ธปท. ลุยปฏิรูปแบงก์ ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่อนปรนธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

ธปท. ไฟเขียว 6 บริษัทผ่านคุณสมบัติทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับธนาคารพาณิชย์ โดยไม่ต้องแสดงเอกสาร พร้อมตั้งธง 4 เดือนยกเครื่องกำกับดูแลสถาบันการเงินดึงใช้ดิจิทัลรองรับการให้บริการ เชื่อมีผลช่วยลดต้นทุนเอสเอ็มอี-สถาบันการเงินต้นทุนทางการเงิน

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้อนุญาตให้บริษัทที่ผ่านการตรวจคุณสมบัติจำนวน 6 แห่ง สามารถทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับธนาคารพาณิชย์ได้ โดยไม่ต้องแสดงเอกสาร เช่น ใบกำกับสินค้า สัญญาเงินกู้ หรือเอกสารอื่นๆ ในการทำธุรกรรม เป็นการอำนายความสะดวกลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการและธนาคารพาณิชย์มากขึ้น

สำหรับบริษัท 6  แห่ง ประกอบด้วย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ็นเอ็มบี-มินีแบ ไทย จำกัด, บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟนฺนิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท มิตรผล เทรซเชอรี่ เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ ธปท. อนุมัติ และยังขยายให้เวลาให้บริษัทที่สนใจเข้ามาสมัครเพิ่มจนถึงวันที่ 16 พ.ย. 2561 โดยมีการปรับเกณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับรูปแบบการทำธุรกิจของทั้งบริษัทไทยและต่างประเทศมากขึ้น

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งหลังปี 2561 ธปท. จะดำเนินการปฏิรูปกฎเกณฑ์การควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศระยะที่ 2 โดยจะเน้นกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และบุคคลรายย่อยให้มีการบริหารเงินตราต่างประเทศได้คล่องตัวมากขึ้น เช่น การลดเอกสารในการทำธุรกรรม การรวมบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศที่ปัจจุบันมีหลายประเภทเข้าด้วยกัน รวมถึงการผ่อนคลายการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยไม่ต้องผ่านตัวแทน นอกจากนี้ยังจะมีการผ่อนคลายหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และธุรกิจโอนเงินระหว่างประเทศ ให้สอดคล้องกับการบริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น

“ในครึ่งปีหลังนี้ ธปท. ยังมีแผนดำเนินการปฏิรูปการกำกับสถาบันการเงิน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่  1 มิ.ย. 2561 ซึ่งจะเชิญสถาบันการเงินและภาคธุรกิจจำนวนมากเข้ามาร่วมในการปฏิรูปครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 4 เดือน ประเด็นสำคัญของการปฏิรูปจะต้องทำให้สถาบันการเงินทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ให้คล่องตัวมากขึ้น ทั้งเรื่องการทำงานภายในและการทำธุรกิจของสถาบันการเงิน ขยายขอบเขตการลงทุนไปในบริษัทเทคโนโลยีที่เกิดใหม่มากขึ้น” นายวิรไท กล่าว

นายวิรไท กล่าวอีกว่า ยังต้องทำให้สถาบันการเงินปล่อยกู้สินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยลดขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อ การลดจำนวนเอกสาร การบริหารจัดการสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ซึ่งจะลดต้นทุนทั้งของสถาบันการเงินและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ถือเป็นประโยชน์กับทั้งผู้ประกอบการและสถาบันการเงินด้วย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"