ส้มหวานส่อเค้าเละ ซัดทอนบ้าอำนาจ!


เพิ่มเพื่อน    


    อนาคตใหม่แตกยับ สาวไส้-ขับไล่-แฉ-แทงกันเอง เละเทะ! ผลพวงโหวต พ.ร.ก.โอนย้ายกำลังพลฯ-พ.ร.บ.งบฯ สาขาพรรคเมืองชลประจาน-ไล่ส่ง ส.ส.แหกคอกโหวตฝั่งรัฐบาล อัดขายตัว ปูดไส้เน่าพรรคไทยซัมมิทฯ ส.ส.เขตซดเกาเหลาแก๊งปาร์ตี้ลิสต์ แฉธนาธรบ้าอำนาจ สะพัดแกนนำ-ส.ส.เตรียมพรรคสำรอง "ทิม พิธา" กลบข่าวไม่ขออยู่ใต้เงาเสี่ยเอก  
    ผลพวงทางการเมืองหลังจบสิ้นการอภิปรายและลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 โดยเฉพาะในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ ที่มี ส.ส.ของพรรคโหวตสวนมติพรรคอนาคตใหม่ โดยไปโหวตในฝ่ายเดียวกับรัฐบาลคือเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯ 
    น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีการโหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณของ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.เขต 7 จ.ชลบุรี ว่าตอนนี้พรรคอนาคตใหม่อยู่ระหว่างการทุ่มสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อการเลือกตั้งนครปฐม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อการเลือกตั้งนครปฐมเสร็จสิ้น จะมีการประชุมระหว่างกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อกรณีนี้ ในส่วนของคนอื่นนั้น เบื้องต้นเท่าที่ทราบตอนนี้มีปรากฏชื่อมาแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งคาดว่ากรณีนี้จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ลงมติเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.งบฯ ดังกล่าวนั้น นายเทพพิทักษ์ มะลาศรี หัวหน้าคณะทำงานพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดชลบุรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ Mac Malasri ว่าด้วยบทบาทหน้าที่ที่ได้รับเลือกตั้งจากสมาชิกพรรคให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานจังหวัดชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ "ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด" ในฐานะผู้ก่อตั้งกลุ่มอนาคตใหม่ชลบุรี ผมและทีมงานทำงานอย่างหนักเพื่อขยายแนวคิดและอุดมการณ์อันสำคัญของพรรค พวกเราผ่านการปรามาส สบประมาทมามากมาย ทุกอย่างมันไม่ง่ายเลยในการถือธงอนาคตใหม่ในครั้งนั้น ก่อนการเลือกตั้งพวกเราแทบจะไม่มีใครรู้จัก เพราะทุกคนใหม่กับการเมืองทั้งหมดรณรงค์หาแนวร่วมเพื่อหาบุคคลที่มีแนวคิดสอดคล้องกับพรรค, รณรงค์หาสมาชิกพรรคเพื่อเปิดศูนย์ประสานงานพรรคที่จังหวัดชลบุรี, รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อจะชนะการเลือกตั้ง จนในที่สุดเราก็ทำสำเร็จในระดับหนึ่ง เราชนะการเลือกตั้ง 3 เขตจาก 8 เขตของจังหวัดชลบุรี แน่นอนว่าปัจจัยที่ทำให้ชนะการเลือกตั้งคือ กระแสพรรค ลงพื้นที่ บวกกับผู้คนเบื่อหน่ายการเมืองแบบเดิม ต้องการเปลี่ยนแปลง และอยากเห็นคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานการเมือง 
    "แต่วันหนึ่งกลับมีคนทรยศต่ออุดมการณ์ ทรยศต่อคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน กระผมขอเรียกร้องในฐานะประชาชน ขอให้ลาออกจากการเป็นผู้แทนของปวงชนเสีย เพราะคุณไม่สง่างาม และผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน"
    วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก กฤตนู เอกวัฒนากุล ซึ่งเป็นเลขานุการพรรคอนาคตใหม่ ศูนย์ประสานงานจังหวัดชลบุรี โพสต์ข้อความระบุว่า เนื่องจากมีคนทักข้อความมาถามผมเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถตอบได้ ผมจึงขอเรียนชี้แจง ณ ตรงนี้
    "ผมในฐานะเลขานุการพรรคอนาคตใหม่ ศูนย์ประสานงานชลบุรี ต้องขอกราบอภัยประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ที่มี ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่โหวตสวนมติพรรคนั้น เท่ากับเป็นการทรยศต่อประชาชน ผมขอเขียนอธิบายดังนี้ว่า ตอนที่คัดเลือกผู้ที่จะมาเป็นแคนดิเดต ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ เรามีเวลาคัดเพียง 2อาทิตย์ ซึ่งเราไม่สามารถทราบรายละเอียดเชิงลึกของบุคคลแต่ละบุคคลได้ และทางพรรคอนาคตใหม่เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคทุกคนสามารถเสนอตัวเองลงเป็นผู้สมัคร ส.ส.ได้ ผ่านการโหวตของสมาชิกในเขตนั้นๆ เรื่องของ ส.ส.คนนี้ ผมทราบทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ จึงขอเขียนอธิบายดังนี้
    ส.ส.คนนี้เข้ามาเป็นผู้สมัคร ส.ส. ผมสามารถนับจำนวนครั้งการลงพื้นที่หาเสียงได้ ขนาดทีมงานของจังหวัดไปช่วยลงพื้นที่ ยังมีปัญหาในหลายๆ ครั้ง และคนคนนี้ไม่ได้มีความเป็นอนาคตใหม่แม้แต่น้อย คอยคุยและดีลกับอีกฝั่งอยู่เสมอ ซึ่งทางคณะทำงานจังหวัดนั้นทราบดี และคอยประคับประคองประนีประนอมกันอยู่ตลอดมาเวลา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ตอนนี้ทุกอย่างมันชัดเจนแล้วว่าอะไรคืออะไร (ผมเชื่อว่าทุกท่านไม่สามารถถามหาคำชี้แจงจากเค้าได้ เพราะการกระทำมันชัดเจนอยู่แล้ว"
    เลขานุการพรรคอนาคตใหม่ ศูนย์ประสานงานชลบุรี ให้ข้อมูลอีกว่า "ส.ส.คนนี้เค้าไม่ได้ลงพื้นที่หาเสียงมากเท่าไหร่ และไม่ได้คิดว่าจะเป็น ส.ส.ตั้งแต่ตอนแรก พอเค้าได้เป็นเค้าจึงไม่ยึดโยงและไม่เห็นหัวประชาชน (ผมขอยืนยันตอนนี้ว่า ครั้งหน้า จะไม่มีทางได้ลง ส.ส.อีก) ผมอยากให้ทุกคนในพรรคอนาคตใหม่เข้มแข็งไว้ นี้เป็นเพียงยุทธวิธีทางสงคราม ที่แยกกันตีแบ่งคนในพรรคออกเป็นหลายฝักหลายฝ่าย เพื่อจะได้จัดการได้เบ็ดเสร็จ (คนที่น่าสงสารที่สุดคือคุณธนาธร ผมสัมผัสคุณธนาธรมา 1ปี เค้าเป็นผู้ชายที่เสียสละมาก ผมไม่เคยเจอใครที่เสียสละได้เท่านี้ เข้ามาเพราะอยากเปลี่ยนแปลงการเมืองต้องมาเจอคดี ต้องมานั่งบริหารความพอใจของคนภายในพรรค เพราะพรรคให้อิสระเต็มที่ในระบอบประชาธิปไตย และยังต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้อีก ผมเชื่อว่าครั้งหน้าระบบกลั่นกลองของพรรคจะดียิ่งขึ้น เพราะนี้คือการเลือกตั้งครั้งแรกของพรรคเรา)
    ความคิดเห็นส่วนตัวของผมคือ พรรคควรมีมติไล่ ส.ส.คนนี้ออกจากพรรค (ผมเข้าใจดีว่าจะเป็นการเพิ่มเสียงให้อีกฝั่ง) แต่ถ้าไม่ไล่ออก ส.ส.คนนี้ก็จะตามไล่เต๊าะ ส.ส.ด้วยกันเพื่อให้ย้ายฝั่ง ซึ่งจะเกิดปัญหาในระยะยาว และถ้าพรรคไล่ ส.ส.คนนี้ออก ส.ส.คนนี้ก็ต้องหาสังกัดพรรคใหม่ ไม่อย่างงั้นจะทำให้สิ้นสุดการเป็น ส.ส. เท่ากับค่าตัวจะน้อยลงหรือแทบไม่เหลือเลย ทำให้เค้าไปหาผลประโยชน์แบบนี้อีกไม่ได้ และเป็นการสร้างความมั่นใจให้ voter ของพรรค (ไม่ว่ามติของกรรมการบริหารเป็นอย่างไรก็ตาม ผมเคารพ เพราะผมเข้าใจดีว่ากรรมการบริหารพรรคได้คิดไตร่ตรองมาทุกด้าน และนำมติที่ดีที่สุดออกมาเผยแพร่) ส.ส.ที่ขายตัว เงินที่ได้นั้นคือเงินที่มาจากการคอร์รัปชันของนักการเมืองด้วยกัน ไปคอร์รัปชันเงินของประชาชนมา ต่อให้คุณรับเงินมาเท่าไหร่ แต่ตราบาปจะติดตัวคุณจนวันตาย และคุณจะถูกตราหน้าว่า ส.ส.ขายตัว" เลขานุการพรรคอนาคตใหม่ ศูนย์ประสานงานชลบุรี ระบุไว้     ด้านแหล่งข่าวจากพรรคอนาคตใหม่แจ้งว่า ขณะนี้ในพรรคอนาคตใหม่มี ส.ส.เขตบางคน โดยเฉพาะกลุ่มที่เคยทำงานการเมืองมาก่อน รู้สึกว่าไม่ได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมแบบที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ได้รับ จนทำให้การโหวต พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด
    “เวลาพรรคทำอะไร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ที่พรรคจัดมา มักจะได้รับสิทธิอะไรมากมาย ส่วน ส.ส.เขตจะเป็นตัวประกอบซะส่วนใหญ่อย่างกรณีที่ไม่ได้รับการบรรจุอยู่ในกรรมาธิการคณะที่ต้องเองต้องการเข้าไปทำงาน โดยการตัดสินใจกรณีดังกล่าวเป็นการตัดสินใจของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดความอึดอัดในการทำงานเป็นอย่างมาก ซึ่งเราก็เรียกร้องอะไรกลับไปบ้าง แต่กลับไม่เคยได้รับอะไรเลย” แหล่งข่าวระบุ
    ทั้งนี้ สำหรับ ส.ส.กลุ่มข้างต้นส่วนใหญ่จะเป็น ส.ส.เขต และมีกรรมการบริหารพรรคบางรายทั้งหมด 7 คน อาทิ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่, นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น, นายนิรามาน สุไลมาน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นต้น
    รายงานข่าวยังระบุอีกว่า ปัญหาหลักอีกอย่างคือเรื่องช่วงอายุ และทัศนคติของคนแต่ละกลุ่มที่มาทำงานร่วมกัน อย่าง ส.ส.เขตจะมองเรื่องปากท้องของคนในพื้นที่ ที่ต้องการให้ประชาชนกินดีอยู่ดี แต่บางครั้ง นโยบายพรรคที่ต้องการเปลี่ยนแปลงภาพใหญ่ อาจขัดกับสิ่งที่ ส.ส.เขตกำลังผลักดันอยู่ เนื่องจากบรรดา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ส่วนใหญ่นั้นมองการแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างมากกว่า ปัญหาเฉพาะเจาะจงในแต่ละพื้นที่ เช่นเดียวกับปัญหาเรื่องการส่งผู้สมัครองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่บางจังหวัดอย่าง จ.นนทบุรี ที่แม้จะมีการจัดดีเบตไปแล้ว แต่กลับมีข่าวว่าการคัดเลือกตัวผู้สมัครนั้นไม่ได้ทำอย่างโปร่งใส เช่นเดียวกับ จ.จันทบุรี และชลบุรี ที่มีปัญหาในลักษณะใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการถูกพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามซื้อตัวไปแต่อย่างใด
    “คนเราอยู่ด้วยกัน โตๆ กันแล้ว อะไรที่มันยอมกันได้บ้างก็น่าจะยอมกัน ไม่ต้องวินวิน ห้าสิบ-ห้าสิบ เอาแค่สามสิบ-เจ็ดสิบก็รับได้แล้ว แต่นี่เล่นไม่ยอมเลย การทำงานมันก็อึดอัด บางเรื่องแนวทางความคิดของธนาธรและปิยบุตรก็แรงไป บางเรื่องเขาชนไม่บันยะบันยัง บางเรื่องเราก็ไม่เห็นด้วย เพราะประเทศเรา สามัคคีกันไว้มันก็ดี” นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าวระบุว่า ขณะนี้ทางพรรคมี ส.ส.บางกลุ่มเตรียมตัวจะออกไปตั้งพรรคใหม่ หากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่ม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ นำโดยนายทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขณะที่อีกกลุ่มคือกลุ่ม ส.ส.เขตที่มีปัญหาตามที่กล่าวมาข้างต้น หรืออีกทางหนึ่งคือออกไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้านอิสระ 
    ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. ที่เวทีปราศรัยพรรคอนาคตใหม่ ณ ตลาดธันยา อ.สามพราน จ.นครปฐม นายพิธาได้มาช่วยปราศรัยหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรค ซึ่งระหว่างนั่งรออยู่ด้านหลังเวที บรรดาเพื่อน ส.ส.ของพรรคต่างเข้ามาแซว หยอกล้อ ถึงข่าวลือที่เกิดขึ้นอย่างสนุกสนาน พร้อมกับได้ถ่ายรูปร่วมกันสยบข่าวลือ และยืนยันว่าไม่มีการแยกตัวออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่แน่นอน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"