ผบช.สตม.ซํ้ารอยจักรทิพย์ ถึงไทยไร้เงา‘พรหมเมธี’


เพิ่มเพื่อน    

  "จักรทิพย์" ยังเก็บตัวเงียบ เมินแจงรายละเอียดผลการตามตัว "อดีตพระพรหมเมธี" ตร.เตรียมเสนอยกเลิกหนังสือเดินทางอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ทุกเล่ม หวังเพิ่มช่องให้เยอรมนีเนรเทศผู้ร้ายชาวไทยกลับประเทศ ส่วน "ผบช.สตม."  บินกลับแล้ว ยังคว้าน้ำเหลวเช่นเดิม เหตุติดปมขอลี้ภัย คาดใช้เวลากว่า 2 เดือน "ปปป.ตร." สอบพบ 3 วัดในจังหวัดพิจิตรส่อทุจริตเงินทอนวัด

    เมื่อวันศุกร์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยังคงเก็บตัวเงียบและไม่ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปประเทศเยอรมนี เพื่อประสานงานขอรับตัวอดีตพระพรหมเมธี หรือพระจำนงค์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามฯ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินทอนวัดกลับประเทศไทย หลังเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเรื่องเดินทางไปประเทศเยอรมนีเพียงแค่ "อากาศดี" และ "ไม่ได้เดินทางไปพบท่าน" เท่านั้น
    มีรายงานจากตำรวจคณะทำงานติดตามอดีตพระพรหมเมธี เสนอยกเลิกหนังสือเดินทางทุกเล่มของอดีตพระพรหมเมธี พร้อมประสานไปยังทางการเยอรมนีแล้ว เพื่อใช้วิธีการทางเทคนิคว่าสามารถใช้การเนรเทศ ซึ่งเป็นกฎหมายภายในได้หรือไม่ เนื่องจากไทยกับเยอรมนีไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน แต่ก็มีการพึ่งพาในมาหลายครั้ง โดยใช้เทคนิคช่องทางนี้
    "การเนรเทศโดยอาศัย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จึงเป็นวิธีการทางเทคนิคที่ไทยสามารถใช้เป็นทางลัดส่งผู้ร้ายให้ต่างชาติได้อย่างรวดเร็ว ในทางกลับกัน การที่ผู้ร้ายชาวไทยหนีไปต่างประเทศ ต้องดูหลักกฎหมายของเขาว่าจะเนรเทศกลับมาให้เราได้อย่างไร” แหล่งข่าวระบุ
    มีรายงานว่า จากการตรวจสอบก่อนหน้านี้ พบอดีตพระพรหมเมธีมีหนังสือเดินทางทั้งหมด 4 เล่ม ซึ่งมีทั้งใช้งานได้และหมดอายุแล้ว โดยขณะถูกจับได้พบใช้หนังสือเดินทางประเภทราชการปกสีน้ำเงิน เพื่อเข้าประเทศเยอรมนี โดยหนังสือเดินทางเล่มดังกล่าว เพิ่งทำเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา สามารถเดินทางเข้า-ออกต่างประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และอยู่ในประเทศเยอรมนีได้ 90 วัน
    โดยพาสปอร์ตปกสีน้ำเงินดังกล่าวพบว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2561 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีหนังสือถึงอธิบดีกรมการกงสุล เรื่อง อดีตพระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม และคณะ รวม 4 รูป เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ให้โอวาทธรรมแก่พุทธบริษัทชาวจีน เมืองเซี่ยะเหมิน ในวันที่ 24-30 มี.ค. 2561 จึงขอความอนุเคราะห์ออกหนังสือเดินทางราชการ กำหนดอายุ 5 ปี ถวายพระภิกษุดังกล่าว อดีตพระพรหมเมธีจึงมีหนังสือเดินทางราชการ หรือพาสปอร์ตสีน้ำเงินตั้งแต่ก่อนหน้าการหลบหนี โดยหนังสือเดินทางราชการจะมีสิทธิพิเศษคือ สามารถเข้าประเทศที่ไทยทำข้อตกลงเอาไว้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันที่ 8 มิ.ย. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้เดินทางกลับจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี หลัง ผบ.ตร.เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. และให้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ พร้อมคณะประสานงานกับทางประเทศเยอรมนี เพื่อขอรับตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับประเทศไทย แต่ปรากฏว่าการเดินทางกลับของ ผบช.สตม.ก็ยังไม่มีอดีตพระพรหมเมธีเช่นกัน
    "ยังไม่สามารถนำอดีตพระพรหมเมธีกลับมาได้ เพราะติดปัญหาข้อกฎหมายที่ได้ยื่นลี้ภัย จึงต้องรอขั้นตอนกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมายที่ประเทศเยอรมนี ที่คาดว่าต้องใช้เวลานานถึง 2 เดือน" แหล่งข่าวระบุ
    ขณะที่ พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กล่าวถึงกรณีมีข่าวระบุเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประจำด่านตรวจคนเข้าเมือง 4 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 นครพนม-คำม่วน เกี่ยวข้องกับการหลบหนีออกนอกประเทศของอดีตพระพรหมเมธีว่า ตำรวจ ตม. 2 นาย ประจำด่านตรวจคนเข้าเมือง 4 ไม่ได้เป็นผู้นำพาอดีตพระพรหมเมธีพร้อมสีกาหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไทย 
    "แต่ขณะนี้ พล.ต.ต.กิตติกร บุญสม ผู้บังคับการตำรวจคนเข้าเมือง 4 ก็ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 นายนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร รวมถึงตรวจสอบบุคคลอื่นที่อยู่ในวันเกิดเหตุด้วยว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบมีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือให้กลุ่มผู้ต้องหาหนีออกนอกราชอาณาจักรจริง จะดำเนินการเอาผิดทั้งวินัยและอาญาอย่างแน่นอน" โฆษก สตม.กล่าว 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ศาลได้ออกหมายจับผู้ให้การช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธีแล้ว 5 ราย เป็นคนไทย 2 คน และชาวลาว 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนางนางศศิร์อร หรือสีกาจุ๋ม เจียมวิจิตรกุล ลูกศิษย์คนสนิท เป็นเจ้าของรถตู้พาพระพรหมเมธีหลบหนี พบว่า สีกาจุ๋มได้เดินทางออกจากประเทศไทยก่อนที่หมายจับจะถูกส่งไปถึง ตม.ไม่กี่ชั่วโมง โดยเดินทางไปอยู่ประเทศอังกฤษ 
    ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองประธานกรรมการ บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ THL กล่าวถึงกรณีนางศศิร์อร หรือสีกาจุ๋ม มีชื่อเป็น 1 ใน 5 ผู้ที่ถูกออกหมายจับกรณีพาพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาเงินทอนวัดหลบหนีว่า บริษัทไม่ได้เกี่ยวข้อง และจะไม่มีผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากนางศศิร์อรเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นฝ่ายบริหาร
    "ที่ผ่านมามีความพยายามจะสร้างเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับบริษัท โดยปฏิเสธว่ากรณีการทำเหมืองทองแดงที่ประเทศ สปป.ลาวนั้น ปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้ทำเหมืองในประเทศ สปป.ลาวเลย เพียงแต่มีแผนที่จะซื้อหุ้นบริษัทที่อยู่ระหว่างการขอประทานบัตรทำเหมืองในลาวเท่านั้น ส่วนหุ้นทุ่งทองคำบริษัทได้ขายไปหมดแล้วตั้งแต่ปี 2529 ซึ่งทุกคนสามารถตรวจสอบได้" นายศุภชัยกล่าว
    ที่วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณประตูรั้วทางเข้าที่จะเดินไปยังกุฏิของอดีตพระพรหมเมธีถูกล่ามโซ่ห้ามบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป และบรรยากาศภายในวัดเป็นไปอย่างเงียบเหงา 
    ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 4 นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตรวจสอบมีวัดใน จ.พิจิตร 3 วัด ประกอบด้วย วัดต้นชุมแสง วัดหนองเต่า วัดธงไทยยาราม พบพฤติกรรมการโอนเงินงบบูรณปฏิสังขรณ์วัดละ 2 ล้านบาท แล้วมีการถอนเงินคืน 2 ล้านบาท ไปให้ยังบุคคลอื่น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้
    ทั้งนี้ เบื้องต้นการพบการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 4 พบวัดเข้าข่ายทุจริตเงินทอนวัดประมาณ 30 วัดแล้ว โดยเป็นวัดในจังหวัดภาคเหนือ 15 วัด และวัดในจังหวัดภาคกลาง 15 วัด หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานที่ชัดเจนก่อน จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อหรือรายละเอียดต่างๆ ได้. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"