บิ๊กตู่ส่งซิกพปชร.อยู่ช่วยกันต่อ

นายกฯ ออกแถลงการณ์  “กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต” ลั่นเดินมาไกลแล้ว ใกล้ผลิดอกออกผล แขวะ รบ.ในอดีตวางโครงการสวยหรูแต่ฝุ่นเกาะ รับพรีเซนต์ไม่เก่ง แต่รู้วิธีทำเรื่องใหญ่ ส่งซิก ส.ส.พปชร. อยู่ช่วยกันต่อ

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแถลงการณ์ กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต เป็นคลิปวิดีโอผ่านเพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์​ จันทร์โอชา Prayut-Chan-o-cha ตอนหนึ่งว่า ตนอยากพูดกับทุกท่านเกี่ยวกับอนาคตของบ้านเรา และการเดินหน้าต่อไปของประเทศไทย ตอนนี้ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่ภาวะการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงปกติแล้ว ข้างหน้าของเรายังมีอีกหนึ่งภัยร้ายที่ใหญ่ยิ่งกว่ารอเราอยู่ นั่นคือเราจะอยู่รอดอย่างไรจากการโหมกระหน่ำของพายุการขึ้นราคาทุกอย่าง ซึ่งสงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นส่วนสำคัญยิ่งที่กระตุ้นให้ข้าวของแพง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน อาหาร ค่าขนส่ง จนถึงขั้นทำให้บางประเทศในภูมิภาคเข้าใกล้การล่มสลายทางเศรษฐกิจ ตนขอเล่าเรื่องสำคัญ คือ กลยุทธ์ภาพใหญ่ของตนที่จะมาแก้ปัญหาปากท้องและความยากจนให้หมดไปเสียที

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงระยะสั้นๆ ได้ดำเนินนโยบายระยะสั้น แก้ปัญหาความยากจนเฉพาะหน้า หรือมีโครงการลดแลกแจกแถมต่างๆ แน่นอนว่าบางโครงการเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกฤต เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แต่โครงการแบบนั้น ไม่ใช่วิธีที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน และแน่นอนว่าวิธีการเหล่านั้นไม่ทำให้ใครรวยขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นตนจึงตั้งใจเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำเรื่องใหญ่ๆ ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อช่วยทุกคนให้สามารถสร้างรายได้ได้มากขึ้นอย่างยั่งยืน ตนขอให้ทุกท่านเดินหน้าไปกับตน ในช่วงเวลาที่ภารกิจระยะยาวเพื่อทุกคน ที่ตนได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า กำลังขับเคลื่อนกลยุทธ์ภาพใหญ่ที่มี 3 แกนหลัก ที่จะมายกระดับความรุ่งเรืองของประเทศ เป็น 3 แกนหลักที่กำลังจะเสร็จ และกำลังจะพร้อมที่จะช่วยเราทุกคนได้ในอนาคตอันใกล้ แกนที่ 1 คือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศที่ใหญ่ที่สุด และบูรณาการมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย โครงการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน หรือท่าเรือ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความรุ่งเรืองมั่งคั่งของทุกคน โครงการที่ต้องใช้เวลาก่อสร้างยาวนานหลายปี และตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เป็นสิบๆ ปีที่ผ่านมารัฐมักจะวางแผนโครงการที่สวยหรูมากมาย แต่สุดท้ายแผนโครงการที่สวยหรูเหล่านั้นถูกเก็บขึ้นหิ้ง จนฝุ่นเกาะ และไม่เคยถูกทำให้เกิดขึ้นจริง

นายกฯ กล่าวว่า แกนที่ 2 คือแกนที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด วันนี้เราเดินมาได้ไกลแล้ว ด้วยการทำงานอย่างรวดเร็ว และบูรณาการหลายหน่วยงาน จนผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกหลายราย แสดงเจตนารมณ์ว่าจะเดินหน้าตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่เราจะต้องทำในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพื่อให้ได้ข้อสรุปกับผู้ผลิตยานยนต์ต่างๆ เหล่านั้น เราจะต้องทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่ถูกลงสำหรับคนไทยทุกคน และแกนที่ 3 เกี่ยวกับภาคการธนาคาร ตอนนี้ประเทศไทยเรามีประชาชนมากกว่า 30 ล้านคนที่ไม่สามารถกู้เงินได้ ธนาคารต้องหาทางที่จะเดินหน้าให้มากไปกว่าวิธีการหรือระบบแบบเดิมๆ ที่มักจะปล่อยเงินกู้ให้แค่คนรวย ธุรกิจใหญ่ๆ หรือคนที่มีเอกสารทางธุรกิจที่พร้อมเท่านั้น ถึงเวลาแล้ว ธนาคารจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าที่เป็นคนตัวเล็กๆ และทำมาค้าขายเลี้ยงตัวเองให้มากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ คือหนทางสำคัญที่จะกระจายความมั่งคั่งร่ำรวย

 นายกฯ บอกด้วยว่า ตนจะขับเคลื่อนรัฐบาลให้ทำโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดให้สำเร็จ ช่วยทำภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้แข็งแรง และช่วยภาคการธนาคารให้ทำงานอย่างสอดคล้องและตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ เชื่อว่าเราทำได้ และจะได้เห็นการผลิดอกออกผลในเวลาไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า ลงมือครับ เชื่อมไทยเดินหน้า

“นี่คือเรื่องที่ยิ่งใหญ่อย่างมากที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสอดคล้องกับยุคสมัยใหม่และอนาคต ภารกิจของผมคือ ทำให้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ ตอนนี้สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกือบที่จะเสร็จแล้ว เราเดินมาได้ไกลแล้วครับ ตามกลยุทธ์ และตอนนี้ใกล้ถึงเวลาที่เราจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้แล้ว ผมขอบคุณทุกท่านที่ใจเย็นกับผม ให้ผมได้เอาแผนโครงการที่ยิ่งใหญ่ ผลักดันมาสู่การปฏิบัติจริง ผมไม่ใช่คนที่แสดงออกหรือนำเสนออะไรได้เก่งนัก แต่ผมรู้ว่าผมจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เรื่องใหญ่ๆ เกิดขึ้นจริงได้ บางครั้งผมอาจจะพูดอะไรที่ฟังดูตลก แต่ขอให้ทุกท่านรู้ว่าผมบริสุทธิ์ใจ และหัวใจของผมอยู่กับประชาชนทุกคน และอยู่กับประเทศไทยครับ” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดคลิปวิดีโอแถลงการณ์ผ่านเพจครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ปรับวิธีการพูด มีการเว้นจังหวะ และเน้นย้ำประโยคในการสื่อสาร พร้อมปรับท่ายืนที่ดูรีแลกซ์มากขึ้น

มีรายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งว่า ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.กำแพงเพชร ของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยมี ส.ส.พปชร.ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และพิษณุโลก มารอต้อนรับ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ระบายกับ ส.ส. กรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการทำงานว่า มีคนว่าปัญหาอยู่ที่ตนคนเดียวเลย ทั้งที่ความจริงแล้วคนอื่นเป็นนายกฯ ปีสองปีแล้วไป พอเจอปัญหาก็ออกไปพอดี ให้คนใหม่มาแก้ตลอด ภาพที่ทำได้คือภาพสั้นๆ มันเลยออกมาดูดี แต่อย่างตนอยู่มานาน ทำมา 7 ปี ระหว่างทางมันมีปัญหาตลอด ย่อมโดนด่าเป็นธรรมดา แต่มันต้องค่อยๆ แก้ทีละเปลาะ พยายามแก้ไขปัญหาในทุกมิติ พร้อมกับพูดกับ ส.ส.ว่า “อยู่ช่วยกันต่อนะ ผมก็จะค่อยๆ ทำไป”

วันเดียวกัน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่าฝ่ายค้านได้ขอเวลา 45 ชั่วโมง เหลือ 18 ชั่วโมง แบ่งออกเป็นของประธานสภาฯ 3 ชั่วโมง ที่เหลือจะเป็นของคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 15 ชั่วโมง แม้ว่าฝ่ายค้านระบุว่าไม่จำกัดเวลาให้กับฝ่ายรัฐบาลชี้แจง แต่จะให้ชี้แจงหลังเวลา 00.30 น.ไปแล้วนั้น ตนคิดว่าโดยหลักการทั่วไปฝ่ายรัฐบาลควรจะหาเวลาตอบให้เป็นช่วงที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

รองประธานวิปรัฐบาลยังเปิดเผยว่า ได้รับการบ้านจาก ปชป.ว่าขอเวลาให้รัฐมนตรีของพรรคให้ได้ชี้แจงอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ วิปรัฐบาลมีความเห็นร่วมกันว่า ควรจะใช้โอกาสนี้เป็นการชี้แจงผลงานในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลได้ดำเนินการในเรื่องใดไปแล้วบ้าง และตนคิดว่าฝ่ายค้านต้องหาประเด็นที่อภิปรายต่อฝ่ายรัฐบาลอย่างชัดเจน ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. ได้ขอให้ตนขอเวลาจากวิปรัฐบาลเพื่อให้นายจุรินทร์ได้สามารถชี้แจงได้อย่างเต็มที่ โดยขออย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ชม. ซึ่งคิดว่าต้องเฉลี่ยกับรัฐมนตรีท่านอื่น โดยผู้ที่มีประเด็นชี้แจงมากที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ และมีสิทธิ์ลุกขึ้นมาชี้แจงได้อย่างต่อเนื่อง

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีอังกฤษลาออกจากหัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟว่า นายกฯ ไทยควรเลียนแบบอังกฤษบ้าง และลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ในทันทีก่อนครบวาระ 8 ปีในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีปัญหาตามมาอีกหลายอย่าง และอยากเรียกร้องให้รัฐมนตรีที่รู้สึกผิดชอบชั่วดีลาออกเพื่อกดดันนายกฯ

เลขาธิการ ครป.ยังเรียกร้องว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของฝ่ายค้านครั้งนี้ อยากเรียกร้องให้มีการอภิปรายประเด็นการคอร์รัปชันและการเอื้อให้เกิดอำนาจการผูกขาดขึ้นในประเทศไทยจนเกิดทุนใหม่สามานย์จำนวนหนึ่งที่กลายเป็นกระเป๋าเงินให้พรรคการเมือง ทำให้การเมืองไทยกลายเป็นระบบฉ้อฉล สุดท้ายขอเรียกร้องให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ช่วยหาทางลงให้ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง