'สว.สมชาย'สรุปแผนการกระจายวัคซีน 3 ช่องทาง ย้ำวัคซีนที่ดีที่สุดคือได้ฉีดเร็วที่สุด


เพิ่มเพื่อน    


21 พ.ค.64  - นายสมชาย แสวงการ สมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้
เพื่อให้ประชาชนเข้าใจเรื่องการฉีดวัคซีนที่รัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ
ผมขอสรุปให้เข้าใจตรงกันครับ ว่า
ขณะนี้รัฐบาลมีแผนการกระจายวัคซีน 3 ช่องทาง คือ

1) ระบบหมอพร้อม
     กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคลงทะเบียน ขณะนี้มียอดลงทะเบียนแล้วกว่า7.5ล้านคน เริ่มฉีดวันที่7มิย เป็นต้นไป
     กลุ่มประชาชนทั่วไปอายุต่ำกว่า 60 ปี ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 31 พ.ค.นี้ ประชาชนสามารถเลือกวันเวลาและสถานที่ได้

2) บริการเสริมการลงทะเบียน ณ จุดบริการ  หรือ ออนไซต์ On-site Registration
ช่องทางนี้ปรับจากการเรียกว่า วอล์ก อิน (Walk in) เป็นการลงทะเบียน ณ จุดบริการ ที่มีระบบรองรับและแจ้งประชาชนเมื่อเดินทางไปลงทะเบียนว่า มีวัคซีนสนับสนุนเพียงพอ ณ จุดบริการในวันนั้นหรือไม่ หากพร้อมฉีด แต่วัคซีนไม่พอในวันนั้นจะให้ลงทะเบียนเพื่อจองคิวนัดฉีดในวันอื่นต่อๆไป

ย้ำว่าบริการหลักยังเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม ส่วนการลงทะเบียน ณจุดบริการ ออนไซท์หรือวอล์กอินนั้นจะเป็นการบริการเสริมในช่วงนี้
ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทาง กทม.ได้จัดให้มีการกระจายจุดบริการวัคซีนทั่วพื้นที่ในโรงพยาบาล สถานพยาบาล และหน่วยงาน จำนวน 231 แห่ง และได้เตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลอีก 25 แห่ง ขณะนี้เปิดทดลองระบบแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ 1.เซ็นทรัล ลาดพร้าว 2.สามย่านมิตรทาวน์ 3.เดอะมอลล์ บางกะปิ และ 4.บิ๊กซี บางบอน


3) การจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเฉพาะ หรือการกระจายวัคซีนเชิงยุทธศาสตร์ เน้นจัดสรรวัคซีนไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มที่มีความจำเป็นพิเศษ หรือมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต เช่น บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อสม. ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ พนักงานด้านการบิน ครู อาจารย์ ผู้ขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์สาธารณะ พนักงานรถไฟและรถไฟฟ้า พนักงานในโรงแรม คณะผู้แทนการทูตและองค์กรระหว่างประเทศ นักธุรกิจและนักเรียน นักศึกษาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ บุคลากรในโรงงาน คนพิการ พนักงานภาคบริการอาหารและยา และกลุ่มอื่นๆ เพื่อให้การใช้ชีวิตและเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่สะดุด โดยประชาชนกลุ่มนี้สามารถติดต่อนัดหมายผ่านสถานพยาบาล หรือ อสม. ได้โดยตรง หรือหากเป็นกลุ่มบุคคลหรือสมาคมที่มีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน ก็สามารถยื่นเรื่องต่อกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาจัดสรรวัคซีนและจัดเตรียมสถานที่ฉีดต่อไป
ส่วนการฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมนั้น

เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้ โดยกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และภาคเอกชนจะร่วมมือกัน สนับสนุนให้บุคลากรกลุ่มนี้ฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรม การผลิต และภาคบริการ ฟื้นตัวได้โดยเร็ว นอกจากนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายระดมฉีดวัคซีนแบบปูพรมใน กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ ให้ได้อย่างน้อย 5 ล้านคน หรือ 70% ของประชากร เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ภายใน 2 เดือนนี้ (มิถุนายน-กรกฎาคม 2564) และฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั้งประเทศให้ครบ 50 ล้านคนภายในปี 2564
สมาชิกในครอบครัวที่มีอายุ18ปีขึ้นไป ควรฉีดวัคซีนทุกคนตาม3วิธีนี้นะครับ

#วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่ได้ฉีดเร็วที่สุด

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"