'นฤมล' น้ำตาคลอ สละปาร์ตี้ลิสต์ รับอยู่ลำดับตามข่าวจริง

‘นฤมล’ น้ำตาคลอ ขอสละปาร์ตี้ลิสต์ ชี้ต้องผลัดใบ เปิดทางคนรุ่นใหม่ทำงาน ปัดน้อยใจ-ขัดแย้ง เผย ‘บิ๊กป้อม’ ไฟเขียว

24 มี.ค. 2566 – เมื่อเวลา 09.50 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร. แถลงถึงทิศทางการทำงานการเมืองกับพรรค พปชร. ว่า พปชร.มีบุคลากรคุณภาพจำนวนมาก ทั้งผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรคมาตั้งแต่ปี 61 ผู้ที่เข้ามาร่วมพัฒนาพรรคระหว่างทาง และผู้ที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานกับพรรค ทุกคนต่างมีความสามารถที่หลากหลายอันเป็นประโยชน์ต่อพรรค และต่างมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน

สำหรับตนเองมีความตั้งใจมาทำงานการเมือง เพราะปรารถนาที่จะตอบแทนพระคุณแผ่นดินไทย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่เสียภาษีส่งตนเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้เด็กยากจนคนหนึ่งที่ต้นทุนชีวิตต่ำมาก ได้มีโอกาสที่ดีในชีวิตมากมายทุกวันนี้เพราะสอบชิงทุนรัฐบาล ได้ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ดีทั้งปริญญาโทและเอก แล้วกลับมารับราชการเป็นอาจารย์ประจำอยู่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ร่วม 23 ปี จนได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น ศาสตราจารย์ และเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ได้รับโอกาสจากพรรคให้ได้เข้ามาทำงานการเมือง จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ ด้วยความหวังและความตั้งใจที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาทำประโยชน์ตอบแทนผู้มีพระคุณ ซึ่งคือพี่น้องประชาชนผู้เสียภาษีส่งนักเรียนทุนไปร่ำเรียน

นางนฤมล กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 62 ได้รับโอกาสจากผู้บริหารพรรคให้ได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 เป็นผู้หญิงคนเดียวใน 10 ลำดับแรก โดยที่ไม่ได้ร้องขอจากท่านใดเลย แต่เป็นความเมตตาล้วนๆ ของผู้บริหารพรรค ณ ขณะนั้น ที่เห็นเราทุ่มเททำงานให้พรรคตั้งแต่ยังตั้งไข่ เมื่อ ม.ค.61 ทั้งที่ตนเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง ไม่ใช่เด็กบ้านใหญ่ ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน

“ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงอยากเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทางการเมืองได้เข้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ บ้าง หากเราที่เคยได้รับโอกาสมาแล้ว ไม่เสียสละ คนใหม่ๆ ก็จะแทบไม่มีโอกาสที่จะได้ขึ้นมา จึงได้แสดงความจำนงต่อคณะกรรมการสรรหาและผู้บริหารพรรคว่าขอสละสิทธิที่จะได้รับการเสนอชื่อในบัญชี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ฉะนั้นวันนี้ทางพรรคจึงจะมีการพิจารณาบัญชีรายชื่อกันใหม่อีกครั้ง” นางนฤมล ระบุ

แกนนำ พปชร. กล่าวว่า พูดเสมอว่า ถึงเวลา พปชร. ต้องผลัดใบ ให้พลังใหม่ได้เข้ามาทำงาน ครั้งนี้อาจจะได้ผลัดหนึ่งใบ ได้เห็นพลังใหม่หนึ่งใบผลิดอกออกผล ครั้งหน้าอาจจะได้ผลัดเพิ่มอีกหลายใบ ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้จึงจะเติบโตอย่างเข้มแข็งและสวยงาม และสำหรับตน การทำงานทางการเมืองไม่ได้มีเพียงการทำงานในสถานะ ส.ส. เพียงเท่านั้น ยังมีงานอีกมากมายหลายรูปแบบที่เราสามารถช่วยพรรค ช่วยผู้สมัคร และรับใช้พี่น้องประชาชนได้ ที่สำคัญที่สุด คือ อุดมการณ์ทางการเมือง เพราะสำหรับตน การทำงานการเมือง คือ การเสียสละ ไม่ใช่การเอาชนะ และไม่ใช่การยึดติดในตำแหน่งแห่งที่ เชื่อเสมอว่า เมื่อเราไม่ยึดติด เราจะมีอิสระทางความคิด ซึ่งนำไปสู่อิสระในการตัดสินใจในทุกๆ เรื่องเพื่อส่วนรวม

เมื่อถามถึงอนาคตการเมืองหลังจากที่สละไม่ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะยังอยู่กับพปชร. และจะช่วยงานอย่างไร นางนฤมล กล่าวว่า จะช่วยงานอย่างอื่น เพราะมีความรับผิดชอบกับบุคคลที่พาเข้ามาทำงานกับพรรค และเสียใจที่ไม่สามารถทำให้ทุกคนได้สมหวังในการลงรับสมัครเลือกตั้ง ที่เป็นผลมาจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ และเกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ทำให้เกิดผลกระทบ เพราะเป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องนำพาเขาไปสู่การเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ตนยังช่วยงานสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้สมหวัง แล้ววันนี้ยังเป็นแม่ทัพใน กทม. และขึ้นเวทีปราศรัยได้ไม่มีใครห้าม

เมื่อถามว่า สาเหตุเป็นเพราะมีข่าวว่าลำดับบัญชีรายชื่อของนางนฤมล ตกไปอยู่ลำดับที่ 20 ทำให้เกิดความไม่พอใจหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่มี และการประชุมพรรค วันที่ 22 มี.ค. ที่มีชื่อของตนอยู่ในลำดับตามที่เป็นข่าวและเป็นตามนั้นจริงๆ แต่เมื่อมองลำดับ 20 – 30 อันดับแรก ไม่เห็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจ ทุ่มเททำงานให้พรรค จะมีโอกาสเข้ามาทำงาน ถ้าเราไม่ถอยไม่เสียสละ ถ้าคิดว่าเป็นผู้บริหารต้องได้ลำดับต้น คนรุ่นใหม่จะไม่มีทางเข้ามาได้ และหลายพรรคการเมืองก็เป็นลักษณะที่คล้ายกัน จึงอยากให้เขาเข้ามามีโอกาสทำงานการเมืองแต่โอกาสจะเป็นไปได้น้อยถ้าไม่เสียสละ ส่วนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการให้อยู่ในบัญชีรายชื่อต้องหารือกับกรรมการสรรหาก่อนว่าจะเป็นใคร และตนได้เสนอชื่อไปและตนได้เสนอชื่อไปแล้ว เป็นคนที่ทำงานมาร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคจัดลำดับให้ขยับมาอยู่ 1-3 จะเปลี่ยนใจหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว หากดูจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พปชร. ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 19 คน ครั้งนี้คาดว่าจะได้ใกล้ๆ เดิม หากอยู่ในลำดับ10 – 20 ก็มีโอกาสเข้าสภาทั้งสิ้น และ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้คัดค้าน โดยระบุว่าตามใจ

เมื่อถามว่า หากผลเลือกตั้ง พปชร.ได้กลับมา 12 ที่นั่งในกทม.จะส่งผลต่ออนาคตของนางนฤมลหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรในเรื่องนี้ เพราะแค่จัดผู้สมัครลง 33 เขต ก็ลำบากใจแล้ว

ส่วนการเสียสละครั้งนี้จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่การเปิดช่องให้กับเด็กของคนบางกลุ่มเข้ามาทำงานนั้น นางนฤมล กล่าวว่า ได้ฝากกรรมการสรรหาพิจารณาและให้โอกาสคนรุ่นใหม่ แต่ท้ายที่สุดต้องเคารพมติของกรรมการ

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าหากมีการจัดบัญชีรายชื่อเป็นบ้านใหญ่เป็นคนของใคร หมายถึงใคร นางนฤมล กล่าวว่า ที่พูดหมายถึงตัวเอง เพราะการเลือกตั้งเมื่อปี 62 ที่ตนชี้แจงว่าที่มาทางการเมืองมาได้อย่างไรและไม่ได้มาจากตระกูลบ้านใหญ่ แต่ได้รับความเมตตาจากผู้บริหารพรรคในขนาดนั้น ยังสำนึกในพระคุณมาตลอด

“ไม่ได้คับข้องใจอะไร ขอย้ำว่าเหตุผลเพราะอยากให้คนรุ่นใหม่ต้องการเข้ามาทำงานการเมืองจริงๆ ได้คุยกับคนรุ่นใหม่มาตลอดว่าต้องการเปิดให้ได้เข้ามาทำงานทางการเมือง ถ้าไม่มีช่องทาง จะไม่เห็นภาพคนรุ่นใหม่มาทำงานกับ พปชร. หลายคนที่เสียสละลาออกจากงานมาทำงานให้โดยไม่ได้อะไรเลย แต่มาทำงานด้วยความหวังดีกับพรรคและประชาชน และถ้าคนรุ่นใหม่ได้มาเป็นตัวแทนก็จะเป็นประโยชน์กับพรรค หากมีคะแนนเสียงและมีความนิยมก็จะทำให้คนเลือกพรรคมากขึ้น” นางนฤมล กล่าว

เมื่อถามว่า ได้แจ้งให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ก่อนตัดสินใจสละสิทธิ์หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า แจ้งแล้ว เมื่อถามย้ำว่า เมื่อสละการลงปาร์ตี้ลิสต์ จะยังทำงานอยู่กับ พปชร.หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ตนยังมีความรับผิดชอบ เพราะทิ้งคนไว้กลางทางไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลาออกจากตำแหน่งเหรัญญิกพรรคด้วยหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ขณะนี้ยัง ส่วนในอนาคตก็ยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้

เมื่อถามย้ำว่า การประกาศสละลำดับบัญชีรายชื่อจะส่งผลกระทบในช่วงเวลานี้ที่ใกล้เลือกตั้งหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า เป็นเรื่องดี เพราะจะสร้างบรรทัดฐานของนักการเมือง พปชร. ว่าเราไม่ได้ยึดติดและพร้อมเสียสละให้คนอื่นได้มีโอกาส และคิดว่าการแถลงข่าววันนี้เชื่อว่าไม่สูญเปล่าและจะทำให้ผู้สมัครมีกำลังใจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีให้กับผู้สมัคร

เมื่อถามว่า มีใครทาบทามให้ย้ายพรรค ไปร่วมงานด้วยหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่มี ตนเกิดมาจาก พปชร. ถ้าไม่ได้โอกาสจากผู้บริหารคงไม่ได้ทำงานมาถึงวันนี้ ถ้าจะทิ้งต้องมีสำนึกในสิ่งที่เราเคยได้รับมา และไม่มีใครกดดัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นางนฤมลแถลงข่าว มีน้ำตาคลอเมื่อเล่าถึงอดีตที่มาที่ได้รับโอกาสทำงานทางการเมืองจากผู้บริหาร ขณะที่แกนนำพรรค อาทิ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และพล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค ยืนฟังตลอดการแถลงโดยไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธรรมนัส' เชื่อ 'บิ๊กป้อม' มีชื่อสำรอง หาก 'ไผ่ ลิกค์' คุณสมบัติไม่ผ่านเป็นรมต.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อต่อนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ กับโควตาที่ยังว่างอยู่ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร

‘ชัยวุฒิ’ ร่วมงานสงกรานต์ จ.สิงห์บุรี รำกลองยาว อวยพรสุขกรานต์ สุขกายสุขใจ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี ใช้โอกาสวันสงกรานต์ กลับบ้านสิงห์บุรี

'เศรษฐา' การันตีโควตา รมต. ยังเป็นของพลังประชารัฐ ยันไม่ก้าวล่วงคนนั่งแทน 'ไผ่ ลิกค์'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติ นายไผ่ ลิกค์ สส. กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้

ลูกพรรคพปชร. รดน้ำขอพร 'บิ๊กป้อม' กำชับสส. เข้าประชุมสภาพร้อมเพรียง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.ต.อ.พัชรวาทวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

'ภูมิธรรม' เย้ย 'ก้าวไกล' อย่ากลัว 'ทักษิณ' อบรมเลิกวาทกรรมจิกกัด

'ภูมิธรรม' สวด 'ก้าวไกล' เลิกวาทกรรมจิกกัด ปั๊มตราคนอื่น ผิดหวังคนรุ่นใหม่เล่นการเมืองแบบเก่า ย้ำอย่ากลัว 'ทักษิณ' ปัดรับมือซักฟอก เหตุยังไม่ได้ใช้งบ