ดาราดังฮอลลีวู้ด 'อเล็ก บอลด์วิน' ยิงผู้กำกับภาพตาย

เกิดเหตุน่าสลดในกองถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเมื่อวันพฤหัสบดี เมื่อพระเอกรุ่นใหญ่ "อเล็ก บอลด์วิน" ใช้ปืนประกอบฉากยิงผู้กำกับภาพหญิงวัย 42 ปีเสียชีวิต และยิงผู้กำกับวัย 48 ปีได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุปืนลั่น ตำรวจยังไม่ตั้งข้อหาหรือจับกุมเขา

รายงานของรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม 2564 กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Rust" ซึ่งเป็นหนังแนวคาวบอยตะวันตกย้อนยุค ที่โบนันซาครีกแรนช์ใกล้กับเมืองซานตาเฟ รัฐนิวเม็กซิโก

สำนักงานนายอำเภอซานตาเฟยืนยันผ่านแถลงการณ์ว่า มีคนโดนยิง 2 คนที่กองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยฮาลีนา ฮัตชินส์ ผู้กำกับภาพ วัย 42 ปี และโจเอล ซูซา ผู้กำกับภาพยนตร์วัย 48 ปี โดนอเล็ก บอลด์วิน ผู้อำนวยการสร้างและนักแสดงวัย 63 ปี ยิงด้วยปืนประกอบฉาก

ฮัตชินส์ถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก แต่เธอเสียชีวิต ส่วนซูซาถูกส่งขึ้นรถพยาบาลไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงและกำลังรับการรักษาอาการบาดเจ็บ ข่าวยังไม่แจ้งว่าเขาบาดเจ็บร้ายแรงแค่ไหน

ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาหรือจับกุมบอลด์วิน ซึ่งให้ความร่วมมือในการสอบปากคำและถูกปล่อยตัว โดยตำรวจกล่าวว่าพวกเขากำลังสอบสวนและสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

โฆษกของกองถ่ายเผยกับฮอลลีวู้ดรีพอร์ตเตอร์ว่า "อุบัติเหตุ" ปืนลั่นครั้งนี้เกิดจากปืนประกอบฉากที่ใส่กระสุนเปล่า

บอลด์วินเป็นผู้อำนวยการสร้างร่วมของภาพยนตร์ที่มีฉากหลังเป็นยุค 1880 เรื่องนี้ โดยเขารับบทเป็นฮาร์แลนด์ รัสต์ ตัวเอกชื่อเดียวกับภาพยนตร์ ที่พาหลานชายวัย 13 ปีหลบหนีจากโทษประหารชีวิตเพราะฆ่าคนตายโดยอุบัติเหตุ เขาโพสต์รูปลงอินสตาแกรมช่วงเช้าวันพฤหัสบดีก่อนเกิดเหตุ เป็นภาพในกองถ่ายที่เขาแต่งชุดย้อนยุคและมีเลือดปลอมเลอะเสื้อเชิ้ต

อุบัติเหตุปืนลั่นในกองถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่เป็นข่าวดังที่สุดเกิดกับแบรนดอน ลี ลูกชายของบรูซ ลี ที่เสียชีวิตระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "The Crow" โดยเขาโดนยิงด้วยปืนประกอบฉากที่ควรบรรจุกระสุนเปล่า

บอลด์วินเริ่มเข้าสู่วงการโทรทัศน์และภาพยนตร์ตั้งแต่ยุค 1980 โดยมีผลงานที่สร้างชื่อมากมาย อาทิ "The Hunt for Red October", "Glengarry Glen Ross", "Mission: Impossible" และ "30 Rock" งานโดดเด่นของเขาในช่วงหลังคือ การรับบทล้อเลียนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในรายการตลกทางโทรทัศน์ "Saturday Night Live" ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลเอมมี.