ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสว่าจะมีตัวแทนรับมอบอำนาจจาก น.ส.จตุ

ภายหลังศาลรับฝากขังนางสาวปิณฑิรา หรือดาว การิวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างฝากขังศาลคำร้องพร้อมหลักทรัพย์

ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ควบคุมตัว นางสาวปิณฑิรา หรือดาวการวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ ในความผิดฐาน “ร่วมกันกันฟอกเงิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งเป็นพี่สาวของภรรยานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน” ในคดีเงิน 39 ล้านบาทของ

พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของนายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน และ สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน”

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีของน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ที่ถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกง โดยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานจากพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อทนายตั้มในกรณีเงิน 39 ล้านบาท

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง

ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง

พ.ต.ท.ธีรพจน์ คงหนู พนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำตัวนายนุวัฒน์ ยงยุทธ อายุ 34 ปี ,น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหา ที่1-2 คนสนิท นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม มาฝากขังศาลครั้งแรก ในข้อหากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง ,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ,ร่วมกันฟอกเงิน

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงปมเงิน 39 ล้านบาทของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ มาดามอ้อย แจ้งความดำเนินคดี ว่า ด้านตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยวันที่ 11 พ.ย. 67

ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการตำรวจกองปราบ นำกำลังเข้าจับกุม นายนุวัฒน์ ยงยุทธ

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ว่า มีการดำเนินคดีทั้งหมด 4 คดี เงิน 71 ล้านบาท, คริปโต 39 ล้านบาท, รถเบนซ์ และ ค่าออกแบบโรงแรม

นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม หรือ ‘ทนายตั้ม’ ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส กรณีทนายตั้มรับเงินก้อนใหญ่ที่สุด คือ เงิน 71 ล้าน จากคุณอ้อย ผู้เสียหายในคดีฉ้อโกงเป็นปกติธุระ โดยนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย ตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกงเงินจำนวน 71 ล้านบา

‘ครูปรีชา’ ยิ้มร่ารับน้อง หิ้วกาแฟพร้อมข้าวผัด ฝาก ‘ทนายตั้ม-ภรรยา’ ปัดซ้ำเติม แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมจากการกระทำของตัวเอง

ทนายเผย ‘ตั้ม’ ยังไม่ยื่นประกันตัววันนี้ เตรียมหลักทรัพย์ประกันเฉพาะเมียแทน ‘ทนายเจ๊อ้อย’ โผล่ ยื่นค้านประกันตัวชี้มีพฤติกรรมหลบหนี หวั่นยุ่งเหยิงพยาน

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจออกหมายจับประเด็นที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม หลอกลวงนางจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย

กรณี น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ “เจ๊อ้อย” แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” ฐานฉ้อโกงเงิน จำนวน 71 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกสอบปากคำเจ๊อ้อยหลายครั้งหลังพบเส้นทางการเงินอีก จำนวน 39 ล้านบาท ที่ทนายตั้มอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าว

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กว่าพี่อ้อยแจ้งได้ความทนายตั้มและพวกเพิ่มอีก 1 คดี คือคดีจ้างออ

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางจตุพร อุบลเลิศ หรือ “เจ๊อ้อย” พร้อมด้วย นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความส่วนตัว เดิน