16 ก.พ 61 - เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 5 (ป.ป.ท.เขต 5 ) ลงพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมหลังตรวจพบผู้ได้รับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่งถึง 500 ราย อาจมีทุจริตอ้างชื่อเบิกเงินหลังพบพิรุธในอำเภอสันกำแพงและสันป่าตอง 

นายสืบศักดิ์ ไชยวงค์ พร้อมด้วยนายอนุรักษ์ แก้วสิงห์ และนายณัฐพล บุญยะประภา พนักงานสืบสวนสอบสวนชำนาญการ สำนักงาน ป.ป.ท.เขต 5 ลงพื้นที่สอบปากคำนางมูล ปัญญาแก้ว อายุ 77 ปีผู้ป่วยอัลไซเมอร์ และนางใจ๋ กันทิยะ อายุ 88 ปี ป่วยเป็นโรคต้อกระจก ชาวบ้านหมู่ 10 ตำบลทุ่งต้อม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขยายผลหาหลักฐานเพิ่มเติ มหลังคุณยายทั้งสองคนพิการมีรายชื่อถูกนำไปเบิกเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งแต่ไม่ได้เงินจริง ซึ่งจาก 4 วันที่เจ้าหน้าที่ลงสุ่มตรวจเอกสารในสองอำเภอคือ อำเภอสันกำแพง และอำเภอสันป่าตอง ก็พบข้อมูลการทุจริตเบิกจ่ายเงินชัดเจนกว่า 40 ราย แยกได้เป็น 4 กลุ่ม 

ประกอบกลุ่มที่ถูกปลอมแปลงลายเซ็นแต่ไม่ได้รับเงิน กลุ่มที่มีการยื่นเอกสารถูกต้องแต่ได้รับเงินบางส่วน กลุ่มที่ถูกปลอมแปลงเอกสารและลายเซ็นแต่ได้รับเงินไปบางส่วน และกลุ่มที่มีรายชื่อเบิกและได้รับเงิน แต่ไม่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด

นางกนกวลี ปราบพุฒซา นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการเปิดเผยว่า หลังเข้าสอบสวนนางสายฝน ผัดบึ้ง ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้ข้อมูลและเอกสารใบสำคัญรับเงินและการเบิกจ่ายเงินเพิ่มพบว่า มีเจ้าหน้าที่ในศูนย์นั้นเข้าไปเกี่ยวข้อง 2 ราย แต่มี 1 ราย เมื่อเจ้าหน้าที่ขอสอบปากคำกลับบ่ายเบี่ยง ขณะเดียวกันจากการสอบสวนและเรียกตรวจเอกสารใบฏีกาการเบิกจ่ายเงินพบว่า ในปีงบประมาณ 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึง 30 กันยายน 2560 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเงินงบประมาณอุดหนุนทั้งหมด 10,108,000 บาท ล้านบาท 

โดยมีผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง 1,000 ราย โดยอำเภอที่ได้รับเงินช่วยเหลือมากที่สุดคือ อำเภอฝาง มีถึง 500 ราย ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันรุ่งนี้ต่อไปเพราะอาจมีเบาะแสทุจริตเพิ่ม ก่อนที่จะรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดส่งคณะกรรมการ ป.ป.ท.เพื่อแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป.