ความจริงเรื่องภาษีบุหรี่ไฟฟ้า


เพิ่มเพื่อน    

หากแก้ปัญหาภาษีบุหรี่ที่ใช้อยู่ขณะนี้ให้ดีขึ้น จะได้เงินมากกว่าที่คิดจะเก็บภาษีจากบุหรี่ไฟฟ้าหลายเท่า

ตามที่มี ส.ส.ออกข่าว เสนอให้รัฐบาลยกเลิกการห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อรัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นนั้น

ในความเป็นจริง หาก ส.ส.หันมาเรียกร้องให้กระทรวงการคลังแก้ไขจุดอ่อนภาษียาสูบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้ จะทำให้เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นมาก มากกว่าที่หวังจะเก็บได้จากการเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมายหลายเท่า

แต่หากเปิดให้ขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไม่ได้แก้ไขระบบภาษีบุหรี่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้ดีขึ้น จะเป็นการเพิ่มปัญหาทั้งด้านการจัดเก็บรายได้จากภาษี และเกิดประชากรกลุ่มใหม่ที่เสพติดบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่มาก่อน และไม่แน่ว่าโดยรวมแล้วรัฐบาลจะเก็บภาษีจากสินค้าบุหรี่ได้เพิ่มขึ้น

โครงสร้างและอัตราภาษีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะทำให้รายได้ภาษีสรรพสามิตจากยาสูบลดลงจากที่เก็บได้ 68,603 ล้านบาทในปี พ.ศ.2560 และ 68,548 ล้านบาทในปี พ.ศ.2561 เหลือ 62,905 ล้านบาทในปี พ.ศ.2563

และผลจากการที่ส่วนแบ่งการตลาดของการยาสูบแห่งประเทศไทยลดลงจาก 64.6% ในปี 2560 เหลือ 43% ในปี 2563 กำไรของการยาสูบแห่งประเทศไทยที่เคยสูงถึง 9,343 ล้านบาทในปี พ.ศ.2560 ลดลงเหลือ 550 ในปี พ.ศ.2563 ทำให้ไม่มีเงินกำไรที่จะนำส่งคลัง ส่วนนี้ก็เป็นรายได้ของรัฐที่ขาดหายไปปีละหลายพันล้านบาท

ขณะที่ชาวไร่ยาสูบได้รับความเดือดร้อนสาหัส จากการที่การยาสูบลดโควตาการปลูกยาสูบมากกว่า 40%

การประเมินประสิทธิภาพของระบบภาษียาสูบโดยศูนย์วิจัยยาสูบนานาชาติ มหาวิทยาลัยชิคาโก พบว่า ระบบภาษีของประเทศไทยได้คะแนน 1.75 จากคะแนนเต็ม 5 จากการที่มีการเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ซิกาแรต 2 อัตราตามราคาขายปลีก ทั้งยังมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างภาษีบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ยาเส้น และไม่มีการปรับอัตราภาษีตามการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อที่ต้องทำทุกปี

การเก็บภาษียาเส้นในอัตราที่ต่ำมาก ทำให้ราคาขายปลีกบุหรี่ยาเส้นต่ำกว่าบุหรี่ซิกาแรต 5-6 เท่า ในขณะที่ผู้สูบบุหรี่ยาเส้นมีถึงเกือบ 5 ล้านคน หากเพิ่มการเก็บภาษียาเส้นจะทำให้ภาษีที่เก็บได้เพิ่มขึ้นอีกมาก และทำให้คนสูบบุหรี่ลดลง เด็กๆ ติดบุหรี่น้อยลงด้วย

ระบบการควบคุมบุหรี่หนีภาษียังมีจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงอีกมาก และประเทศไทยยังไม่ได้ลงสัตยาบันในพิธีสารขจัดการค้ายาสูบผิดกฎหมาย อนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก ซึ่งกำหนดแนวทางปรับปรุงระบบการควบคุมยาสูบผิดกฎหมายอย่างครบวงจร

การพิจารณานโยบายภาษียาสูบที่ผ่านมา ยังขาดการมีส่วนร่วมของนักวิชาการที่เกี่ยวข้องจากนอกกระทรวงการคลัง และยังขาดความโปร่งใส รอบคอบ อีกทั้งแนวปฏิบัติที่ใช้อยู่ที่กรมสรรพสามิตกำหนดโครงสร้างอัตราภาษี และเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจร ไม่เปิดโอกาสให้คณะรัฐมนตรีมีเวลาพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการลงมติเห็นชอบข้อเสนอจากกรมสรรพสามิต ดังความผิดพลาดในการปรับโครงสร้างภาษีเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2560

ยังไม่มีการกำหนดนโยบายและแนวทางที่จะช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบที่จะได้รับผลจากการขึ้นภาษียาสูบอย่างเป็นรูปธรรม ความไม่ชัดเจนนี้ส่งผลเป็นอุปสรรคต่อการกำหนดนโยบายภาษียาสูบที่ดี ที่จะทำให้รัฐบาลเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น และการสูบบุหรี่ลดลง เพราะการเคลื่อนไหวร้องเรียนของชาวไร่ยาสูบจะกลายเป็นประเด็นการเมือง

ดังนั้น แทนที่ ส.ส.หลายท่านจะเคลื่อนไหวออกข่าวเรียกร้องให้เปิดขายบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อรัฐจะได้เก็บภาษีจากบุหรี่ไฟฟ้า จนกระทั่งมีการขอให้ตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในสภาผู้แทนราษฎร

จะเป็นคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง หาก ส.ส.จะรวมพลังมาเคลื่อนไหวให้กระทรวงการคลัง/รัฐบาลแก้ไขจุดอ่อนระบบภาษียาสูบที่ใช้อยู่ให้ได้เสียก่อน ที่จะเสนอให้รัฐบาลหารายได้จากบุหรี่ไฟฟ้า

ในทางกลับกันหากเปิดให้ขายบุหรี่ไฟฟ้า แม้จะเก็บภาษีจากบุหรี่ไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น แต่ปัญหาของระบบภาษีบุหรี่ที่มีอยู่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จะเป็นการเพิ่มปัญหาใหม่จากปัญหาเดิมที่เรื้อรังมานาน

บริษัทบุหรี่ข้ามชาติที่อ้างว่าการเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้รัฐบาลเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น เป็นบริษัทเดียวกันกับที่ขณะนี้ขายบุหรี่ซิกาแรตได้มากที่สุดในประเทศไทย มีประวัติคัดค้าน และใช้กลยุทธ์การลดราคาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดบุหรี่ไทย หากเปิดให้มีการขายบุหรี่ไฟฟ้า มีหรือที่บริษัทบุหรี่ข้ามชาติเดียวกันนี้จะไม่คัดค้านหรือแทรกแซงการกำหนดโครงสร้างและอัตราภาษีบุหรี่ไฟฟ้า

สิ่งที่ชวนให้คิดอีกประการหนึ่งคือ บริษัทบุหรี่ข้ามชาติที่อ้างว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกสำหรับคนที่สูบบุหรี่อยู่แล้วให้หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า และช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ธรรมดา โดยที่บริษัทบุหรี่ข้ามชาติขายทั้งบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้า หากบุหรี่ไฟฟ้าทำให้คนเลิกสูบบุหรี่ธรรมดาจริง เป็นไปได้หรือที่บริษัทบุหรี่ข้ามชาติจะส่งเสริมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อทำให้บุหรี่ธรรมดาที่ตัวเองผลิตขายได้น้อยลง และทำให้กำไรของบริษัทลดลง

จึงชัดเจนว่า การมุ่งมั่นที่จะวิ่งเต้นให้รัฐบาลยกเลิกการห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า ก็เพื่อที่บริษัทจะขายได้ทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดา ที่เขาครองส่วนแบ่งตลาดบุหรี่ในประเทศไทยได้มากกว่าการยาสูบแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว

ผลที่จะตามมาเป็นลูกโซ่ คือ การยาสูบแห่งประเทศไทยจะได้รับผลกระทบที่สู้บริษัทบุหรี่ข้ามชาติไม่ได้ และส่งผลต่อชาวไร่ยาสูบอีกทอดหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.

ศ.นพ.ประกิต  วาทีสาธกกิจ

ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช                                             

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"