เมียนอกสมรสยื่นฟ้อง 'บัวขาว' เรียกค่าเลี้ยงดูลูกสาววัย 5 ขวบ


เพิ่มเพื่อน    

ขอบคุณรูปภาพจาก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)

29 เม.ย.64 - ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถ.กำแพงเพชร น.ส.อัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ หรือ เก๋ ภรรยาของ ร้อยตรีสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว นักมวยชื่อดังระดับโลกของไทย พร้อมทนายอนันต์ชัย ไชยเดช นำหลักฐานยื่นฟ้องร้อยตรีสมบัติ ให้รับรอง ด.ญ.พิมพ์ญาดา บัญชาเมฆ หรือน้องมีตัง หรือน้องข้าวหอม อายุ 5 ปี ให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร

โดย น.ส.อัญวีณ์ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2556 ตนเองและบัวขาวได้คบหากัน และอยู่กินฉันสามีภรรยา จนกระทั่งประมาณต้นปี 2558 ได้ตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน จึงแจ้งให้บัวขาวทราบว่าตั้งครรภ์ แต่เจ้าตัวไม่ได้แสดงการปฏิเสธ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกันมา ตนเองทำหน้าที่ของภรรยาที่ดี และซื่อสัตย์ต่อบัวขาวมาโดยตลอด ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558 ตนเองได้คลอดน้องมีตังออกมา ซึ่งในใบสูติบัตรได้ระบุชื่อ นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว เป็นบิดาของน้องมีตัง ซึ่งทาง สมบัติ ก็รับทราบ และมิได้ทักท้วงแต่อย่างใด และยินยอมให้ใช้นามสกุลบัญชาเมฆ ซึ่งเป็นนามสกุลของบัวขาว ก่อนที่ บัวขาวจะพาตนเองและลูก ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกันตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน

แต่ด้วยความที่บัวขาวมีอาชีพเป็นนักมวยมีชื่อเสียงระดับโลก ต้องเดินทางไปชกมวยทั้งในและต่างประเทศบ่อยครั้ง จึงไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน อีกทั้งบัวขาวมีพฤติกรรมตีตัวออกห่าง นานๆ ครั้งจะมาตนเอง และลูก จนระยะหลังมานี้หายหน้าไปไม่ติดต่อกับตนเองอีกเลย เสมือนตนเองและลูกถูกทอดทิ้ง ซึ่งที่ผ่านมา ตนเองเคยขอค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรจากบัวขาวหลายครั้ง แต่กลับเพิกเฉย จึงทำให้ตนเองต้องออกไปหางานทำ เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว และเลี้ยงดูลูกเพียงลําพังนับตั้งแต่คลอดลูก ทั้งที่บัวขาวเป็นข้าราชการทหารยศร้อยตรี มีเงินเดือนประจํา มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และสามารถมีรายได้จากหลายทาง แต่กลับไม่ทำหน้าที่ของผู้นำครอบครัวที่ดี

ด้วยเหตุนี้ น.ส.อัญวีณ์ จึงขอความอนุเคราะห์จากศาลมีคำสั่งให้บัวขาวจดทะเบียนรับรองน้องมีตังเป็นบุตร โดยให้ตนเองเป็นผู้มีอํานาจปกครองน้องมีตังแต่เพียงผู้เดียว เพราะที่ผ่านมาบัวขาวไม่เคยเลี้ยงดูบุตรมาก่อน และขอให้มีคำสั่งชําระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรด้วย

ด้าน นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ยังระบุว่า การที่มายื่นฟ้องในวันนี้ ไม่มีเจตนาที่จะให้บัวขาวเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยส่วนตัวกลับมองว่าเป็นเรื่องดี ที่ประชาชนทั่วโลกจะได้รับรู้ว่า บัวขาวมีทายาทสืบสกุล อีกทั้งตนเองเข้าใจความรู้สึกถึงความรู้ของน้องมีตัง ที่อยากจะให้ทุกคนรับทราบว่าตนเองก็มีพ่อเป็นนักมวยชื่อดังระดับโลก อย่างไรก็ตาม ตนเองหวังว่าทั้งสองครอบครัวจะกลับมาดำเนินชีวิตที่ดีดังเดิม สำหรับคดีนี้ศาลนัดไกล่เกลี่ย ในเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ส.ค. นี้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"