ซักฟอกไม่มีเกี๊ยะเซียะ พท.ลั่นต้องตีให้ตายในสภา ‘บิ๊กตู่’โอดรับปัญหาไว้เยอะ

“บิ๊กตู่” รับทำงานอาจไม่ถูกใจคนทั้งประเทศ แต่ต้องถูกต้อง โอดรับปัญหาไว้เยอะ หากเป็นคอมพ์เครื่องแฮงก์ไปแล้ว ปัดตอบสื่อถูกยื่นซักฟอก โยนคิดเอาเองข้อหารุนแรงหรือไม่ “วิษณุ” ระบุรอสภาประสานเคาะวันอภิปราย ชี้จากนี้ยุบสภาไม่ได้แล้ว “รัฐมนตรี” ดาหน้ามั่นใจแจงซักฟอกได้ทุกประเด็น “ธรรมนัส” เชื่อ “ลุงป้อม” ผ่านฉลุย ยังกั๊กยกมือหนุนรัฐบาลหรือไม่ “พท.” ลั่นซักฟอกไม่มีเกี๊ยะเซียะ ฮึ่ม! ตีไม่ตายในสภาก็หวังจะฆ่าด้วยสภา ปชช.ในสนามเลือกตั้ง คึกยกทัพไล่หนูตีงูเห่า จ.ศรีสะเกษ 18 มิ.ย. เล็งเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. โวกวาดยกจังหวัด “ปชป.” รับ “วีระชัย” ไขก๊อก ส.ส.

ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ วันที่ 16 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาและนิทรรศการ Thailand 5G Summit 2022: “The Real 5G Leader of The Region” จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชน บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และ Global System for Mobile  Communications Association (GSMA) APAC 5G Industry Community

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ The 5G Leader in the Region ตอนหนึ่งว่า วันนี้เราเจอปัญหาถึง 3 เด้ง เด้งแรก คือมาตรการกีดกันทางการค้า, สอง คือการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเด้งที่สาม คือผลกระทบของจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่สิ่งที่โชคดีคือปัญหาภัยแล้งของประเทศ ปีนี้ควบคุมได้ดี จึงสามารถที่จะนำงบประมาณที่จะไปแก้ส่วนดังกล่าวมาช่วยบ้านเมืองได้ และสิ่งสำคัญของการใช้ 5G คือนำมาใช้กับระบบสาธารณสุข

"ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้แค่ 5-6 บรรทัด แต่กิจกรรมมันเพียบ ไม่ไช่พูด 5 บรรทัดแล้วจบ กว่าจะมาตรงนี้ได้ กว่าจะสรุปตรงนี้ได้ ทำไส้ในมาทั้งหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นมันเกิดไม่ได้ ที่ผมจำเป็นต้องพูดเพราะต้องการให้ทุกคนเห็นว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นสิ่งที่ตนและรัฐบาลคิดมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด เมื่อโลกเปลี่ยน เราต้องปรับ อาจจะปรับไม่มากนัก เราแค่ปรับตัวของเรา ปรับการทำงาน ปรับความเข้าใจ มันก็เดินหน้าไปได้ด้วยดี" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า  "พูดมาเยอะแล้ว มีอะไรที่พูดผิดหรือไม่ถูกใจหรือไม่ก็ขออภัย ผมไม่สามารถทำให้ใครรักได้ ทุกคนพยายามทำทุกอย่างเต็มที่ เพราะเป็นหน้าที่ของผม หน้าที่ของนายกรัฐมนตรี พยายามทำให้ดีที่สุด ถ้าเปรียบเป็นคอมพิวเตอร์ป่านนี้ก็แฮงก์ไปแล้ว เพราะผมรับปัญหาไว้เยอะเลย แต่ทั้งหมดที่เดินมาได้ เพราะความร่วมมือของทุกคนไม่ใช่ผม ทุกคนช่วยกันอยู่แล้ว ผมไม่ตำหนิใคร รัฐบาลพยายามปรับแก้อยากจะให้ถูกใจ แต่ต้องถูกต้องด้วย เพราะทุกวันนี้เป็นโลกยุคประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าบางช่วงในการกล่าวปาฐกถา พล.อ.ประยุทธ์จำไม่ได้ว่าพูดถึงช่วงใด โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรียอมรับว่า “ผมเบลอ  พูดมากไปจนลืม”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจสั้นๆ โดยตั้งข้อกล่าวหาที่รุนแรงหรือไม่ว่า  ก็คิดเอาแล้วกันว่ามันเป็นยังไง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฝ่ายค้านยื่นอภิปรายนายกฯ และรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์สงวนท่าทีและพยายามไม่พูดถึงประเด็นดังกล่าวตั้งแต่การลงพื้นที่ จ.สกลนคร และเมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว

ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้สภายังไม่ได้ประสานเรื่องที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมา หากประสานมาแล้วรัฐบาลจึงค่อยมากำหนดวันว่าง ซึ่งไม่ใช่บอกแค่ว่าว่างวันนั้นๆ แต่จะต้องบอกว่าว่างตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป จากนั้นทางคณะกรรมการประสานงานหรือวิปก็จะไปกำหนดวันกันเอง

‘วิษณุ’ชี้ยุบสภาไม่ได้แล้ว

 “รัฐบาลยังไม่มีการกำหนดวัน และยังไม่รู้ว่าทางสภาจะกำหนดให้กี่วัน ซึ่งเดือนก.ค.ก็มีวันหยุดเยอะ เพราะฉะนั้นต้องหลีกเลี่ยงวันหยุดด้วย ส่วนถ้าจะคว่ำรัฐบาลให้ได้คะแนนเสียงไม่ไว้วางใจ จะต้องเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีอยู่ จะมาหรือไม่มาก็แล้วแต่ แต่จะนับจำนวนเสียงที่มีอยู่เท่านั้น” นายวิษณุกล่าว

                    ถามว่า หลังจากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ถือว่ารัฐบาลจะยุบสภาไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ รัฐบาลยุบสภาไม่ได้แล้ว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีมีชื่อถูกอภิปรายว่า เป็นโอกาสที่ดีในการแถลงผลงานในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา และยินดีที่จะตอบคำถามทุกคำถามในส่วนที่เกี่ยวข้องในอำนาจหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็บอกว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกอภิปราย เลยไม่ตกใจ ซึ่งเรื่องที่ฝ่ายค้านและ ส.ส.ไม่พอใจหรือสงสัยเรื่องใด ก็จะชี้แจงในการอภิปราย

ถามว่าหลังการอภิปรายจะนำไปสู่การยุบสภาเร็วขึ้นหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า คิดว่าหากเราผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ เราก็ต้องทำงานต่อไปอีกระยะหนึ่ง อย่างน้อยก็เรื่องของงบประมาณที่ต้องผ่านสภา รวมถึงเรื่องจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (APEC) ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะมาทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งเราก็ต้องจัดการประชุมนี้ให้สำเร็จให้ได้ หากมีการยุบสภาหรือไม่มีรัฐบาล ก็จะทำให้การประชุมเอเปกจัดขึ้นได้ยาก และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศด้วย

ส่วนนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ไม่ได้คาดว่าจะโดนเรื่องอะไร  แต่คิดว่าตอบได้ เพราะประเมินแล้วพรรคก้าวไกลน่าจะมีข้อมูลภายในลึกซึ้ง เนื่องจากกระทรวง พม.ทำงานกับองค์กรภาคประชาชนจำนวนมาก และองค์กรภาคประชาชนก็เป็นแฟนคลับของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีทั้งที่ทำงานให้ถูกใจและไม่ถูกใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นนักการเมืองก็ต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบอยู่แล้ว

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าต้องฟังเนื้อหาที่ฝ่ายค้านอภิปรายเสียก่อน ถ้าเสียหายต่อประเทศเราลงมติไม่สนับสนุนแน่นอน

ถามว่า ดูจากรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปราย ใครน่าเป็นห่วงที่สุด ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ทุกคนดูน่าเป็นห่วงหมด ยกเว้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ได้กำกับกระทรวงไหนเป็นหลัก ทั้งนี้เคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน พอทราบว่ารัฐมนตรีแต่ละคนเป็นอย่างไร ก็ถือว่าน่าเป็นห่วง

ซักว่าข้อหาที่ฝ่ายค้านกล่าวหานายกฯว่าพิการทางสมอง แรงไปหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ และไม่ขอแสดงความคิดเห็น

 “ตั้งแต่เปิดประชุมมา สิ่งที่น่าห่วงคือ ส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน ต้องคิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง การเป็น ส.ส. แล้วไม่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ ให้พึงระวัง สมัยหน้าอาจจะไม่ได้กลับมา อย่าลืมว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ทุกอย่างอยู่ในมือถือ ประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดทราบหมดว่าส.ส.ทำอะไร ไม่ใช่ถึงเวลาโหวตแล้วส่งสัญญาณให้โหวต ตรงนี้ตนไม่เห็นด้วย ขอให้ฝากจับตาดูให้ดี ตนอยู่การเมืองตั้งแต่ปี 42 ไม่เคยเห็นภาพการลงมติที่ต้องได้รับการส่งสัญญาณ ภาพที่ออกมาดูน่ารังเกียจ เพราะการลงมติเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่ต้องยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่รับฟังคำสั่งอย่างเดียว” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

วันเดียวกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่า เมื่อคืนนี้ได้ยินว่ารัฐมนตรีอีกเกือบ 20 ราย กระดี๊กระด๊าเป็นว่าเล่น ตีปีกกันแทบแขนจะหักเพราะไม่มีชื่อ ซึ่งขอเรียนว่าชื่อที่ไม่ปรากฏนั้นท่านอย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ อย่าตีปีกจนปีกหัก จะสังเกตได้ว่าการอภิปรายครั้งนี้มีตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบายในหลายด้าน เช่น น้ำ อากาศ ลม ไฟ ซึ่งมี ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 15 คนที่จะต้องอภิปรายนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และโยงไปถึงรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องนโยบายต่างๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี และโยงไปถึงรัฐมนตรีที่แม้จะไม่มีบัญชีรายชื่อในการอภิปราย แต่ก็ขอให้ท่านเตรียมตัวไว้ให้ดี

ลั่นซักฟอกไม่มีเกี๊ยะเซียะ

ถามว่า มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าทำไมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จึงไม่มีชื่อของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เพราะเรื่องน้ำมันก็เป็นปัญหาอยู่มาก นายจิรายุกล่าวว่า ในส่วนของเรื่องน้ำมันได้มีการพูดกันว่าจะมีการอภิปรายแน่นอน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีต้องเจอเรื่องนี้แน่นอน รวมถึงเรื่องสินค้าการเกษตรและราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ฉะนั้น เรื่องราคาน้ำมันและรัฐมนตรีที่ไม่มีชื่อก็อย่าได้ตีปีกจนแขนหัก

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค พท. พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. แถลงข่าวการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ตอน ไล่หนูตีงูเห่า ที่ จ.ศรีสะเกษ วันที่ 18 มิ.ย.นี้

นพ.ชลน่านกล่าวว่า จะเป็นรูปแบบการเดินสายพบปะพูดคุยกับประชาชนใน 3 เวที ใน 3 พื้นที่ คือ อ.อุทุมพรพิสัย, อ.ราษีไศล และ อ.ขุนหาญ นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรค พท.และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่เปิดตัวรับภารกิจขับเคลื่อนครอบครัวเพื่อไทยทั้งระบบ

“จ.ศรีสะเกษ เป็นจังหวัดที่เรามี ส.ส.จำนวนมาก โดย ส.ส.ของจังหวัดมีทั้งสิ้น 7 เสียง เรามีถึง 5 เสียง ถือเป็นพื้นที่สำคัญของพรรค แต่เมื่อมีงูเห่า ตามที่สื่อมวลชนเรียกกัน เมื่อมีหนูยุคใหม่มากินงูเห่าของเรา จึงจำเป็นต้องทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อสื่อสารว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน” นพ.ชลน่านกล่าว

นายประเสริฐกล่าวเสริมว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่รับเลือกตั้งครั้งต่อไปในทุกเขตเลือกตั้งของ จ.ศรีสะเกษด้วย อย่างไรก็ตาม ปกติหนูอยู่บ้านไหนไปขโมยอาหารเขาก็จะไม่ชอบ เขาก็จะไล่ คำว่าตีงูเห่า เราก็เปรียบเทียบขึ้นมาเป็นเชิงสัญลักษณ์ เราหวังว่าพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ที่เดิมเรามี ส.ส.ทุกเขต เราก็คาดหวังเช่นเดียวกันในการเลือกตั้งครั้งต่อไป 

ถามว่า จะดำเนินการอย่างไรกับงูเห่าที่โหวตสวนมติพรรคในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 7 คน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส.ส.ที่ไม่ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของพรรค หรือมีพฤติกรรมไปสนับสนุนพรรคการเมืองอื่น ก็ต้องดำเนินการสอบสวน 

ส่วนนายประเสริฐกล่าวว่า วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการวินัยและจริยธรรมของพรรคได้ประชุมกรณี 7 ส.ส.ของพรรคไม่โหวตตามมติพรรค ที่ประชุมได้พิจารณาข้อกล่าวหาต่อสมาชิกทั้ง 7 คน ฝ่าฝืนจริยธรรมของพรรค จึงได้ส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 7 คนเพื่อให้มาชี้แจงวันที่ 27 มิ.ย. ขณะนี้กำลังส่งหนังสือไปยังผู้กล่าวหา หากมีความคืบหน้าเป็นอย่างไรจะส่งข่าวให้ประชาชนทราบเป็นระยะ 

ถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรควางตัวผู้อภิปรายไว้อย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรค พท.เป็นเจ้าภาพอภิปรายประมาณ 5-6 คน เราวางตัวผู้อภิปรายไว้ทั้งสิ้นประมาณ 15-20 คน 

ถามว่า เหตุใดไม่มีชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นพ.ชลน่านกล่าวว่า นายเฉลิมชัยเป็นรัฐมนตรีที่เป็นนั่งร้านของรัฐบาล ก็มีการเสนอเข้ามาเบื้องต้น แต่เมื่อดูประเด็นอภิปรายแล้ว เนื้อหาจะเกี่ยวกับการบริหารบกพร่องล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาหลักที่เรากล่าวหานายกฯ อยู่แล้ว

“ยืนยันการอภิปรายครั้งนี้ไม่มีเกี๊ยะเซียะ เราต้องการตีให้ตายในสภา ถ้าไม่ตายก็หวังจะฆ่าด้วยสภาประชาชนในสนามเลือกตั้ง” หัวหน้าพรรค พท.ระบุ 

                    ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กเนื้อหาหลักคือการแจ้งว่านายวีระชัย วีระเมธีกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากนายวีระชัยได้เข้ามาพบและหารือกับตน ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น และจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา โดยนายวีระชัยแจ้งว่าประสงค์ที่จะไปดูแลบิดามารดา และจะเดินทางไปต่างประเทศด้วย อย่างไรก็ตามนายวีระชัยยังมีความประสงค์ที่จะช่วยงานพรรค และยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่

ที่รัฐสภา นายสาธุ อนุโมทามิ รักษาการหัวหน้าราชสีห์ไทยดี ในฐานะประธานกลุ่มสามัคคีสร้างชาติ ซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมืองขนาดเล็ก จำนวน 18 พรรค พร้อมคณะ ยื่นหนังสือต่อนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านไปยังนายชวน เพื่อเสนอใช้สูตรคำนวณหาจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการใช้ 500 หาร.