‘พรรคพลัง’ สายกลาง ไม่ขวาสุดโต่ง ไม่ซ้ายสุดขอบ

               ถือเป็นก้าวแรกในการสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ สำหรับ "พรรคพลัง" พรรคใหม่ที่ใจใหญ่ โดยมี นายลิขสิทธิ์ ใสกระจ่าง เป็นหัวหน้าพรรคพลัง และ ดร. สาวิทย์ หลาบมาลา โฆษกพรรคพลัง ผู้สมัครเขต 2 จังหวัดหนองบัวลำภู มาพูดถึงแนวนโยบายของพรรค

               นายลิขสิทธิ์บอกถึงนโยบายของพรรคพลังว่า มีการทำงานที่ชัดเจนและค่อนข้างแน่น โดยเฉพาะบางจุดที่เราเน้นให้พี่น้องประชาชนพึงพอใจและมั่นใจว่าเลือกพรรคพลัง และที่เรามั่นใจมากวันที่เราไปสมัครเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ปรากฏว่าจับหมายเลขได้เลข 9 ซึ่งเป็นเลขมงคลของคนไทย ความมั่นใจตรงนี้เกิดทำให้เราเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารออกไป พี่น้องประชาชนชอบโลโก้ของพรรค เป็นโลโก้ที่ค่อนข้างแข็งแรง ในสายตาของพี่น้องประชาชนไม่ลวดลายจนเกินไป

               ตรงนี้คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ศึกยุทธศาสตร์ที่เราหาเสียงในครั้งนี้ นอกจากสื่ออย่างที่น้องทำ พวกเราเตรียมการไปปราศรัยใหญ่ ในแต่ละจุดแต่ละพื้นที่เพื่อเผยแพร่นโยบายให้พี่น้องได้เห็นและลงป้ายตามพื้นที่ต่างๆ นอกจากพูดแล้วได้เห็นป้ายความมั่นใจก็เกิด คาดหมายว่าน่าอยู่ประมาณ 3-4 ล้านคะแนน

               "เราส่งปาร์ตี้ลิสต์ได้ในเวลาอันจำกัด เพราะเวลาเกี่ยวกับกฎหมาย เกี่ยวกับ กกต.ค่อนข้างจำกัดมาก แม้แต่ตัวแทนจังหวัดที่เราทำไว้เพื่อส่งผู้สมัครเขต เราทำไว้บางจังหวัด แต่เราไม่สามารถวิเคราะห์ หรือตรวจสอบได้เลย ส่งเข้ามาเราก็อยากได้ แต่ตรวจสอบไม่ละเอียดความเสี่ยงของพรรคก็เกิด ก็เลยต้องเกิดตามจำนวนที่ต้องการ แต่ตามกฎหมายบอกว่าส่ง 1 คน 1 เขต สามารถส่งปาร์ตี้ลิสต์ได้ เราก็สามารถทำตามกฎหมายได้ และได้มาประมาณ 5 เขต น่าจะเพียงพอที่เราจะลงไปหาคะแนนให้พรรคได้ หาคะแนนให้ผู้สมัครได้ในจังหวัดที่เราส่งเขต"

นายลิขสิทธิ์ ใสกระจ่าง หัวหน้าพรรคพลัง

5 เขตที่บอกมีจังหวัดใดบ้าง

               หนองบัวลำภู 2 เขต คือเขต 2 กับเขต 3 ซึ่งหนองบัวลำพูสำคัญที่ว่าโฆษกพรรคไปลงเขต 2 ส่วนเขต 3 เป็นครูที่มีศักยภาพสูงในพื้นที่ เคยทำการเมือง เคยปั้น ส.ส.มาหลายคน ที่จังหวัดเชียงใหม่ 3 เขต เขต 2 เขต 9 กับเขต 10 เชียงใหม่จะเกี่ยวกับชนเผ่าชาติพันธุ์ ซึ่งเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่จะเกี่ยวข้องกับชนเผ่าชาติพันธุ์ เขต 9 เป็นเขตที่ผู้สมัครเป็นตัวแทนชาติพันธุ์จริงๆ ก็เลยมั่นใจว่าน่าจะมีเข้ามาบ้างตามจำนวนที่เราส่ง ส่วนปาร์ตี้ลิสต์ที่เรานำเสนอเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นกรรมการบริหารของพรรค เพราะคุณสมบัติของคนข้างนอกเราตรวจสอบไม่ทันจริงๆ

ถ้ามองเป้าหมาย 3-4 ล้านคะแนน ปาร์ตี้ลิสต์ได้ถึง 10 คนอยู่แล้วถูกไหม

               เฉลี่ย 3 แสนเศษๆ ต่อคน ซึ่งเศษอาจจะเยอะด้วย ตรงนั้นเป็นแรงผลักดันให้พวกเราฝ่าฟัน มันเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับการรณรงค์ของพวกเราด้วย เพราะการที่จะผ่านแต่ละคะแนน มันก็ไม่ง่าย แต่พวกเราก็ไม่ท้อ เพราะบัตร 2 ใบไม่ผูกติด ถ้าเป็นสมัยปี 62 บัตรใบเดียวพวกเราจะแย่กว่านี้ เพราะถ้าเราไม่ส่งผู้สมัครทุกเขต เราก็ไม่มีหมายเลขให้เลือก แต่ตอนนี้กฎหมายบอกว่าท่านส่งไม่ครบก็จริง แต่พรรคท่านหาเสียงได้ทั่วประเทศโดยเบอร์ 9

นโยบายที่จะเป็นจุดขายในแต่ละด้าน

               นโยบายของพรรคเรามันมีจุดขาย คงไม่พ้นความเป็นอยู่ของสถาบันครอบครัว เพราะปัจจุบันนี้ผมเดินทางไปหลายจังหวัดทั่วประเทศ ถ้าพูดถึงถนนหนทาง มันไม่ขี้เหร่แล้ว งบประมาณแต่ละปีเอาไว้ซ่อมแซมบ้าน แต่ความจำเป็นเพิ่มขึ้น เพิ่มเท่าไหร่ก็ไม่พอ จะเป็นนโยบายที่สุ่มเสี่ยงต่อการทุจริตคอร์รัปชัน พวกเราเลยหันมาดูแลปากท้องประชาชนจริงๆ ในครัวเรือน เราเน้นที่สถาบันปฐมภูมิเลย คือ สถาบันครอบครัว เช่น เงินเดือนนักเรียน ถ้าพูดถึงเงินเดือนนักเรียนเป็นขั้นที่ 2 แล้ว จริงๆ แล้วตั้งแต่เกิดจนวาระสุดท้ายของชีวิต เด็กแรกเกิดเรามีเงินเดือนให้พ่อแม่ จนถึง 3 ปี 6,000 บาทต่อคนต่อหัวต่อเดือน ตั้งแต่เกิดถึง 3 ปี เงินเดือน 6,000 บาท หลังจากนั้นเข้าอนุบาลถึง ป.6 เราให้ 6,000 บาทเหมือนกัน

               ส่วนที่เพิ่มขึ้นคือ ม.1-ม.3 คือ 7,000 บาท ม.4-ม.6 คือ 8,000 บาท เป็นรายเดือน เป็นเงินเดือนของนักเรียน ช่วยเหลือผู้ปกครอง เพราะว่าขายแรงงาน จะพูดถึงเงินเดือนผู้ปกครอง รายได้ผู้ปกครองต่อวัน วันนี้มองภาพว่า ถ้ามันขึ้นยากเย็น ถ้าจะเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ การที่เขาต้องลงทุนเพื่อให้ได้มาเพื่อหล่อเลี้ยงพนักงานของเขา จะขึ้นนิดหน่อยก็ว่ากันไป ถ้ามีตรงนี้เข้าไปในครอบครัวของเขา บุตรหลาน 3 คนในวัยนี้ ครอบครัวของเขาจะได้เงิน 24,000 นี่คือสิ่งที่รัฐอยากจะช่วยเหลือครอบครัวให้มีโอกาสเท่าเทียมกับครอบครัวอื่นๆ จะเป็นคนรวยคนจนก็ได้สิทธิ์เท่ากัน เราคำนวณค่าใช้จ่ายตรงนี้เป็นรายเดือนก็ไม่มากหลักแสนล้าน แต่ในระหว่างที่เราบริหารจัดการ เราปรับปรุงโครงสร้าง หมายความว่านักเรียนที่เรียนอยู่ในปัจจุบันนี้ ที่เลือกวิทย์ คณิต ศิลป์ ภาษาทั่วไป จบ ม.6 ไม่สามารถเอามาประกอบอาชีพได้ คือต้องเรียนต่อ และถ้าหางานทำก็พื้นๆ ไม่มีวิชาชีพติดตัว เราจึงอยากจะแทรกสายวิชาชีพเข้าไป ในรุ่นที่เราสร้างใส่สายวิชาชีพไปในหลักสูตร เอาความถนัด ความต้องการ ความชอบ ของเด็ก ว่าอยากทำอะไร จบ ม.6 มาเขาจะมีใบประกาศนียบัตรว่าเขาจบ ม.6 สายอาชีพนี้ วิทยาลัยเทคนิค หรือวิทยาลัยต่างๆ อาจจะมีความรู้สึกว่าซ้ำซ้อน

               ความเป็นจริงมันไม่ซ้ำซ้อน เพราะประเทศเราต่อไปหลังจากนี้ภายใน 4 ปี ถ้าทำนโยบายนี้ได้ จะเป็นรัฐสวัสดิการได้เลย เพราะเงินเดือนของอาสาสมัครต่างๆ ก็มี แล้วผู้สูงอายุต้องได้เพิ่ม สิ่งเหล่านี้เป็นการช่วยครัวเรือน ครอบครัวเป็นหลัก เพราะประเทศไทยฐานประชากร เศรษฐกิจ มีลักษณะพีระมิด ข้างล่างเยอะ กลางน้อย ส่วนข้างบนจริงๆ กี่คน แต่บังเอิญเป็นคนคุมเศรษฐกิจไทย ถ้าตรงนี้แน่นถ้าล้มก็ไม่มีปัญหา ถ้าข้างล่างแน่น แต่ทุกวันนี้มันจะเป็นข้างบนกินจนอิ่ม แล้วทิ้งเศษให้ข้างล่างกิน ตรงนี้พวกเรามองว่าความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน ท่านจะรวย จะมี จะจน แต่สิทธิขั้นพื้นฐานควรมี เพราะฉะนั้นคนไทยเกิดมาทุกคนจะมีค่าหัวทุกคนตามที่ว่า

ดร. สาวิทย์ หลาบมาลา โฆษกพรรคพลัง ผู้สมัครเขต 2 จังหวัดหนองบัวลำภู

ในมุมของนโยบายที่พูดถึงการจัดเจรจาเข้าร่วม จุดยืนของเราเป็นรัฐบาลเลยหรือปักธง ส.ส.ก่อน

               ในการหาเสียงต้องปักธงก่อน ถ้านโยบายที่พูดไปถูกใจพี่น้องประชาชน เลือกพลังเบอร์ 9 เลือกพลังเบอร์ 5 ที่หนองบัวลำภู เลือกพลังเบอร์ 5, 6, 9, 12 ที่เชียงใหม่ และได้พลังเข้าไปเกิน 10 กว่าคน เราถึงจะต้องมานั่งคุยกันว่าต่อรองอะไรได้บ้าง ซึ่งรูปแบบของการทำงานของพรรคพลังเป็นสายกลาง ไม่ได้ขวาสุดโต่ง ไม่ได้ซ้ายสุดขอบ คืออยากให้พี่น้องประชาชนมีความสุขร่วมกันในทุกๆ เรื่อง อย่างนโยบายที่ผูกติดมา คือความเท่าเทียมกัน ได้ทุกคน ตรงนี้คือครอบครัวจะมีความสุขมาก

ถ้าจะมีการปราศรัยจะลงพื้นที่ไหนบ้าง

               เราเล็งไว้ที่หนองบัวลำภู เชียงใหม่ คงต้องปราศรัยทั้งจังหวัดเวทีเดียว แบบที่เขาทำกัน เวลาไปปราศรัยใหญ่ก็พูดทีเดียว แนะนำผู้สมัครเขตและเผยแพร่นโยบาย ถ้าเราจะวนอยู่ทุกอำเภอแต่ละจังหวัดจะไม่ทัน จังหวัดไหนที่เราศึกษาดู เราดูจากผลตอบรับ เราจะยกพวกไปทางนั้น

เก็บข้อมูลอย่างไรตามที่หวัง 3 ล้านคะแนน จากทั่วประเทศ

               ต้องบอกว่าพรรคพลังเราในการจัดตั้งทั้งพรรคการเมือง เราจะมีแกนนำทั่วประเทศ วิธีการบริหารจัดการมีการประชุมแต่ละภาค เชื้อเชิญสมาชิก เชื้อเชิญแกนนำแต่ละภาค อีสาน เหนือ กลาง ใต้ ตะวันออก ตะวันตก 77 จังหวัด จะมีหัวคะแนน แกนนำ บวกกับเลข 9 นำโชคของพรรคพลัง แต่ถ้าได้เลขอื่นต้องกลับมาทบทวนว่าคนจะจดจำได้ไหม สิ่งที่บ่งบอกได้ชัดคือโลโก้พรรค และเลข 9 ที่ย้ำโลโก้พรรคดูจากโลโก้ต้องบอกว่าเราไม่ได้เป็นนอมินีของใคร และไม่ได้ลอกเลียนใคร เมื่อเราทำขึ้นมาชื่อพลังสั้นๆ มาจากพลังของการเปลี่ยนแปลง พลังแห่งความหวัง แล้วก็พลังของพี่น้องประชาชน แต่ไม่ได้บอกเป็นเครือญาติของพลังประชารัฐ หรือเป็นนอมินีของใคร บางคนตีความไปผิดๆ ถูกๆ พอเราได้เบอร์แล้วเราก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้พี่น้องจดจำได้ ว่าเข้าคูหา 3 วินาทีจะกาเบอร์ 9 เรามองว่าพี่น้องจดจำอะไรได้ จดจำพรรคพลังได้หรือไม่

               คือเน้นย้ำ เราเลยบอกตัวแทนทั้งหลาย ว่ากาเบอร์ 9 ถ้าจำไม่ได้ให้จำ พ. และมีกำปั้น ผมคิดว่าถ้าเราไม่รวมเบอร์ 1 พรรคใหม่ซึ่งมีกำปั้นอันเดียว ผมว่ายังไม่ปังเท่ากับโลโก้ของพรรคพลัง สื่อหลายสื่อเอาไปเทียบเคียงระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลัง ว่าจะเจอวิชามารไหม ผมมองว่าถ้าโลโก้พรรคผ่าน คณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองยินยอมแล้ว คือมันไม่เหมือนแน่ๆ และที่สำคัญ พี่น้องเขาจำ นี่คือตัวแทนของประชาธิปไตย และเลือกคนทำงานไปทำงาน เลือกคนทำงานเข้าสภา นี่คือสาระสำคัญ 77 จังหวัด แกนนำกระจายให้พี่น้องประชาชนทั่วถึงโดยเฉพาะ ผู้สมัคร ส.ส.ยังต้องทำงานระบบออฟไลน์ คือไปแจกโบรชัวร์ ไปแนะนำ หาเสียงกับประชาชน 5-7 วันก็มีความหมาย การเมืองพริบตาเดียวก็เปลี่ยนได้ ผมว่า 18-19 เสียงมาแน่ แล้วขอร่วมตั้งรัฐบาล ถ้าจำเป็นต้องเป็นฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบเข้มแข็ง

มีวิธีการสร้างแบรนด์ให้จดจำยังไง

               เรื่องแบรนด์บางคนสับสน เครือญาติเพื่อไทยไหม มาถามเยอะ ผมบอกให้อ่านชื่อ พลัง จะเพื่อไทยตรงไหน ชื่อยังไม่เหมือนเลย แล้วจะเหมือนได้อย่างไร โลโก้ของพรรคเพื่อไทยสีแดงทั้งหมด ไม่มีสีน้ำเงินและธงชาติ ความหมายเปลี่ยนไปแล้ว แต่ของเราโลโก้คงไว้ซึ่งความหมาย คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

               ต้องขอโอกาสให้พรรคพลังเอาคนทำงานเข้าสภาและเอาคนทำงานไปขับเคลื่อนนโยบาย และนโยบายเหล่านี้มันเป็นผลดี เป็นประโยชน์ต่อปากท้องพี่น้องประชาชน ค่าน้ำมันเป็นเรื่องเศรษฐกิจ มีผลต่อค่าเงินดอลลาร์ระดับโลก ใครบอกไทยผลิตน้ำมันไม่ได้ ทำไมบ้านเราต้องไปอ้างอิงราคาสิงคโปร์ ถามว่าทำไมไปง้อนายทุนต่างๆ พรรคพลังกำหนดว่า ดีเซล หรือเบนซิน ไม่ว่าจะส่งออกได้น้ำมันราคาถูก ไม่เกิน 25 บาท นอกจากนี้เราเห็นว่ายางพาราสมัยคุณยิ่งลักษณ์ 180/กก. ตอนนี้ 3 โลร้อย พรรคพลังผลักดัน 120 บาท/กก. 120 บาทสามารถตั้งตัวได้ ไม่ต้องมาขุดทองที่ กทม. ไม่ต้องไปหางานที่ซาอุฯ

               เราแค่ลดคนกลางยิงตรง ขายตรง แพลตฟอร์มเข้ามาช่วย เรื่องของกัญชาพรรคเราค้าน เราเน้นปราบยาเสพติด ทำไมต้องปราบ เอามาตรการเด็ดขาดเลย แล้วยกเลิกกัญชาเสรี ไม่เอาเหมือนคุณชูวิทย์ อย่างเอาไปใช้ทางการแพทย์มันต้องมีกฎหมายควบคุม เยาวชนพี้กัญชาทั่วบ้านแล้วผู้ปกครองจะว่าอย่างไร เรามองเห็นว่าบ้านเราปากว่าตาขยิบ อย่างบ่อนการพนัน เปิดเสรีไปเลย จะได้เอาเงินนั้นมาสนับสนุนเงินเดือนนักเรียนที่ตั้งใจเรียน สิ่งเหล่านี้ยังไม่เคยเกิดในบ้านเรา คือผลักดันกระทรวงยาเสพติดและสารพิษ ทำไมต้องมี เห็นไหมว่าตำรวจล่อซื้อ ดูด ขาย ทำไมถึงไม่สร้างกระทรวงยาเสพติดและสารพิษ สตรีและเยาวชน กฎหมายคุ้มครองตอนถูกข่มเหงทางเพศ แต่จะมาคุ้มครองต่อเมื่อมาร้องทุกข์ เราว่าถ้าพลังเข้าไปได้จะผลักดันตั้งกระทรวงสตรีและเยาวชน ถ้าได้ 2 อย่างความเสมอภาคเท่าเทียมกัน การกำจัดยาเสพติดเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ทำให้สตรีจากช้างเท้าหลังเป็นช้างเท้าหน้า ความเสมอภาคให้เป็นผู้นำอย่างแท้จริง.