กลุ่มอนุรักษ์เซบายฯต้านโรงน้ำตาล-โรงไฟฟ้าหวั่นแย่งชิงน้ำ


เพิ่มเพื่อน    

21 ก.พ.61- กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร กว่า 100 คน ใช้รถกระบะประมาณ 10 คัน เพื่อรณรงค์ปกป้องทรัพยากรชุมชน 7 หมู่บ้าน ที่อยู่ในตำบลเชียงเพ็ง พร้อมแจกใบปลิวและพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจการออกมาร่วมกันกันปกป้องชุมชน ปกป้องลำน้ำเซบาย และประกาศเจตนารมณ์คัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล

นางมะลิจิตร เอกตาแสง กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง กล่าวว่า การมาเดินรณรงค์ในวันนี้ก็เพื่ออยากจะให้ชาวบ้านในตำบลเชียงเพ็ง มีความตระหนักและตื่นรู้ในประเด็นการปกป้องทรัพยากรชุมชน ซึ่งก็มีแผ่นพับแจกเพื่อให้ความรู้กับชาวบ้านถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังจากมีโรงงานน้ำตาลโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยทางกลุ่มพยายามสื่อสารกับชุมชนถึงข้อกังวล ดังนี้ 1.การแย่งชิงทรัพยากรน้ำลำเซบายจะถูกผันมาใช้ในโรงงานและโรงไฟฟ้า  2.0 ล้าน ลบ.ม./ปี  และขุดบ่อลึกกว่าลำน้ำเซบาย  ซึ่งจะทำให้น้ำจากลำเซบายซึ่งใช้ในการบริโภค-อุปโภค การเกษตร และอื่นๆ ถูกแย่งชิงไปแม้แต่ปัจจุบันน้ำก็ไม่มีเพียงพอในการให้ชุมชนในบางปี 2.น้ำเสียจากกระบวนการผลิต  มีโอกาสซึมลงในดินและแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ส่งผลให้น้ำใช้ประโยชน์ไม่ได้ อาจไม่เกิดในปีสองปี ขึ้นกับปริมาณสารเคมีที่สะสม


 3.  ฝุ่นดำ เถ้า ควัน  กลิ่นจากการเผาไร่อ้อย ต้องเผาเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บเกี่ยวให้ทันช่วงเวลาเปิดหีบ แม้จะทำให้ความหวานลดลง  และที่ปล่อยออกมาจากโรงงาน รวมถึงลานกองชานอ้อย จะทำให้เกิดการระคายเคือง ไอ จาม โรคภูมิแพ้ทั้งทางผิวหนังและระบบหายใจ  เหนียวติดตามผิวหนัง  เสื้อผ้าที่ตาก  หลังคาดำ  ใช้น้ำฝนไม่ได้   ฝุ่นละอองจะเกาะตามใบไม้  4.  ตามแผนรถสิบล้อบรรทุกอ้อยประมาณ 1,000 คัน/18 ชั่วโมง  จะวิ่งตลอดช่วงการผลิตในทุกปี  เกิดปัญหาการจราจร ฝุ่นละออง เศษอ้อยหล่น ถนนชำรุด  อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง จึงต้องรณรงเพื่อสื่อสารถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชุมชนบ้านเราในประเด็นการแย่งชิงทรัพยากร ในวันนี้เรารณรงค์แจกใบปลิว 7 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านเชียงเพ็งสองหมู่บ้าน  บ้านเซ  บ้านโนนม่วง  บ้านเซซ่ง  บ้านท่าลาด  และบ้านโนนตูม เป็นต้น และได้รับความร่วมมือกับชาวบ้านเป็นอย่างดี และเรามีแผนที่จะรณรงค์ปกป้องทรัพยากรชุมชนต่อไป เพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนในตำบลเชียงเพ็งตระหนักถึงผลกระทบเมื่อมีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าในพื้นที่

ด้านนายสิริศักดิ์ สะดวก ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทบางแห่ง ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตน้ำตาลทรายดิบและพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลจากเดิม 38 เมกะวัตต์ ปัจจุบันเพิ่มเป็น 61 เมกะวัตต์ มีแผนในการจะก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ในพื้นที่ตำบลน้ำปลีก อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ ทั้งนี้กระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ข้างต้นยังไม่ผ่าน เนื่องจากว่า 1.ประชาชนในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรไม่รับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงตั้งแต่เริ่มต้นที่รอบด้าน  ครบถ้วน  เพียงพอ 2.มีการบิดเบือนข้อมูลถือเป็นการละเมิดสิทธิของชุมชน 3.การทำ EIA ของโรงงานไม่ผ่าน แสดงให้เห็นถึงขั้นตอน และกระบวนการ ที่ไม่เข้าใจวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนชุมชนที่เติบโตมาก็เพราะการพึ่งพาทรัพยากรในชุมชน ทั้งดิน น้ำ ป่า อากาศที่บริสุทธิ์ เป็นต้น 4.ชาวบ้านตื่นรู้ตระหนักและให้ความสำคัญของวิถีชีวิตและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น 

'ชาวบ้านจึงคัดค้านกระบวนการทำ EIA ที่ไม่ชอบธรรมทุกครั้ง และ 5.ที่สำคัญ EIA ยังขัดแย้งกับหลักการความเป็นจริงในการดำเนินวิถีชีวิตของคนลำน้ำเซบาย การรณรงค์ของกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ตำบลเชียงเพ็งในวันนี้ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ชาวบ้านจะได้สื่อสารให้คนในพื้นที่รับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง' นายสิริศักดิ์ ระบุ

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"