BODYGUARD กันไปแล้ว 5 หนุ่ม PERSES ก็ได้เวลาทบทวนเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ และความผิดหวัง ที่ต้องการจะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต ปล่อยเพลง “อย่าฝืน (Over)” เพลงรักอกหัก ซิงเกิลที่ 2 ในอัลบั้ม ALTERLAND ของวง PERSES จากค่าย G’NEST