โต้‘ดีลลับลังกาวี’ พท.ย้ำเดินหน้าจับมือก.ก. ยืนกรานขอเก้าอี้ปธ.สภา

“เพื่อไทย” เรียงหน้าโต้ดีลลับลังกาวี รวมถึงภาพเศรษฐาโผล่ร่วมเฟรมเสี่ยหนูที่สนามเลสเตอร์ “ชลน่าน” ลั่นพรรคเดินหน้าจับมือ “ก้าวไกล” ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยตัดอำนาจเผด็จการเป็นหลัก ส่วนข้อเสนอของเอฟซีก็รับฟัง “ประเสริฐ” ย้ำ พท.ขอเก้าอี้ประธานสภาจริง แต่รอ ก.ก.ตกผลึก ส่วน 30 พ.ค.แค่ถกกรอบการทำงานเปลี่ยนผ่าน ส่วนเรื่องแบ่งเค้กแค่ 2 พรรคใหญ่คุยกันพอ “วิษณุ” แจงเหตุทำไมแย่งชิง เพราะเป็นประมุข 3 สถาบันหลักและยังมีอำนาจเคาะวันเลือกนายกฯ เมื่อใดก็ได้

เมื่อวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566 มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากกรณีปรากฏภาพนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) อยู่ในเฟรมเดียวกันที่สนามคิงเพาเวอร์ สเตเดียม ในเกมนัดสุดท้ายของเลสเตอร์ ซิตี เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค. ประกอบกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์เรื่องดีลลับลังกาวีโดยระบุว่า มีการประชุมลับดีลพิเศษสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน และให้พรรคเพื่อไทยถอยไปเป็นรัฐบาลขั้วใหม่กับพรรคภูมิใจไทย, พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), พรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) และพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เพื่อให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับบ้านในเดือน ก.ค.นี้

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 5/2566 สั้นๆ ถึงกรณีนายทักษิณจะเดินทางกลับไทยในช่วงเดือน ก.ค.ได้ประสานตำรวจมาหรือไม่ว่า “ไม่มี”

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ ได้โพสต์ภาพประชุมที่พรรค พท.พร้อมระบุ “ดีลลับ หรือดีลรัก แฮร่” โดยภายในภาพมีทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พร้อมกรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรคร่วมประชุม

ขณะที่นายเศรษฐาทวีตข้อความว่า ขอบคุณ นพ.ชลน่านที่ช่วยยืนยันความชัดเจนว่าไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับการเมืองจากการที่ได้พบกับนายอนุทินที่สนามฟุตบอล โดยทักทายกันตามประสาคนรู้จักไปให้กำลังใจคุณต๊อบ เพราะสนิทกับครอบครัวนายวิชัย ศรีวัฒนประภา มานานหลายปี เมื่อ 7-8 ที่แล้วตอนที่เลสเตอร์ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกก็มาร่วมฉลอง และวันนี้เลสเตอร์แข่งนัดสุดท้ายเพื่อหนีตกชั้นก็ต้องมาให้กำลังใจกัน ในฐานะคนบ้าบอล

“เรื่องนี้ผมแพลนไว้ก่อนหน้าเป็นเดือน ส่วนคุณหนูผมรู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และบังเอิญเจอกันก็ยิ้ม ทักทายตามประสาคนรู้จัก ไม่มีคุยหรือดีลเรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าจะคุยกันคงไม่ต้องมาถึงอังกฤษ” นายเศรษฐาทวีต

ทั้งนี้ นพ.ชลน่านกล่าวเรื่องนี้ว่า นายเศรษฐาเคยพูดไว้ก่อนแล้วว่าจะไปดูฟุตบอล ถ้าตั้งสมมุติฐานเรื่องดีลลับ และเชื่อว่านายเศรษฐาไม่ใช่คนเช่นนั้น ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนจะจริงหรือไม่จริงต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจังหวะเดียวกับที่นายชูวิทย์ออกมาเปิดเผยเรื่องดีลลับ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่มีความเห็น ซึ่งนายเศรษฐาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค แต่ภารกิจที่เขาไปทำเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เป็นภารกิจของพรรค ขอยืนยันว่าในมุมของพรรค ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรเราขอปฏิเสธว่าไม่มีดีลลับอะไรต่างๆ ขอยืนยันอย่าเอาเหตุการณ์ในหลายๆ เรื่องไปผูกให้เป็นเรื่องสอดรับสอดคล้องกัน ปรากฏการณ์อาจเกิดขึ้นในจังหวะที่สอดรับกันได้ แต่มั่นใจว่าไม่ใช่ และขอยืนยันว่าไม่ใช่ในนามเพื่อไทย            

ต่อมา นพ.ชลน่านยังได้ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้งว่า พรรคขอปฏิเสธ หลังจากเลือกตั้งมาพรรคไม่มีดีลลับกับใคร มีแต่ดีลจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมลงนามในเอ็มโอยูเท่านั้น อยากให้ไปถามคนที่เสนอออกมา หากเป็นดีลลับทำไมถึงมีคนรู้แล้วออกมาปล่อยข่าว ก็อยากให้ไปถามคนนั้น ส่วนกรณีปรากฏภาพนายเศรษฐากับนายอนุทินแล้วนำไปโยงกับดีลลับนั้น นายเศรษฐาทวีตข้อความออกมาชัดเจน นายเศรษฐาเป็นคนตรงไปตรงมา เรื่องนี้เขาเตรียมตัวเป็นเดือน อีกทั้งการดูฟุตบอลเป็นสิทธิเสรีภาพ ยืนยันไม่มีดีลลับ

เมื่อถามว่า แต่นายชูวิทย์ออกมาเปิดเผยว่ามีดีลลับลังกาวีอีก นพ.ชลน่านกล่าวว่า ผู้สื่อข่าวน่าจะไปถามนายชูวิทย์ พรรคเราไม่รู้ไม่เห็นจริงๆ เรื่องพวกนี้ เราไม่มีพฤติกรรมไปทำเช่นนั้นแน่นอน หน้าที่ของพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล คือจะทำอย่างไรให้บรรลุเจตจำนงของประชาชนให้มีรัฐบาลประชาธิปไตยเกิดขึ้น กระแสข่าวต่างๆ ที่ออกมาถือเป็นมิติทางการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเกิดก่อนหรือหลังเลือกตั้ง หรือแม้เป็นรัฐบาลไปแล้วก็จะมีการแสดงความคิดเห็นต่างๆ

พท.ลั่นมุ่งมั่นตั้ง รบ.ร่วม ก.ก.

ขณะที่นายประเสริฐกล่าวเช่นกันว่า ได้พูดมาหลายรอบแล้วในกรณีนี้ว่าไม่มีดีลลับอย่างแน่นอน และยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่เคยให้ไว้ตั้งแต่หลังผลการเลือกตั้งออกมา ไม่มีดีลไม่มีอะไรทั้งสิ้น สำหรับข่าวที่ออกมาในช่วงเวลานี้อย่างต่อเนื่องนั้น ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงออกมา และมีวัตถุประสงค์อะไร และขอให้ดูการกระทำมากกว่าคำพูด แต่ไม่อยากมองว่าเป็นการรับงานเพื่อมาโจมตีพรรค พท.

สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงเอฟซีพรรคเพื่อไทย ที่ได้ยื่นข้อเสนอ 5 ข้อให้พรรคถอนตัวจากการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรค ก.ก.นั้น นพ.ชลน่านระบุว่า พรรค พท.โดยกรรมการบริหารมีมติชัดเจนว่า เรายอมรับความต้องการประชาชน 25 ล้านเสียง ที่เลือกพรรคก้าวไกลมา 14.2 ล้านเสียง พรรคเพื่อไทย 10.8 ล้านเสียง อยากให้มีรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ เรายึดถือเจตจำนงนี้เป็นหลัก มั่นใจพรรค พท.จะเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรค ก.ก.ได้เป็นอย่างดี ส่วนที่เสนอว่าหากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ ให้พรรคอันดับสองเป็นผู้รวมเสียงข้างมากนั้น เรายังคงมีเจตจำนงทำตามแนวทางที่หนึ่งให้สำเร็จให้ได้ ประเด็นนี้เราจึงขอรับฟังไว้ แต่ขณะนี้เรามุ่งมั่นตั้งรัฐบาลกับพรรค ก.ก.ให้จงได้

เมื่อถามถึงการประชุมในวันอังคารที่ 30 พ.ค.จะคุยกันเรื่องตำแหน่งต่างๆ กับพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เลขาธิการพรรคก้าวไกลได้เสนอเรื่องทิศทางการทำงานร่วมกันที่จะจัดตั้งรัฐบาล และเตรียมตัวเป็นรัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่าน ว่ามีการทำงานรูปแบบไหน และมีคณะกรรมการร่วมกันที่จะทำหน้าที่ช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้การทำงานต่อเนื่องกับรัฐบาลชุดเดิม กรณีที่ได้รับตำแหน่งหน้าที่แล้วให้เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องหลัก ส่วนเรื่องตำแหน่งไม่ควรคุยกันในเวที 8 พรรค

“ในภาวะที่สังคมกำลังรอฟังอย่างนี้ ถ้าแปลงข้อเท็จจริงไปเป็นในมุมลบก็จะลบไป เราพยายามปิดกั้นไม่ให้ประชาชนกังวล อะไรที่เราคุยกันได้ มันจบแล้วเอามานำเสนอเป็นที่ยุติน่าจะดีที่สุด ไม่ควรคุยกันบนโต๊ะที่ยังไม่จบ ประสบการณ์เรามีมาแล้ว 3-4 วันที่ผ่านมาทำให้ประชาชนกังวลมาก” นพ.ชลน่านกล่าว 

เมื่อถามว่า พรรค พท.กับพรรค ก.ก.ได้หารือเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วหรือยัง นพ.ชลน่านกล่าวว่า คณะทำงาน 2 พรรคกำลังประสานอยู่ รวมถึงตำแหน่งอื่นๆ เช่นกันว่ามีความคิดเห็นอย่างไร เป็นไปตามที่คุยหรือไม่ มีข้อเสนออย่างไร รับได้หรือไม่ได้อย่างไร หลังจากนั้นจะเอามาพูดคุยกันเพื่อประกอบการตัดสินใจและตอบ ทั้งนี้เรื่องตำแหน่งประธานสภารีบคุยรีบจบมีคำตอบจะดีที่สุด ทีมเจรจากำลังพยายามกันอยู่ และมั่นใจว่าไม่บานปลายจนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

ก่อนหน้านี้ นพ.ชลน่านตอบคำถามถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า คณะเจรจากำลังคุยกัน และในฐานะหัวหน้าพรรคและมีชื่อตัวเองไปเกี่ยวข้อง ไม่อยากแสดงความเห็นในเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของคณะเจรจา ส่วนตำแหน่งประธานสภาต้องนำไปรวมกับเก้าอี้บริหารด้วยหรือไม่ ตามหลักเสียงข้างมากเด็ดขาด เรายอมรับในมุมนั้น เพราะเขามีสิทธิ์กำหนดตำแหน่งต่างๆ ทั้งบริหารและนิติบัญญัติให้สอดรับการทำงานของแต่ละฝ่าย แต่กรณีที่เป็นลักษณะพรรคร่วม มีวิธีคิดหลายเรื่องที่จะหาโอกาสทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะพรรคร่วมที่มีเสียงใกล้เคียงกัน อาจมีทิศทางหรือแนวทางในการทำงานร่วมกันภายใต้การยอมรับซึ่งกันและกัน แต่ข้อยุติบางอย่างจะยุติด้วยตัวมันเอง  เช่นเสียงข้างมากเด็ดขาด แต่กรณีความเห็นต่างที่มีเสียงก้ำกึ่งกัน ต้องอาศัยเสียงข้างมากในการตัดสิน การทำงานร่วมกันถ้าทุกฝ่ายให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราก็ไปด้วยกันได้

เพื่อไทยยันขอเก้าอี้ประธานสภา

นายประเสริฐกล่าวถึงข้อเสนอของเอฟซีพรรคว่า กลุ่มมีสิทธิ์ที่จะเสนอความเห็นต่างต่อพรรคได้ แต่พรรคก็มีหน้าที่บริหารความต่างให้เป็นความเห็นร่วมกัน ซึ่งพรรคยังยืนยันว่าจะดำเนินการตามเจตนารมณ์ที่ลงไว้ในเอ็มโอยู ที่จะสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนตำแหน่งประธานสภาและตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี  (ครม.) นั้นก็คงมีการพูดคุยกันในวันที่ 30 พ.ค. แต่เป็นเรื่องที่พรรค พท.และ ก.ก.คุยกัน 2 พรรคเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับพรรคร่วมอื่นๆ

ถามย้ำถึงกรณีตำแหน่งประธานสภา นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นข้อเสนอของพรรค พท. โดยย้ำว่าตำแหน่งนี้จะเป็นของพรรค ซึ่งพรรค ก.ก.ยังไม่ได้ตอบรับ โดยเลขาธิการพรรค ก.ก.ตอบกลับมาว่าขอเวลาอีก 2-3 วัน จะได้ความชัดเจนและจะพูดคุยเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่เรื่องนี้ก็อยากให้เอาเหตุผลมาคุยกัน ว่าในเมื่อพรรค ก.ก.ได้ตำแหน่งนายกฯ แล้ว ประธานสภาก็น่าจะเป็นของพรรค พท.มาทำหน้าที่ได้หรือไม่ ส่วนจะได้ข้อสรุปในวันที่ 30 พ.ค.หรือไม่ยังไม่ทราบ ขอคุยกันให้ตกผลึกก่อน

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงความสำคัญของตำแหน่งประธานสภาว่า เป็นตำแหน่งอันดับแรกที่ต้องมีขึ้นหลังการเลือกตั้ง และกลไกการเมืองทั้งหมดต้องดำเนินต่อไปหลังจากมีประธานสภา เช่นการเลือกนายกฯ แต่ภาระหน้าที่จริงๆ ก็เป็นอย่างที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และอดีตประธานสภาเคยพูด จะไปกำหนดอะไรตามใจชอบไม่ได้ ไม่เช่นนั้นสมัยก่อนเขาก็ไม่ยกให้นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภา 3 เสียงเอาไปชี้เป็นชี้ตายอะไรไม่ได้ โดยหลักคือปกครองข้าราชการในสภา ขณะเดียวกันก็มีอำนาจกำหนดวันประชุมสภา ส่วนเรื่องที่จะกำหนดหรือไม่กำหนดวาระอะไรก็เป็นไปตามข้อบังคับการประชุม มากกว่าดุลพินิจของประธานสภา

เมื่อถามว่า ตำแหน่งประธานสภาจะมีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี โดยไม่มีการปรับเลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เคยมีธรรมเนียมที่จะเอาออก จะออกก็ต่อเมื่อเสียชีวิตหรือลาออกและสภาหมดวาระ ซึ่งที่ผ่านมาในการการเสนอชื่อประธานสภาก็เคยมีมากกว่า 1 ชื่อ ซึ่งในประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ก็จะโหวตแข่งกัน ถ้าหากมีการเสนอชื่อมากกว่า 1 คน

ถามถึงการโหวตนายกฯ ถ้าชื่อของนายพิธาได้เสียงไม่ถึง 376 เสียง ลำดับขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ตรงนี้อำนาจอยู่ที่ประธานสภาว่าจะเลือกใหม่ในวันพรุ่งนี้ หรืออีก 7 วันค่อยเลือกกันใหม่ หรืออีก 15 วันเลือกใหม่ ฉะนั้นใครเป็นประธานสภาก็ชี้เป็นชี้ตายตรงนี้

เมื่อถามว่า หากไม่สามารถเลือกกันได้จะสามารถเปลี่ยนไปเลือกรายชื่ออื่นได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ประธานไปพลิกไม่ได้ อยู่ที่ ส.ส.เสนอชื่อกันใหม่ โดยพรรคการเมืองที่มี ส.ส.เกิน 25 คนเป็นผู้เสนอใหม่ แต่ประธานสภาไม่สามารถพลิกได้ ทําได้แค่เสนอวัน สภาต้องเป็นผู้พลิกเกมเอง แต่ถ้าสภาพลิกแล้วประธานไม่รับลูก และให้รออีก 1 เดือนก็ต้องรอทิ้งไปเดือนหนึ่ง แต่ถ้าประธานสภารับลูก และบอกว่าให้พรุ่งนี้มาใหม่ก็สามารถทําได้แม้เสนอชื่อเดิม

เมื่อถามว่า สาเหตุนี้ทำให้พรรค ก.ก.อยากได้ตำแหน่งประธานสภาใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ทุกคนทุกพรรคก็อยากได้ เป็นประธานสภาก็เท่ากับเป็นหนึ่งใน 3 องค์อำนาจ เวลาเข้าเฝ้าฯ ก็นั่ง 3 คนเรียงกัน ประธานสภา  นายกรัฐมนตรี และประธานศาลฎีกา

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวถึงการเลือกประธานรัฐสภาว่า ขึ้นอยู่กับการลงคะแนนในที่ประชุมสภา ไม่มีกฎเกณฑ์ใดที่แน่นอนว่าจะต้องเป็นของพรรคการเมืองใดอย่างไร อยู่ที่เมื่อถึงเวลามีผู้เสนอชื่อให้เข้ารับเลือกกี่คน และที่ประชุมสภาก็ลงคะแนน เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นเช่นนั้นมา และจะเป็นบุคคลรุ่นไหนก็ได้ เป็นบุคคลที่มีศักยภาพและสภาเลือกมา

บิ๊กตู่โวยอย่ามาโยงเรื่องส้มหล่น

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงสถานการณ์การเมือง ว่า หลายๆ อย่างก็ขอร้องให้ช่วยกัน อย่ามัวแต่ฟังเรื่องวุ่นๆ ภายในประเทศเราในขณะนี้ ฟังต่างประเทศเขาบ้าง จะได้รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหนและต้องแก้กันอย่างไร

เมื่อถามว่า มีคนพยายามจะโยงว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็รอส้มหล่นหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า “ส้มหล่น ส้มที่ไหนหล่น หล่นเรื่องอะไร” ถามย้ำว่าเป็นส้มหล่นทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับร้องเสียงดังว่า “ฮู้ว อย่ามาพูดการเมืองกับผม ผมไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไร ผมก็อยู่ของผมอย่างนี้ ผมก็ทำหน้าที่ของผมให้เรียบร้อยแค่นั้น ก็เมื่อเขาส่งมอบให้ใครเป็นก็เป็นไปสิ ไอ้ที่ว่าผมจะเป็นผมจะเลิกอะไรต่างๆ ผมไม่ตอบอะไรซักนิด ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามกฎกติกา ตามกฎเกณฑ์ของเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ ก็ว่ากันไป”

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจริงๆ และตั้งรัฐบาลไม่ได้จริงๆ ท่านพร้อมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่ต้องมาถ้า อย่ามาถ้ากับผม ถ้าไม่ได้หรอก ไม่มีถ้า ก็เป็นเรื่องของอนาคตใช่หรือไม่ เพราะถ้าทางโน้น ก็ต้องมีถ้าตรงนี้ ถ้า 1 ถ้า 2 ถ้า 3 ถ้า 4 ฉันจะไปตอบเธอได้อย่างไรเล่า ใช่ไหม พอแล้ว โอเค"

ส่วนนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรค พท.ก็ได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวจะลาออกจากพรรคพร้อม นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำกลุ่มแคร์ ว่าไม่จริง ไม่ลาออกอยู่แล้ว จะอยู่ไปตลอดแน่นอน แต่ของ นพ.สุรพงษ์ท่านอาจรับผิดชอบโซเชียลมีเดีย ต้องไปสอบถาม นพ.สุรพงษ์อีกครั้ง เพราะ นพ.สุรพงษ์ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคอยู่แล้ว

ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าที่ ส.ส.พะเยา เขต 1 พรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีอดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร.ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งแทนอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรค 22 คนว่า ได้รับการประสานงานและเข้าพูดคุยกับกลุ่มพี่น้องอดีตผู้สมัคร ส.ส.ดังกล่าวเพื่อทำความเข้าใจแล้ว และหลังพูดคุยก็เข้าใจกันดีแล้ว

 นายคมเดช มัชฌิมวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 7 จ.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 28 พ.ค. ร.อ.ธรรมนัสได้มาพบพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องราวต่างๆ กับตนเองและพี่น้องอดีตผู้สมัคร ส.ส.แล้ว และทุกคนก็เข้าใจกันดี ซึ่งจากนี้จะรอการประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกับผู้ใหญ่ในพรรค ตามขั้นตอนต่อๆ ไป และทุกคนยืนยันยังเคารพรักและเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประวิตรเหมือนเดิมตลอดไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดิจิทัลวอลเล็ตสะดุด'พรบ.ธ.ก.ส.' แจกเงินหมื่น‘ลูกผีลูกคน’อีกแล้ว

ภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง นำทีมหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มาแถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบหลักการ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์