ไม่ให้ราคา‘ชูวิทย์’ นอกสายตา‘ภท.’

กรุงเทพฯ ๐ "อนุทิน" ไม่ให้ราคา "ชูวิทย์" ยันไม่มีการเริ่มต้นก็ไม่มีจุดจบ  เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับเส้นทางของพรรคภูมิใจไทย ลั่นประชาชนทุกคนมีสิทธิตรวจสอบพรรคได้ ด้าน "เสี่ยอ่าง"  ตามป่วนถึงที่ ขู่ฟ่อจะไปถล่มถึงบุรีรัมย์    หยามเป็นพรรคเล็กคิดการใหญ่

     เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาคัดค้านพรรคภูมิใจไทยจะทำให้เสียคะแนนนิยมในพื้นที่ กทม.หรือไม่ ว่า “ไม่กังวล” และการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ก็ไม่มีปัญหา เพราะพรรคภูมิใจไทยเปรียบเหมือนภูเขาทอง ส่วนที่เหลือก็ไปคิดกันเอาเอง

    เมื่อถามว่า นายชูวิทย์ไปคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย จะรับมือต่อเรื่องดังกล่าวอย่างไร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตอบว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมือง ประชาชนทุกคนมีสิทธิตรวจสอบ  และหากพรรคได้รับแจ้งจากองค์กรที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ ก็พร้อมชี้แจง

     ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีพิพาทกับนายชูวิทย์จะจบลงอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า อันนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องพิพาท เพราะไม่มีการเริ่มต้นก็ไม่มีจุดจบ เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับเส้นทางของพรรคภูมิใจไทย

     ซักว่า ขณะนี้ขั้นตอนเรื่องมอบหมายให้ผู้สมัคร 400 เขตฟ้องนายชูวิทย์ดำเนินการถึงขั้นไหนแล้ว หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยปฏิเสธว่า ไม่ได้มอบหมาย ไม่ใช่มติพรรค แต่เป็นสิทธิของผู้สมัครแต่ละท่าน

     วันเดียวกันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางไปใต้สถานีรถไฟฟ้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งของที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประมาณ 600 เมตร ซึ่งช่วงเช้าวันนี้พรรคภูมิใจไทยจัดงานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 เขต พร้อมปล่อยขบวนคาราวานรถหาเสียงลงพื้นที่ โดยในระหว่างที่ขบวนรถหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยขับผ่านและจอดติดไฟแดงอยู่  นายชูวิทย์ได้นำป้ายคัดค้านมายื่นใส่รถหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยแต่ละคันด้วย

     จากนั้นนายชูวิทย์ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ระบุว่า เมื่อพรรคภูมิใจไทยหาเสียง ตนเองก็มีสิทธิ์ที่จะรณรงค์ต่อต้าน เพราะเป็นการต่อสู้ของประชาชน ส่วนพรรคการเมือง หากอยากจะหาเสียงก็หาเสียงต่อไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ และตนเองไม่เคยพูดไปถึงเรื่องส่วนตัว มีแต่พูดเรื่องที่เป็นประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านกัญชา และเรื่องของการซุกหุ้น และตอนนี้ยังไม่ได้ยุบสภาหรือมีการเลือกตั้ง จะมาใช้กฎหมายอะไรกับตน เพราะตนก็เป็นประชาชน

     ส่วนการต่อต้านกัญชาเสรี หากใครเห็นด้วยกับกัญชาเสรีก็โหวตให้พรรคภูมิใจไทย แต่หากใครไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องโหวตให้พรรคภูมิใจไทย พร้อมกันนี้ นายชูวิทย์ได้บอกไปยังนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ว่าถ้าแน่จริงให้มาสู้กันตัวต่อตัว ทั้งนี้ ตนจะแจ้งความเรื่องการทำลายป้ายคัดค้านรณรงค์ให้ยกเลิกกัญชาเสรี ที่นำไปติดในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ เพราะตนไม่ได้ไปติด แต่ไม่รู้ใครไปติด ดังนั้นเมื่อมีการไปแจ้งความ ตนแจ้งความกลับ ในข้อหากลั่นแกล้งให้ได้รับโทษทางอาญา

     นายชูวิทย์กล่าวว่า ที่ออกมาต่อต้าน ไม่กังวลเรื่องของการถูกล็อกตัวหรือถูกอุ้ม และไม่กลัว เพราะสิ่งที่ทำเป็นประโยชน์กับสังคม ไม่ได้ไปพูดถึงเรื่องส่วนตัวของใคร

     ส่วนที่นายอนุทินบอกว่าไม่กังวลเรื่องถูกยื่นยุบพรรค และพร้อมที่จะชี้แจงตามกฎหมายนั้น นายชูวิทย์ย้อนถามว่า ไม่กังวลจริงหรือไม่ และไปวิ่งเต้นหาคนนั้นคนนี้ทำไม

     "นายอนุทินไม่มีราคา เดิมเป็นพรรคเล็ก คิดการใหญ่ แล้วจะมาเอาคะแนนในกรุงเทพฯ ได้คะแนนก็ที่บุรีรัมย์ใช่หรือไม่ เดี๋ยวผมจะไปถล่มให้ วิธีถล่มของผมนั้นคือการถล่มแบบกองโจร ผมไปคนเดียว ผมตัวคนเดียว ไม่มีพวก" นายชูวิทย์กล่าว

     ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการให้ตรวจสอบนางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนั้น จะถูกมองเป็นการรังแกผู้หญิงหรือไม่ นายชูวิทย์ยืนยันว่า ไม่ได้รังแกผู้หญิง พร้อมยืนยันอีกว่าวันนี้ตนไม่จำเป็นต้องลงการเมือง ไม่ได้สังกัดพรรคไหน หากจะออกมาบอกว่าตนรับงานใครก็พูดไป แต่ที่แน่ๆ เบื้องหลังของนายอนุทินคือนายเนวิน และว่าหากถูกฟ้องร้องก็ยินดีที่จะมีคดีความ ซึ่งการกล่าวหาว่าตนเสพติดคุกนั้น ก็ยังดีกว่าการเสพติดอำนาจ

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 12.30 น. ที่ สน.พหลโยธิน นายชูวิทย์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.นิพนธ์ สกุลเพชรอร่าม รอง สว. (สอบสวน) สน.พหลโยธิน เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพรรคภูมิใจไทยในฐานะประชาชนโดยสุจริตใจ หลังจากก่อนหน้านี้ถูกนางสุขสมรวยเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เนติธร ถามะพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอำนาจเจริญ ให้ดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ กรณีออกมาโจมตีพรรคภูมิใจไทยให้เกิดความเสียหาย.