‘ประวิตร’คุมแผนป้องนํ้าท่วม ขับเคลื่อนศก.ยกระดับอาชีพ

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่สมุทรปราการคุมแผนป้องน้ำท่วมซ้ำ บูรณาการฟื้นฟูแหล่งน้ำ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยกระดับอาชีพประชาชน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ (สทนช.) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นายวีริศ อัมระปาล  ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายอัครวัฒน์  อัศวเหม, นายยงยุทธ สุวรรณบุตร, นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก, นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ, นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.สมุทรปราการ พรรค พปชร.มาให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง เพื่อติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในจังหวัด ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านน้ำในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลบางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมสมุทรปราการปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการให้บูรณาการจัดทำแผนรับมือน้ำและอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งนายกฯ เห็นใจในปัญหาดังกล่าว  ที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทำงานทุกอย่างเพื่อความเข้มแข็งของประเทศชาติ และยังได้กล่าวขอบคุณ ส.ส.ทั้ง 6 คนที่ทำงานในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง และทำงานร่วมกับรัฐบาลเป็นอย่างดี พร้อมย้ำว่าพื้นที่นี้มี ส.ส.มาก แต่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี มีการทำงานให้รัฐบาลอย่างดี ต้องได้รับการพิจารณา เมื่อมีการปรับ ครม.เมื่อไหร่จะเสนอเมื่อนั้น

"จากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2564 ผมในฐานะประธาน กนช. รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และติดตามโครงการต่างๆ พร้อมบูรณาการเพื่อการฟื้นฟูแหล่งน้ำต่างๆ ทั้งการสร้างแหล่งน้ำสำรอง น้ำบาดาล น้ำประปา การแก้ไขปัญหาน้ำเสีย และป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่อย่างยั่งยืน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุ 3 ปัจจัย ได้แก่ น้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำหนุน ด้วยสมุทรปราการนับเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ จึงจำเป็นต้องมีการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ ที่จะมีส่วนในการผลักดันการสร้างงานสร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เกิดความกินดีอยู่ดี เป็นไปตามเป้าหมายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด ที่มีการนำแผนปฏิบัติการฤดูน้ำหลาก 13  มาตรการฤดูฝน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านน้ำให้แล้วเสร็จ" พล.อ.ประวิตรกล่าว 

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ความก้าวหน้าของการจัดทำแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบบูรณาการ โดย สทนช.,  กรมชลประทาน, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และจังหวัดสมุทรปราการ ได้จัดทำแผนหลักแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อป้องกันพื้นที่ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมบางปู และพื้นที่ชุมชนโดยรอบ  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในสองลุ่มน้ำทั้งเจ้าพระยาและบางปะกง ครอบคลุมพื้นที่ 954 ตร.กม. หรือ 5.9  แสนไร่ ขณะนี้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความการซ่อมแซม บำรุงรักษาระบบระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำและสถานีสูบน้ำเพื่อให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ขณะที่ด้านจังหวัด กระทรวงอุตสาหกรรม และองค์การจัดการน้ำเสีย ได้เร่งปรับปรุงคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดได้เร่งขยายผลโครงการ “รักษ์คูคลอง เฉลิมพระเกียรติ” ไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในจังหวัดด้วย

พล.อ.ประวิตรยังกำชับให้ดำเนินการเร่งรัดขุดลอกคูคลอง และกำจัดวัชพืชในลำคลองต่างๆ อาทิ คลองลำสลัด,  คลองหัวลำภู, คลองหกส่วน และคลองธรรมชาติต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลงคูคลองชายทะเล ไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำเหมือนกับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตรยังได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการขุดลอกคลองมหาวงษ์ ซึ่งเป็นคูคลองที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตริมน้ำของคนไทย มีผลต่อการดำรงชีวิต ประกอบอาชีพ ทั้งเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์และจับสัตว์น้ำ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่การเกษตรรวมถึงการอุปโภคบริโภค และเป็นคลองที่มีส่วนสำคัญในการเร่งระบายน้ำ จึงจำเป็นต้องฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ให้น้ำมีคุณภาพที่ดี และยังได้ติดตามความพร้อมของอาคารสถานีสูบน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู โดยมีนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ.นำเสนอแผนงานการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเป็น 1 ใน 3 นิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญของจังหวัด จึงนำมาสู่การบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสู่การจัดทำแผนป้องกันน้ำท่วมนิคมฯ และพื้นที่โดยรอบต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง