จวกกรมวิชาการเกษตรให้ข้อมูล"พาราควอต"นายกฯไม่หมด


เพิ่มเพื่อน    

จากกรณี มีการล่ารายชื่อกว่า 30,000 รายชื่อจากเครือข่าย เพื่อคัดค้าน นโยบายระงับการนำเข้าพาราควอตไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสเพราะส่งผลกระทบต่อเกษตรกร พร้อมทั้งกดดันให้นักวิจัยที่เผยแพร่ผลกระทบจากสารดังกล่าวลาออก ยื่นต่อผู้แทนพลเอก ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฯ ซึ่งนายกฯ ระบุว่าหากมีความจำเป็นต้องใช้อยู่มีความจำเป็นต้องหาสารกำจัดศัตรูพืชอื่นมาใช้เพื่อทดแทนพาราควอต  แต่ยังหาไม่ได้ ซึ่งต้องหาทางออกหากมีการระงับการนำเข้า โดยได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการปรึกษาหารือกันของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ โดยจะต้องฟังเสียงจากทุกฝ่ายและฟังเสียงจากทางองค์การอาหารและยา(อย.) สาธารณสุข และกระทรวงเกษตรฯ ด้าน  รมว.สธ.ได้ยืนยันตามนโยบายเดิมจากที่ประชุมที่มี 4 กระทรวงหลักหนุนระงับการนำเข้า ด้านมูลนิธิชีววิถีได้ออกแถลงการณ์คัดค้านเรื่องดังกล่าว 

นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จริงๆทางกรมวิชาการเกษตรมีข้อมูลสารบางตัวที่พอจะใช้แทนพาราควอตอยู่แล้ว ซึ่งราคาจะสูงกว่าแต่ก็มีปริมาณการใช้ที่น้อยกว่า ซึ่งในส่วนของพาราควอตนั้น อย.ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง อย่างไรก็ตามผลกระทบในเรื่องสุขภาพเกี่ยวกับสารตกค้างในพืช ผัก ก็มีการศึกษาในงานวิจัยบ้างแล้วแต่ยังไม่รับการยอมรับ ซึ่งมีอนุกรรมการ ที่มีอย.ร่วมอยู่ด้วย อยู่ระหว่างการเร่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบ เพื่อส่งให้คณะกรรมการหลักพิจารณาต่อไป

นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี กล่าวว่า การที่นายกฯ ระบุว่ายังไม่มีสารทดแทนพาราควอตเป็นเพราะยังไม่ได้รับข้อมูลทางวิชาการจากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีข้อมูลงานวิจัยสารที่สามารถใช้แทนพาราควอตได้ เช่น การปลูกอ้อยโดยใช้รถแทรกเตอร์ไถจะได้ผลดีกว่าการใช้สารเคมีและมีต้นทุนที่ต่ำกว่า การปลูกมันสำปะหลังจาก 7 จังหวัด พบว่ามีการใช้สารเคมีชนิดอื่น 2 ชนิดแล้วได้ผลดีกว่าการใช้พาราควอต แสดงให้เห็นว่ากรมวิชาการเกษตรมีข้อมูลแต่ไม่พยายามนำเสนอเผยแพร่ไปยังนายกฯ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ทางเครือข่ายขอสนุบสนุนท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ยืนยันตามมติเดิมว่าควรมีการเลิกใช้สารดังกล่าว เพราะไม่ใช่การพูดลอยๆ แต่เป็นคำพูดที่เชื่อถือได้ มีการทำงานร่วมกันและมีมติจาก 4 กระทรวงหลัก ถึงผลกระทบในเรื่องสุขภาพ หากไม่มีผลกระทบ 53 ประเทศทั่วโลกคงไม่มีการสั่งแบน 

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่มีการล่ารายชื่อ 30,000 รายชื่อเพื่อคัดค้านการระงับการนำเข้าพาราควอตไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส นั้นพบว่าทางเครือข่ายที่ล่ารายชื่อ อาจะมีความสัมพันธ์กับสมาคมรักษาพืช ที่มีกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตรวมอยู่ด้วย  และที่มีการระบุว่าส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในเรื่องรายได้จำนวนมากนั้น ก็มีการตรวจสอบไปยังกรมวิชาการเกษตรแล้วพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ ทางกรมฯไม่เคยมีข้อมูลตามที่กล่าวอ้าง พร้อมกันนี้ในส่วนที่มีการล่ารายชื่อเพื่อคัดค้านงานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบจากสารเคมีและกดดันให้รศ.ดร.พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล ผอ. สถาบันวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ ด้านวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรลาออก เพื่อรับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิจัยเรื่องผลกระทบต่อสารเคมี ทางเครือข่ายก็ได้มีการล่ารายชื่อเกษตรกรเพื่อให้กำลังใจ รศ.ดร.พวงรัตน์ เช่นกัน ขณะนี้มีเกษตรกรลงชื่อกว่า 5,000 รายแล้ว เพราะเห็นว่างานวิจัยควรมีความเสรีการ การถูกข่มขู่คุกคามเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

“หากพาราควอตไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ 53  ประเทศทั่วโลกคงไม่มีแบน แม้แต่ประเทศบลาซิลที่เป็นประเทศที่มีการปลูกอ้อยมากที่สุดในโลกก็มีการประกาศแบน และก่อนหน้านี้ทางเครือข่าย 369 เครือข่ายเกษตรกร จาก 50 จังหวัดก็มีการคัดค้านการต่อทะเบียนพาราควอตไปแล้ว แสดงให้เห็นว่าเกษตรกรส่วนใหญ่เห็นด้วย ดังนั้นหากนายกฯ ยืนยันว่าต้องการคุ้มครองผู้บริโภคก็ควรยึดหลักตรงนี้ในการยืนข้างประชาชน ไม่ใช่วนกลับไปที่เดิมที่ทางหน่วยงาหลัก 4 กระทรวงมีการออกนโยบายร่วมกันชัดเจนแล้ว”นายวิฑูรย์ กล่าว.

น.ส.ปรกชล  อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชกล่าวว่า เข้าใจว่าท่าน นายกฯ มีความห่วงใยประชาชน แต่การที่ รมว.สธ. ยืนยันตามมติเดิม และการที่ 53 ประเทศได้มีการแบนพาราควอตก็แปลว่ามีผลกระทบทางด้านสุขภาพชัดเจน ในฐานะผู้นำประเทศควรมีการชั่งน้ำหนักในการดูแลสุขภาพประชาชน และมีการออกเป็นนโยบายการดำเนินการที่ชัดเจน ทั้งนี้ก็ขอให้กำลังใจและสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในฐานะกระทรวงหลักในการออกนโยบายเรื่องนี้ต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"