‘บิ๊กตู่’ แคนดิเดตนายกฯ

กรุงเทพฯ ๐ รวมไทยสร้างชาติเคาะแล้ว  "บิ๊กตู่" แคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 เบอร์ 2  เป็น "พีระพันธุ์" "ประยุทธ์" ลั่นหัวใจสีม่วง  คือหัวใจของคนที่ใกล้จะตาย ฉะนั้นต้องเป็นหัวใจที่ไม่พูดความเท็จ หัวใจของคนใกล้ตายมันพูดโกหกไม่ได้ แค่เปรียบเทียบไม่ได้แช่งตัวเอง

     เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดงานสัมมนาผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต และประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ที่เมืองทองธานี  บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แล้ว ยังมีผู้สนับสนุนของแต่ละพื้นที่ได้ถือป้ายไฟป้ายเชียร์ทยอยมาร่วมงาน ซึ่งส่วนใหญ่สวมเสื้อยืดของพรรครวมไทยสร้างชาติ และมีการเปิดเพลงรณรงค์หาเสียง ซึ่งเป็นเพลงเนื้อหาเชิญชวนให้เลือกลุงตู่ที่อยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมมีเยาวชนมาถือป้ายเต้นกันอย่างสนุกสนาน

     ขณะที่ภายในงานขึ้นป้ายนโยบายต่างๆ ของพรรค เช่น ปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เท่ากันทุกช่วงวัย 1,000 บาท/เดือน, คืน 30% เงินสะสมชราภาพผู้ประกันสังคม มาตรา 33, แก้กฎหมายได้ที่ทำกิน ไม่โดนไล่ที่ ไม่ถูกฟ้อง, บัตรสวัสดิการพลัสเพิ่มสิทธิเป็น 1,000 บาท/คน ให้วงเงินฉุกเฉิน 10,000 บาท/คน เป็นต้น

     กิจกรรมเริ่มด้วยการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ 400 เขต จากนั้นแนะนำทีมผู้บริหารและทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ และประกาศ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค

     จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นบนเวทีส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยูและกล่าวว่า ขอพูดสักหน่อย นั่งตรงนี้หูอื้อไปหมด ทุกครั้งที่มาที่นี่ประชาชนส่งเสียงกัน แสดงถึงความรัก  ซึ่งตนต้องให้คุณหมอเหรียญทองตรวจหูสักหน่อย อย่างน้อย ส.ส.ทุกคนปลอดภัยด้านสาธารณสุข เพราะมีคุณหมอเหรียญทองอยู่ ขณะเดียวกันต้องดูแลประชาชนด้วย ขอบคุณสมาชิกพรรค หัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค นี่คือความตื้นตัน ที่ทุกคนให้เกียรติตนขึ้นมากล่าวบนนี้ วันนี้เห็น ส.ส. 400 ท่านรู้สึกไม่โดดเดี่ยว รู้สึกตื้นตัน พระเอกทั้งหมดอยู่ข้างตน และมีนางเอกด้วย หนังเรื่องหนึ่งต้องมีพระเอกและนางเอก แต่ผู้ร้ายก็แพ้ทุกที ฉะนั้นเราต้องอยู่ฝ่ายพระเอก พระเอกสุดท้ายก็รักกับนางเอก และผู้ร้ายชอบเกเรกับนางเอก

     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้นึกไปเล่นๆ ถ้าเรามี 400 คนไปนั่งในสภาจะทำยังไง แต่เราจะไม่ทำเหมือนคนอื่นเขาทำ  เราจะร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ นั่นเขาเรียกว่าร่วมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย ตนเป็นคนที่พูดจาอาจจะขวานผ่าซากนิดหนึ่ง พูดไม่เพราะบ้าง แต่ตนเป็นคนจริงใจ ตนเคยบอกแล้วพวกเรามีหัวใจคนละดวง แต่ทุกคนต้องมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่เพื่อรักคน 70 ล้านคนทั้งประเทศ ไม่ใช่รักคนใดคนหนึ่ง ต้องรักทุกคนเท่าๆ กัน จะได้คิดออกว่าจะทำอะไรเพื่อเขา ฉะนั้นเราต้องมีหัวใจอันยิ่งใหญ่ ซึ่งตัวของตนหัวใจสีม่วง ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดแบบโกหกให้ดูดี เพราะไม่ใช่ ตนเคยเป็นทหารมาก่อน อยู่ในกรมทหารมาก่อน และกรมทหารกรมนั้นมีสัญลักษณ์ 1 คือหัวใจสีม่วง

     "ต้องถามหมอเหรียญทองอีกทีคำว่าหัวใจสีม่วงคืออะไร หัวใจสีม่วงคือหัวใจของคนที่ใกล้จะตาย ฉะนั้นต้องเป็นหัวใจที่ไม่พูดความเท็จ หัวใจของคนใกล้ตายมันพูดโกหกไม่ได้ เดี๋ยวยังไงมันก็ตายแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ว่าผมจะตายเลยนะ ไม่ใช่ ไม่ได้แช่งตัวเอง แต่เป็นการเปรียบเทียบให้ฟัง ผมพูดด้วยความจริงใจจากหัวใจผม เราทั้งหมด 400 คนรับว่าจะดูแลคนทั้ง 70 ล้านคนไปพร้อมๆ กัน ในเมื่อทุกคนมีความรู้มีประสบการณ์ที่หลากหลาย ทุกคนต่างมีเป้าหมายอันเดียวกัน เป้าหมายนั้นคือรวมไทยสร้างชาติ"

DNA ทำเพื่อชาติ

     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เราต่างคนต่างมี DNA เดียวกัน ข้างในรวมกันทุกเซลล์ นี่คือ DNA มุ่งมั่นทำเพื่อบ้านเมืองประชาชนและส่วนรวมใช่หรือไม่ ตนอยากให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ตนยืนยันว่าเราจะช่วยกันทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง เป็นทางเลือกหลักของคนไทยทั้งประเทศ เราต้องเป็นสายตรงสายหลัก สายใหญ่ สายหลักมอเตอร์เวย์ ไม่ใช่ทางผ่านของใคร ถ้าใครจะมาก็ต้องขออนุมัติขึ้นทางผ่าน ฉะนั้นตรงนี้เราจะต้องร่วมมือกันให้ได้มากที่สุด พรรคของเราแม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่ตนหน้าเก่า อยู่มาหลายปีแล้ว เราไม่ใช่คนหน้าใหม่ อดีตรัฐมนตรีก็มี รองนายกรัฐมนตรีก็มี วันนี้นอกเวลาราชการจึงมาได้

     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อไปอีกว่า ต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ให้เกียรติตนมายืนตรงนี้ ท่านมีผลงานมากมาย เป็นที่ปรึกษาของตนมาหลายเดือน ไม่ใช่เพิ่งมาวันสองวัน อยู่กับตนมานานแล้ว มาช่วยตรงนี้ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจมาร่วมกับท่าน ไม่ใช่ท่านมาตรงนี้แล้วตนมา เราคุ้นเคยมานานแล้ว และไว้ใจท่านในฐานะนักกฎหมายแก้ไขปัญหาหลายอย่างมาด้วยกัน

     "ขอขอบคุณพรรครวมไทยสร้างชาติ ชื่นใจอีกครั้ง เป็นพรรคการเมืองน้ำดี หัวหน้าพรรคบอกแล้วสร้างการเมืองใหม่ตอบโจทย์ประชาชนและประเทศชาติ ที่สำคัญพูดสั้นๆ คำเดียวก็พอ ไม่ต้องบรรยายอะไรให้มาก ก้าวข้ามความขัดแย้ง จะเห็นได้ว่าที่มานั่งตรงนี้ไม่มีความขัดแย้ง เราจะขัดแย้งกันไม่ได้อีกแล้ว หลายสิบปีที่ผ่านมาปัญหามีอยู่แล้ว อย่าลืม อย่าเป็นคนความจำสั้น จะต้องไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก ฉะนั้นวันนี้เราต้องเน้นการเมืองสร้างสรรค์ ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ทุกคนมีเป็นสุภาพบุรุษสุภาพสตรี ฉะนั้นเราจะไม่โจมตีให้ร้ายพรรคอื่น เราจะทำของเราให้ประชาชนเข้าใจ ไม่มีการแบ่งเขาแบ่งเรา เพราะประชาชนทุกเขตเลือกตั้งคือคนไทย เพราะถ้าไม่ใช่คนไทยจะเลือกตั้งได้หรือไม่ มาลงเลือกตั้งได้ไหม ทุกเขตเลือกตั้งคือคนไทยทั้งหมด เราเป็นของคนไทยทุกคน และเราจะเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ กลัวเหมือนกันจะเยอะเกินไปหรือเปล่า ก็อยู่ที่พวกเราใช่หรือไม่ รวมไทยสร้างชาติ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปกติตนเป็นคนพูดน้อย เพราะพูดเยอะก็โดนด่าทุกที อธิบายไม่ได้เลยจริงๆ ไม่ต้องการฟังคำอธิบาย และเหตุผลทำไมเราต้องเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ และทำไมตนตัดสินใจมาอยู่พรรคนี้ ตนเปิดไปแล้ว ถ้าตนไม่มีใจคงไม่มากับเขา หลายคนที่มาเพราะไว้วางใจ ซื่อตรงต่อกัน ใช้อย่างนี้ความเป็นลูกผู้ชาย เราต้องอยู่ด้วยกัน เราเดินหน้าค่อยๆ เดินมาเรื่อยๆ วันนี้ไม่ต้องกลัวใครใช่ไหม วันนี้ตนทำงานมา 8 ปี ไปได้ทุกจังหวัด เพราะต้องทำงานให้คนทั้งประเทศ 77 จังหวัด หวังอย่างยิ่งว่าทุกคนจะสนับสนุน ส.ส.ของพรรค เป็นเรื่องธรรมดา พูดกันในสภาในข้อกฎหมายแตกต่าง แต่ไม่แตกแยก ไม่ขัดแย้ง ไม่ขัดต่อกฎหมายของบ้านเมือง มีแค่นั้น ต้องหันหน้ามาคุยกัน หาจุดร่วมเพื่อส่วนรวม ตนยึดถือแนวทางนี้มาตลอดในเวลาที่ยืนอยู่ คือให้เกียรติซึ่งกันและกัน รับฟังทุกฝ่าย ยึดถือผลประโยชน์ของชาติ ความผูกพันของประชาชน

'บิ๊กตู่' แคนดิเดตเบอร์ 1

     "ผมไม่ได้มุ่งหวังอะไรทั้งสิ้น ตั้งมั่นและจริงใจ หัวใจของผมคือความสุขของประชาชน คือกำไรของประเทศชาติ วันนี้ผมไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น พวกเราไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น รัฐบาลมีวาระ 4 ปี ซึ่งรัฐบาลผมอยู่ได้เกือบครบ ห่างไม่กี่วัน ถือว่ามีประสิทธิภาพไปได้ตลอดรอดฝั่งต่อเนื่องในการบริหารราชการวันหน้าอยู่ให้มันเต็มเม็ดไปเลย 4 ปีเต็มๆ แต่ก็หวังในความซื่อสัตย์ ความรักชาติ ประเทศ รักประชาชน ความจริงผมไม่รู้มาก่อนจะเป็นแคนดิเดต เป็นเรื่องของพรรค ทุกอย่างพรรคทั้งนั้น แต่บางครั้งเขาจะเลือกพวกเราหรือเปล่าน้อ บางทีก็เหนื่อยนะ แต่ไม่เป็นไร ผมมีกำลังใจจากพวกเรา ชอบ-ไม่ชอบก็มีบ้างไม่เป็นไร ทั้งประเทศให้โอกาสพวกเราได้เป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ ขอเรียนต่อหน้า 400 คนให้ทราบต่อจากการเลือกผมเป็นแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 ซึ่งต้องแจ้งว่าทางพรรคได้เลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของพรรคคือนายพีระพันธุ์ โอเคหรือไม่ ขอบคุณท่านทำงานหนักมาพอสมควร รัฐบาลจะต้องเข้มแข็งเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่หยุดที่เดิม ทั้งหมดจะต้องก้าวไปด้วยกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่งั้นไปไม่ได้ และเราจะไม่ทันเขาวันนี้หลายอย่างมันฟื้นมาแล้ว ฝ่ายเศรษฐกิจเราก็มีมากมายคอยเชื่อมั่นแล้วกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว พร้อมชวนให้กาบัตร 2 ใบจากพรรคนี้

     ด้านนายพีระพันธุ์กล่าวว่า พวกเราสู้ไม่ใช่เพื่อ รทสช. ไม่ใช่เพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แต่สู้เพื่อคนไทยทั้งชาติ ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 ชีวิต จะมี พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำพรรคของเรา และเพื่อให้การนำทัพครั้งนี้เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ คณะกรรมการบริหารพรรคได้ประชุมกันเรียบร้อยว่าเสนอ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนำพรรคในสนามเลือกตั้ง

     ที่ตลาดสดทุ่งเจริญ อ.เมืองฯ จ.ร้อยเอ็ด นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมด้วยนายอนุรักษ์ จุรีมาศ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 และรองหัวหน้าพรรค ชทพ. ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 และสมาชิกพรรค ลงพื้นที่หาเสียงพร้อมพบปะพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาเดินซื้อของในตลาด โดยมีประชาชนมารอต้อนรับ

     จากนั้นนายวราวุธได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการลงพื้นที่อีสานตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.ว่า คิดว่ากระแสตอบรับหลังจากประเดิมเวที จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. และวันเดียวกันที่ จ.ร้อยเอ็ด มีการต้อนรับอย่างอบอุ่น เป็นกันเองจากประชาชน และตนให้คำมั่นกับพี่น้องชาวภาคอีสานว่า ชทพ.ต้องการจะปักธงในพื้นที่ภาคอีสาน ทุกคะแนนที่พี่น้องประชาชนภาคอีสานให้มานั้น จะสะท้อนกลับไปในรูปแบบการทำงานและการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องภาคอีสานทุกๆ คนอย่างแน่นอน ซึ่งธงของ ชทพ.จะยังคงโบกสะบัดอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ดตลอดไปตราบนานเท่านาน 

     นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังตนเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย ได้มีโอกาสพบกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ได้เดินทางมาต้อนรับตนและคณะอย่างอบอุ่น ซึ่งตนเห็น น.ส.แพทองธาร ถึงแม้จะอุ้มท้อง 8 เดือน แต่ก็ยังพยายามเดินทางมาให้เกียรติ โดยรู้สึกปลื้มใจและขอบพระคุณเป็นอย่างสูง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง