10 พ.ย.2567-นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากมีการปล่อยข่าวลือทำลายประเทศเรื่อง เกาะกูดจนมีการปล่อยข่าวลบ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจไปเที่ยวและยกเลิกไปนั้น ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย ที่สำคัญข่าวเกาะกูดที่ดังไปทั่วโลกกลับส่งผลให้นักท่องเที่ยวอยากมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นกว่าทุกๆปี
ดังนั้นข่าวเฟคนิวส์จึงเป็นข่าวเท็จล้วนๆเพราะ 1.สถานการณ์บนเกาะกูดไม่มีสถานการณ์ อะไรตามข่าวเฟคนิวส์แม้แต่น้อย2.ไม่มีการขนกำลังทหารไทยไปเสริมกำลังใดๆบนพื้นที่เกาะกูดเลย 3.ไม่มีทหารกัมพูชา หรือมีการเคลื่อนไหวใดๆเข้ามาในพื้นที่4.ไม่มีประชาชนหรือนักท่องเที่ยวอพยพออกจากเกาะกูดมีแต่เข้าคิวรอจะเข้าไปเที่ยวมากขึ้น
ทั้งนี้ ขออย่าหลงเชื่อเฟคนิวส์ในโซเชียลที่ลือว่า “มีการเปิดฉากสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา” บนเกาะกูดโดยขอยืนยันว่า 1.ไม่มีนักท่องเที่ยวยกเลิกการจอง ยังเต็มแน่นเอียดตามปกติ 2.โรงแรมรีสอร์ทสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆรายงานว่าเต็ม และยังมีนักท่องเที่ยว Waiting List หรือรอจองอยู่เป็นจำนวนมาก 3. บรรยากาศของทะเลรอบเกาะช่วงนี้น้ำสวยทะเลใส อากาศดี เป็นธรรมชาติมาก 4.บรรยากาศของนักท่องเที่ยวทุกหาดและย่านถนนคนเดินเต็มไปด้วยความคึกคัก
การท่องเที่ยวจังหวัดตราด รายงานบรรยากาศบนเกาะกูดว่า วันนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม และเดือนมกราคม จะมีจำนวนของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นโดยพบว่าสถิติการเข้าพักบนเกาะกูดเดือนพฤศจิกายน มีการเข้าพักถึงร้อยละ 72.40 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึง 35,570 คนแบ่งเป็นคนไทย 14,228 คน ชาวต่างชาติ 21,342 ราย สร้างรายได้ มากกว่า200 ล้านบาท ขณะที่เดือนธันวาคม อัตราการเข้าพัก ร้อยละ 74.51 จำนวนนักท่องเที่ยว 37,420 คน แบ่งเป็นคนไทย 14,968 คน ชาวต่างชาติ 22,452 คน รายได้ กว่า 220 ล้านบาท และเดือนมกราคม อัตราการเข้าพัก ร้อยละ 77.52 จำนวนนักท่องเที่ยว 39,810 คน แบ่งเป็นคนไทย 15,924 คน ชาวต่างชาติ 23,886 คน คาดการณ์ว่าจะมีรายได้กว่า 250 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นมาก เชื่อว่านักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเข้าใจในสถานการณ์ และที่สำคัญข่าวที่ออกมา ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวสนใจอยากมาเที่ยวเกาะกูดเพิ่มมากขึ้น
“ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมจากโชเชียล ซึ่งสร้างความสับสนวุ่นวายให้กับประชาชน และขอเตือนว่าการนำข้อมูลปลอม ข่าวปลอม หรือข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การแชร์ หรือส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จเหล่านั้น ล้วนมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นความผิดที่ไม่สามารถยอมความได้ ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวข้างต้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ ตำรวจได้ทยอยดำเนินคดีตามกฏหมายแล้ว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯแพทองธาร โพสต์โซเชียล สั่งมหาดไทยช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้โดยด่วน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและ X ระบุถึงสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดภาคใต้ว่า “เหตุการณ์น้ำท่วมหนักที่จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และระนอง
ศปช. สั่งเร่งเคลียร์พื้นที่ถนนสายเอเชีย 41 จมบาดาล หลังชุมพร-นครศรีฯฝนตกหนัก
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
นักวิจัยไทยเจ๋ง เพิ่มมูลค่าสารสกัด 'มะม่วงหาวมะนาวโห่'
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกปะจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์
'สปสช.' ยันไม่ได้ติดหนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีงบพร้อมจ่ายแต่ติดเงื่อนไขทางคดี
สืบเนื่องจากกรณี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ระบุว่าโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะมีความจำเป็นต้องหยุดให้บริการรับส่งต่อผู้ป่
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 9 'ภาคกลาง-กทม.' อากาศหนาวเย็นมากขึ้น อุณหภูมิลด 3-6 องศา
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 9 (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 13-16 ธันวาคม 2567)
'แจกเงินหมื่น' เฟส 3 ไม่ใช้แอปเป๋าตัง กำลังจัดซื้อจัดจ้างพัฒนาระบบ คาดเสร็จ มี.ค.68
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำแอปพลิเคชันที่ใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เงิน 10,000 บาท เฟส 3 หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกมนตรี