ซูเปอร์โพลเปิดผลสำรวจคนไทยต้องการวัคซีนเข็มแรกถ้วนหน้า ยอมให้ยืดเวลาเข็มสอง


เพิ่มเพื่อน    

 

30 พ.ค. 2564 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง วัคซีนเข็มแรก ความต้องการถ้วนหน้า  กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,051 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 - 30 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.9 ต้องการวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยทุกคนได้รับก่อน ส่วนเข็มที่สองยอมรับได้ให้ยืดเวลาออกไป  รองลงมาคือร้อยละ 86.8 ต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน กระจายวัคซีนครอบคลุมคนต้องการทุกพื้นที่เร่งด่วนที่สุด และร้อยละ 83.7 ให้ประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันถ้วนหน้า ตามจำนวนวัคซีนที่มีอยู่

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.6 ต้องการให้รัฐบาล จัดอันดับกลุ่มเสี่ยงพื้นที่เสี่ยง กระจายให้จังหวัดจัดการเอง ในขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.1 ไม่ต้องการให้ เอาวัคซีนไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองในทุกระดับ และร้อยละ 79.6 ต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและภาคส่วนอื่น ๆ นำเข้าวัคซีนหลากหลายยี่ห้อ เร็วที่สุด

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.2 มั่นใจค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ต่อการได้ใช้ชีวิตปกติ เช่น เดินทาง ทำงาน ทำธุรกิจ ช้อปปิ้งจับจ่ายใช้สอย หลังจากได้รับ วัคซีนโควิด-19 เข็มแรกถ้วนหน้า ในขณะที่ ร้อยละ 15.6 มั่นใจปานกลาง และร้อยละ 6.2 มั่นใจค่อนข้างน้อย ถึง ไม่มั่นใจเลย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.6 มั่นใจค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ต่อการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังคนไทยได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกถ้วนหน้า ในขณะที่ร้อยละ 14.6 มั่นใจปานกลาง และร้อยละ 6.8 มั่นใจค่อนข้างน้อย ถึง ไม่มั่นใจเลย

ที่น่าสนใจคือ ผลการทดสอบปัจจัยที่สำคัญที่สุดและรอง ๆ ลงไป ที่มีผลต่อความมั่นใจของประชาชนต่อการเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังรับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกโดยรวม ด้วยการทดสอบสถิติ Multiple Regression Analysis พบว่า ปัจจัยต่าง ๆ ที่ถูกศึกษาโดยรวมมีความสัมพันธ์ระดับมากถึงร้อยละ 82.1 กับความมั่นใจของประชาชนต่อการเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังรับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรก และสามารถอธิบายความมั่นใจของประชาชนต่อการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังรับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกได้ ด้วยปัจจัยต่าง ๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ตามลำดับ ดังนี้

ความมั่นใจต่อการได้ใช้ชีวิตปกติ เช่น เดินทาง ทำงาน ทำธุรกิจ ช้อปปิ้งจับจ่ายใช้สอย หลังได้รับวัคซีนโควิด-19 ถ้วนหน้า (beta = .607) รองลงมาคือ ความต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและภาคส่วนอื่น ๆ นำเข้าวัคซีนหลากหลายยี่ห้อเร็วที่สุด (beta = .101) ความต้องการให้รัฐบาล จัดอันดับกลุ่มเสี่ยงพื้นที่เสี่ยงกระจายให้จังหวัดจัดการเอง (beta = .096) ไม่ต้องการให้เอาวัคซีนหาผลประโยชน์ทางการเมือง (beta = .091) และ ความต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนกระจายวัคซีนครอบคลุมคนต้องการทุกพื้นที่ เร่งด่วนที่สุด (beta = .080) จะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังได้รับวัคซีนเข็มแรกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในการศึกษาครั้งนี้
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า การที่รัฐบาลจะมุ่งกระจายให้ประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกถ้วนหน้าเร็วที่สุดอย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชาชนทั้งประเทศ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น  

ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวต่อว่า ผลการศึกษาครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า ขบวนการที่ปล่อยข่าวปลอมสร้างข่าวเท็จเรื่องคุณภาพของวัคซีนไม่อาจจะทำลายความต้องการวัคซีนต้านโควิด-19 ได้และไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายสร้างข้อมูลสับสน และไม่ต้องการให้นำวัคซีนไปหาประโยชน์ทางการเมืองในทุกระดับเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพรรคพวก ขณะเดียวกัน ผลการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนเห็นด้วยกับ การที่รัฐบาลปรับแผนกระจายวัคซีน ให้พื้นที่จังหวัดและประชาชนมีส่วนร่วมบริหารจัดการและเปิดช่องทางเข้าถึงมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนเข็มแรกถ้วนหน้าเร็วที่สุด

“ทั้งนี้ จำเป็นที่รัฐบาลต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงถึงการบริหารจัดการวัคซีนภาพรวมอย่างตรงไปตรงมา และสื่อสารกับประชาชนอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อบริหารความคาดหวังและสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนในช่วงวิกฤตของประเทศที่เราทุกคนต้องช่วยเหลือกันและกัน” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"