ทุ่ม2.7หมื่นล.เฮถ้วนหน้า คนละครึ่งเฟส5แจก800

ครม.ทุ่ม 2.7 หมื่นล้านกระตุ้นการใช้จ่าย เคาะคนละครึ่งเฟส 5 ให้ 800 บาท พร้อมแจก 200 บาท 2 เดือนให้ผู้ถือบัตรคนจนและผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ใช้จ่ายได้ 1 ก.ย.- 31 ต.ค. ครอบคลุม 42 ล้านคน “ขุนคลัง” ชี้เหตุเพราะกำลังซื้อเริ่มแผ่ว แบงก์ชาติเตรียมขยับดอกเบี้ย

เมื่อวันอังคารที่ 26 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุมมีเรื่องพิจารณาที่สำคัญ โดยเฉพาะการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการขับเคลื่อนประเทศท่ามกลางวิกฤตที่ยังคงอยู่ เรื่องแรกคือ มาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นการใช้เงินกู้ในปี 2564 โดย ครม.พิจารณาเห็นชอบการเติมเงินช่วยเหลือแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตัง ผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนและผู้มีภาวะพึ่งพิงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เป็นระยะเวลา 2 เดือน วงเงิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 400 บาท ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ต.ค. และ ครม.ยังพิจารณาเห็นชอบโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ให้ใช้สิทธิ 2 เดือน วงเงิน 800 บาทต่อคน โดยใช้ได้ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน

“ทั้ง 2 โครงการจะเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยให้มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ เศรษฐกิจจะได้ไม่ติดขัด เกิดเงินหมุนเวียนในระบบอย่างต่อเนื่อง” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 วงเงินรวม 21,200 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายไม่เกิน 26.5 ล้านคน ระยะเวลาดำเนินการ 4 เดือน ตั้งแต่ ส.ค.-พ.ย.2565 โดยให้ประชาชนใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-31 ต.ค.2565 ซึ่งรูปแบบการดำเนินการ ภาครัฐร่วมชำระค่าอาหารเครื่องดื่มสินค้าและบริการทั่วไป และบริการขนส่งสาธารณะที่กำหนดในอัตรา 50% ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 800 บาทต่อคน ซึ่งคุณสมบัติต้องเป็นประชาชนสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือไม่ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการช่วยเหลือพิเศษ สำหรับประชาชนผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ต้องยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 และใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 14 ก.ย. หรือระยะเวลาที่กระทรวงคลังกำหนด สำหรับประชาชนทั่วไป ต้องใช้สิทธิโครงการเฟส 5 ครั้งแรกภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับข้อความผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือข้อความสั้น (SMS) แจ้งยืนยันสิทธิ หรือระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนด

นายธนกรกล่าวอีกว่า ครม.ยังมีมติอนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 วงเงิน 5,336.8304 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 3 กรอบวงเงิน 890.8816 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 200 บาทต่อคน ในระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ถึง 31 ต.ค.2565 รวมทั้งสิ้น 400 บาทต่อคน

“มีกลุ่มเป้าหมายในโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 จำนวนไม่เกิน 13,342,076 คน และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 3 จำนวนไม่เกิน 2,227,204 คน” นายธนกรระบุ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวถึงการออกมาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ว่าการบริโภคภายในประเทศเริ่มแผ่วลง จากราคาสินค้าและราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีอยู่ และคาดว่าระยะต่อไปธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับกำลังซื้อของประชาชนด้วย มาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 จึงน่าจะทำให้การบริโภคภายในประเทศมีความคึกคักมากขึ้น

 “ทั้ง 3 โครงการเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศที่ ครม.อนุมัติไปนั้น จะเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวม 48,628 ล้านบาท โดยคาดว่าจะช่วยทำให้จีดีพีปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.13% โดยทั้ง 3 โครงการกระตุ้นกำลังซื้อใช้วงเงินดำเนิน 27,427 ล้านบาท ซึ่งมาจาก พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติมจำนวน 5 แสนล้านบาท ที่ภายหลังจากออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อครั้งนี้แล้ว จะยังมีวงเงินเหลือราว 4-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกลั่นกรองว่าจะเอาวงเงินที่เหลือดังกล่าวนี้ไปใช้ทำอะไร” นายอาคมกล่าว

นายอาคมกล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ว่า ตัวเลขจีดีพีจะขยายตัวได้ที่ระดับ 4.2% ซึ่งมองว่าหากเศรษฐกิจไทยสามารถโตเกิน 4-4.2% ได้ ก็ถือเป็นระดับที่ดี ที่เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีนี้ ซึ่งหลักๆ มาจากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับ 3 โครงการดังกล่าวที่ ครม.อนุมัตินั้น ครอบคลุมประชาชน 42 ล้านคน ทั้งนี้ประชาชนผู้ที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 สามารถยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 2565 กรณีเป็นประชาชนที่เคยได้รับสิทธิมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.2565 และประชาชนนอกจากนี้ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.2565 โดยประชาชนที่ได้รับการยืนยันสิทธิจากการลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นไป และจะต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับข้อความแจ้งยืนยันสิทธิ ซึ่งหากพ้นกำหนดจะถูกตัดสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง