รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียยืนยันระหว่างเยือนอินโดนีเซียเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลรัสเซียสนับสนุนความพยายามทางการทูตของอาเซียนเพื่อยุติวิกฤติในเมียนมา และได้ส่งสารเดียวกันนี้ต่อผู้นำทหารของเมียนมาไปด้วย อีกด้านทนายความเผย นางอองซาน ซูจี ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบสองโดสแล้ว

เซอร์เกย์ ลัฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย (ขวา) ไหว้ทักทายลิม จ๊อก ฮอย เลขาธิการอาเซียน ขณะเยือนกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2564 (Photo by Russian Foreign Press Service / Handout/Anadolu Agency via Getty Images)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เซอร์เกย์ ลัฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย อยู่ระหว่างเยือนอินโดนีเซียเมื่อวันอังคารที่ 6 กรกฎาคม โดยเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย เผยว่าเขาจะประชุมทางไกลกับเพื่อนรัฐมนตรีในกลุ่มอาเซียนด้วย
ลัฟรอฟยืนยันที่กรุงจาการ์ตาว่า ฉันทมติ 5 ข้อที่กลุ่มอาเซียนเห็นพ้องกันนั้น ควรเป็นพื้นฐานสำหรับการหาทางออกแก่สถานการณ์ในเมียนมา "ในการติดต่อกับพวกผู้นำเมียนมา พวกผู้นำทหาร เราส่งเสริมจุดยืนของอาเซียน ซึ่งควรอยู่ในมุมมองของเรา โดยถือเป็นพื้นฐานสำหรับการแก้ไขวิกฤตินี้และนำสถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติ" ลัฟรอฟกล่าว
รายงานรอยเตอร์กล่าวว่า ความคิดเห็นของรัฐมนตรีรัสเซียผู้นี้มีนัยสำคัญ และมีออกมาในช่วงยามที่กองทัพรัสเซียเกี่ยวพันอย่างล้ำลึกกับกองทัพเมียนมา ในขณะที่มหาอำนาจขนาดใหญ่ชาติอื่นๆ แซงก์ชันธุรกิจและพวกผู้นำเมียนมา ทั้งยังเรียกร้องให้ทั่วโลกห้ามการขายอาวุธแก่ประเทศนี้ หลังจากกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
รัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอาวุธให้รายใหญ่และช่วยฝึกกองทัพเมียนมา เป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ยอมรับคณะปกครองทหารของเมียนมา โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาพบกับพวกนายพลเมียนมาหลังการรัฐประหาร เดือนที่แล้วพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย พร้อมคณะผู้แทนของกองทัพ ก็เดินทางไปยืนกรุงมอสโกหลายวัน และแสดงสุนทรพจน์และให้สัมภาษณ์สื่อหลายครั้ง รวมถึงได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์
รอยเตอร์ระบุว่า แผนของอาเซียนบรรลุความเห็นพ้องเมื่อเดือนเมษายน แต่กองทัพเมียนมายังไม่เผยให้เห็นความตั้งใจที่จะปฏิบัติตาม พวกนายพลเลือกที่จะเดินทางแนวทางของตนในการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและประชาธิปไตย ซึ่งแตกต่างจากแผนของอาเซียนอย่างสิ้นเชิง สร้างความขัดเคืองแก่ชาติสมาชิกที่ตรงไปตรงมาที่สุดทั้งอินโดนีเซีย, มาเลเซีย และสิงคโปร์
ความพยายามของอาเซียนนั้นเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเมียนมาสานเสวนากัน, ให้แต่งตั้งผู้แทนพิเศษของอาเซียน, เปิดให้มีการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมมากขึ้น และยุติความรุนแรง
ส่วนในเมียนมา โซ โซ วิน ทนายความของนางอองซาน ซูจี เปิดเผยในวันเดียวกันว่า นางซูจีและคณะทำงานส่วนตัวของนาง ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 โดสเรียบร้อยแล้วระหว่างอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพ
ทนายหญิงผู้นี้ไม่ได้เผยรายละเอียดว่า นางซูจีซึ่งมีอายุ 76 ปี ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เมื่อใด หรือฉีดวัคซีนชนิดใด โดยเชื่อกันว่านางได้ฉีดเข็มแรกตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร
รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า เชื่อว่ามีผู้ติดตามประมาณ 10 คนที่พักอยู่กับนางซูจีในบ้านที่นางโดนกักบริเวณ ในจำนวนนี้รวมถึงหน่วยอารักขาและคนครัว
เมียนมามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นมาก จากที่เคยพบผู้ติดเชื้อวันละประมาณ 100 คนเมื่อต้นเดือนมิถุนายน แต่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 3,000 คน ยอดติดเชื้อสะสมของเมียนมาอยู่ที่ 168,374 คน เสียชีวิต 3,461 คน ทางการเมียนมากำลังพยายามจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม หลังจากได้วัคซีนที่อินเดียบริจาคให้ 1.5 ล้านโดส และอีก 500,000 โดสจากจีนเมื่อต้นปีนี้.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |