ขู่บิ๊กตู่ไม่ไขก๊อกแจ้งความทั่วปท.

"บิ๊กตู่" ย้ำเป็นเรื่องของศาลตัดสินวาระนายกฯ  8 ปี "แรมโบ้” ซัด "ชลน่าน-อุ๊งอิ๊ง" หยุดสร้างวาทกรรมให้นายกฯ เสียหาย ย้ำจะอยู่กี่ปีอยู่ที่ศาลตัดสิน ไล่ไปถาม "ทักษิณ" ควรพอหรือยัง เลขาฯ ครป.ชี้หาก "ประยุทธ์" ไม่ลาออกหลัง 24 สิงหาถือเป็นนายกฯ เถื่อน จี้ ครม.ลาออก ก่อนจะมีความผิดทั้งคณะ ปลุก ปชช.แจ้งความได้ทุก สน. ผู้ตรวจการแผ่นดินรับคำร้อง "ศรีสุวรรณ" สั่งศึกษาในข้อกฎหมายก่อนชงศาล รธน.

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 8 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 17  ส.ค.กรณีการดำรงตำแหน่ง 8 ปีว่า “เรื่องนี้ผมตอบไปแล้วว่าเป็นเรื่องของศาล”

จากนั้นนายกฯ ได้ถอยออกจากโพเดียมสัมภาษณ์ทันที  ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอีกว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความไว้บ้างหรือไม่ และจะมีการตามรอย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษและอดีตนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม เพียงแต่ส่ายศีรษะและเดินกลับขึ้นห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้าทันที

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ว่าที่หัวหน้าพรรคเทิดไท ให้สัมภาษณ์กรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 ส.ค.นี้ว่า เป็นสิทธิ์ที่จะยื่นได้หากสงสัย เมื่อยื่นแล้วผลออกมาอย่างไรก็ขอให้ยอมรับด้วย  และระหว่างนี้ก็หยุดสร้างวาทกรรมให้นายกฯ เสียหาย เพราะการจะอยู่กี่ปีนั้นนายกฯ ไม่ได้เป็นคนกำหนด แต่กฎหมายกำหนดเอาไว้ขอให้เข้าใจด้วย

ส่วนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถามว่า 8 ปีพอหรือยัง นายเสกสกลกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องพอหรือไม่พอ หากกฎหมายให้เป็นต่อ แล้วประชาชนไว้วางใจก็ต้องเป็น ฉะนั้นการเมืองต้องไปขอฉันทามติจากประชาชนทั่วประเทศ ไม่ใช่จะมาถามว่าพอหรือยัง

"ทั้งนายชลน่านและอุ๊งอิ๊งควรกลับไปถามนายทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าพอหรือยัง เพราะหลอกคนเพื่อเอาอำนาจไปสร้างความร่ำรวย จากการทุจริตชาติบ้านเมือง น่าจะพอแล้ว ไม่ใช่มาถามคนอื่น” นายเสกสกลกล่าว

นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล รองหัวหน้าพรรคและประธานยุทธศาสตร์พรรคเศรษฐกิจไทย ที่อาศัยผลโพลนิด้าเรื่อง 8 ปีนายกฯ เรียกร้องให้ลาออกทันทีว่า แม้ว่านายวิชิตจะเป็นผู้รอบรู้เรื่องกฎหมาย แต่ก็ไม่ควรเป็นผู้พิพากษาในเรื่องอะไรโดยที่ยังไม่มีการตัดสิน ไม่ควรเอาเพียงผลโพลมาเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อประโยชน์ของพรรคตัวเอง ยืนยันว่านายกฯ ยังจะทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไป ส่วนใครจะไปยื่นตีความการดำรงตำแหน่ง 8 ปีก็สามารถทำได้ แต่ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย พรรคเศรษฐกิจไทยไม่ต้องทำตัวเป็นผู้พิพากษาในเรื่องอะไรทั้งนั้น เพราะคงไม่มีใครเชื่อถือ ขนาดเลือกตั้งซ่อมลำปางเอาคนเดิมลงประชาชนยังไม่เลือกเลย ไม่รู้ว่าเป็นผลพวงจากประวัติหัวหน้าพรรคหรือไม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสพรรคการเมืองต่างลงพื้นที่หาเสียงในช่วงนี้ เป็นเพราะเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ว่า ไม่หรอก เพราะเป็นโค้งสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะยังไงสภาชุดนี้ก็หมดวาระในช่วงเดือนมีนาคมปี  2566 อยู่แล้ว ถ้านับจริงๆ ก็เหลือประมาณ 9 เดือน เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะต้องเตรียมการในการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า จะเป็นอย่างไรหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่ต่อในประเด็น 8 ปี และเกิดแรงต้านจากสังคม นายอนุทินพร้อมจะเป็นนายกฯ หรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า มันยังไม่เกิด วันนี้รัฐบาลชุดนี้ทำงานเต็มที่ ทุกคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ และมีภาระที่จะต้องทำงานต่อไป เช่นวันนี้มีการประชุมเตรียมงานประชุมเอเปก   และประชุมกันอย่างยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง แสดงว่ามีเรื่องสำคัญของประเทศที่เราต้องเตรียมตัว เรื่องการประชุมเอเปกเป็นเรื่องชื่อเสียงของประเทศชาติ จะไปคิดเป็นการเมืองไม่ได้

"อยู่ที่นี่ผมก็เป็นลูกน้องท่านนายกฯ อยู่ในสภาก็เป็นลูกน้องพี่น้องประชาชน เราก็ต้องใช้แต่ละบทบาทให้ถูกต้อง มาอยู่ที่นี่จะมาเล่นการเมืองมันก็ไม่ได้ เพราะต้องทำงานให้กับบ้านเมือง" นายอนุทินกล่าว

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรีว่า 3 ปีที่ผ่านมาวิปรัฐบาลไม่เคยมีการคุยเรื่องดังกล่าว และคิดว่าคงไม่มีการคุยกัน เพราะวิปรัฐบาลไม่มีอำนาจไปตัดสินหรือให้ความเห็น  แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงจะมีการเตรียมความพร้อมที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว และในนามของพรรค พปชร.ก็จะเดินหน้าทำงานต่อไป โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพรรค พปชร.ได้ไปเยี่ยมที่จังหวัดหนองคาย  ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ก็ยืนยันว่าจะตั้งใจทำงานเหมือนเดิม ไม่ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์กำลังเข้าใจผิดเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี จึงบอกให้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ ความจริงท่านต้องรู้อยู่แก่ใจ ไปอ่านรัฐธรรมนูญ ม.158 ก็น่าจะทราบดี เด็ก ป.4 ยังเข้าใจได้ ประกอบกับ ม.264 ก็ชัดเจน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับ  2560 ไปรับรองตำแหน่งนายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ตั้งแต่ได้รับโปรดเกล้าฯ ในเดือนสิงหาคมปี 2557 และอยากให้ไปอ่านคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญ หน้า 275 อธิบายความมุ่งหมายของ ม.158  ไว้เข้าใจง่าย การกำหนดระยะเวลา 8 ปีไว้ก็เพื่อมิให้เกิดการผูกขาดอำนาจในทางการเมืองยาวเกินไป อันจะเป็นต้นเหตุเกิดวิกฤตทางการเมืองได้

"เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรอหรือพึ่งศาลรัฐธรรมนูญและ กกต.ช่วยตีความก่อน หากนายกฯ ยังไม่ประกาศลาออก รัฐสภาก็สามารถเตรียมจัดประชุมโดยอัตโนมัติ เสนอชื่อนายกฯ คนใหม่ตามแคนดิเดตพรรคการเมืองที่เหลืออยู่ได้เลยในวันที่ 24 ส.ค.นี้เป็นต้นไป เพราะหากไม่กระทำก็จะเจอข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสภาพนายกฯ ไปโดยปริยายตามรัฐธรรมนูญแล้ว และหากนายกฯ ไม่ประกาศลาออกก็จะมีความผิดเช่นกัน ปวงชนชาวไทยผู้เสียหายสามารถเดินทางไปที่ สน.ใกล้บ้านเพื่อแจ้งความเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ทั่วประเทศได้เลย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และมีความผิดทางอาญา ม.157"

นายเมธากล่าวว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ต่อโดยอ้างเหตุว่าไม่รู้รัฐธรรมนูญ หรืออ้างว่าศาลยังไม่มีคำตัดสินก็ล้วนเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ม.5 ก็ได้บัญญัติว่า การกระทำใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินต่อก็จะเป็นนายกฯ เถื่อนและ ครม.เถื่อนทั้งคณะ เนื่องจากใช้อำนาจมิชอบตามรัฐธรรมนูญ หวังว่ารองนายกฯ วิษณุ เครืองาม จะช่วยเตือนนายกฯ อย่างจริงจัง ท่านอาจจะต้องลาออกก่อนเพื่อส่งสัญญาณที่แท้จริง และ ครม.จะต้องรู้สถานะของตัวเองด้วยตามวาระของนายกฯ ควรจะแสดงสปริตลาออกเพื่อกดดันนายกฯ ก่อนจะมีความผิดร่วม

พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยความคืบหน้าคำร้องของนายศรีสุวรรณ  จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ขอให้ส่งความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสถานะนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีว่า ขณะนี้นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต  ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว ส่วนกระบวนการต่อไปสำนักงานผู้ตรวจการฯ ได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายและคดีพิจารณาเนื้อหาว่านายกฯ จะพ้นจากตำแหน่งเมื่อใด โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าหากพ้นวันที่ 23  ส.ค.65 ไปแล้วจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ต้องพิจารณาว่า กฎหมายมีช่องทางให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจในการส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งหากมีช่องทางให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญได้ จะต้องมาพิจารณาในสาระสำคัญว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งเกินวันที่ 23 ส.ค.นี้จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งจะต้องดูเนื้อหาสาระตามคำร้อง

พ.ต.ท.กีรปกล่าวย้ำว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ จึงสั่งให้สำนักกฎหมายเร่งพิจารณาในข้อกฎหมาย รวมถึงหากมีข้อเท็จจริงที่ต้องแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็จะทำหนังสือไปสอบถามเพื่อรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้คาดว่าอาจจะไม่ทันการประชุมของผู้ตรวจการแผ่นดินในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีการประชุมในวันอังคารที่ 9 ส.ค. แต่หากฝ่ายกฎหมายได้ข้อสรุปมีความชัดเจนแล้ว คณะกรรมการผู้ตรวจการแผ่นดินก็สามารถนัดประชุมได้ทันทีเพื่อวินิจฉัย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง