การเมืองเรื่องวัคซีนโควิด-19 กรณีไต้หวัน


เพิ่มเพื่อน    

ภาพ : สถิติผู้ติดเชื้อใหม่ของไต้หวัน

เครดิตภาพ : https://www.worldometers.info/coronavirus/country/taiwan/

  

      กลางเดือนพฤษภาคมโควิด-19 ระบาดหนักที่ไต้หวันอีกครั้ง ผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอย่างรวดเร็ว บางวันสูงสามร้อยกว่าราย เป็นระลอกใหม่ที่รุนแรงกว่าครั้งก่อน

เมื่อทุกคนวิ่งเข้าหาวัคซีน :

            ไต้หวันเคยผ่านการระบาดมาแล้ว น่าชมเชยว่าควบคุมโรคระบาดได้ดี เป็นเหตุผลหนึ่งที่คนไต้หวันไม่รีบเร่งฉีดวัคซีนแต่บัดนี้เกิดกระแสทุกคนต้องการฉีดวัคซีน เรื่องวัคซีนกลายเป็นประเด็นขัดแย้งในประเทศอย่างรุนแรง

ปลายเดือนพฤษภาคม ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน (Tsai Ing-wen) โทษจีนแทรกแซงไม่ให้ไต้หวันซื้อวัคซีนของบริษัท Pfizer โดยตรงจากเยอรมนี แม้จีนเสนอให้ซื้อผ่านบริษัทยาจีน (Shanghai Fosun Pharmaceutical Group) แต่ไต้หวันไม่ยอมใช้วิธีนี้ คิดว่าไม่โปร่งใส อาจมีแอบแฝง

            ด้านพรรคฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐบาลควรติดต่อกับจีน มองว่าโควิด-19 เป็นศัตรูร่วม การซื้อผ่านบริษัทจีน (ตามข้อเสนอรัฐบาลจีน) การซื้อสินค้าผ่านคนกลางเป็นเรื่องปกติ โทษว่ารัฐบาลไช่กำลังทำให้คนตายมากขึ้น

            ประเด็นนี้ก่อกระแสขัดแย้งภายในประเทศ ผลโพลปลายเดือนพฤษภาคมของ National Chengchi University’s Election Study Center พบว่าประชาชน 68% ไม่พอใจการแก้ปัญหาโรคระบาดของรัฐบาล

            ความจริงคือบริษัทผู้ผลิตวัคซีนจะเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลของแต่ละประเทศ กรณีไต้หวันเป็นปัญหาเพราะนานาชาติไม่ยอมรับสถานภาพรัฐบาลไต้หวันดังเช่นประเทศทั่วไป แม้กระทั่งรัฐบาลสหรัฐยังต้องช่วยไต้หวันอย่างระมัดระวังไม่ให้ขัดกับนโยบายที่มีอยู่ เรื่องนี้โทษบริษัทวัคซีนไม่ได้และโทษรัฐบาลไช่ไม่ได้เช่นกัน แต่ตรงนี้แหละที่รัฐบาลไช่ชี้ว่าจีนขัดขวางการซื้อวัคซีน เอาวัคซีนมาเล่นการเมือง ด้านจีนยืนยันว่าไม่ได้ปกปิดอะไร ย้ำว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน

การเมือง “ช่วย” หรือ “ปั่น” :

            เมื่อคนกำลังแตกตื่น วัคซีนมีน้อย พรรคชาตินิยม (Kuomintang) ฝ่ายค้านรณรงค์ให้ประชาชนลุกขึ้นประท้วงรัฐบาล ชูคำขวัญ “Taiwan Needs Vaccines” ชี้ว่ารัฐบาลบริหารผิดพลาดเรื่องวัคซีน ต้นเหตุวิกฤติประเทศ Alicia Wang (王育敏) กล่าวหารัฐบาลไช่บริหารจัดการแบบเผด็จการ (“dictatorship”) ไม่ฟังเสียงความเห็นต่าง

            ถ้าคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลเรื่องนี้จะโทษรัฐบาลไช่ไม่ได้เสียทีเดียว เพราะวัคซีนขาดแคลนทั่วโลก มีข่าวว่าบางยี่ห้อสั่งจองเต็มไปถึงปีหน้าแล้ว (2023) ไต้หวันมีเงิน แต่เงินอย่างเดียวไม่สามารถบันดาลได้ทุกสิ่ง มีหลายประเทศที่รวยกว่าและมีอิทธิพลมากกว่าไต้หวัน

            ในยามที่คนไต้หวันต้องการแต่หาฉีดไม่ได้ ประเด็นวัคซีนจึงตอบโต้ไปมาต่อเนื่อง

            ในอีกฟากหนึ่ง ตั้งแต่โควิด-19 ที่ไต้หวันระบาดหนัก ทางการจีนไม่รอช้ายื่นไมตรีพร้อมส่งมอบวัคซีน MADE IN CHINA แก่ไต้หวันหลายล้านโดส เสนอให้คนไต้หวันเดินทางมาฉีดวัคซีนที่จีน ข้อมูลเมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม คนไต้หวันราว 62,000 คนฉีดวัคซีนจีน ส่วนใหญ่เป็นพวกทำงานที่จีน

            เรื่องนี้จะมองว่าเป็นกลยุทธ์ทางการทูตก็ได้ เป็นวิธีทำให้คนไต้หวันเห็นว่าผูกมิตรกับจีนมีประโยชน์ จีนไม่เคืองแค้นพร้อมให้ความช่วยเหลือ ถ้าไต้หวันไม่คิดมากจะรับความช่วยเหลือย่อมได้ เพราะรัฐบาลจีนบริจาค Sinopharm กับ Sinovac ช่วยหลายสิบประเทศทั่วโลก ถ้าเพิ่มไต้หวันอีกสักชื่อไม่น่าจะแปลก

            บางคนตั้งข้อสงสัยว่าวัคซีนจีนที่ส่งให้ไต้หวันอาจมีสิ่งปลอมปน ไม่ปลอดภัย มุมมองที่ตรงข้ามคือรัฐบาลจีน ผู้ผลิตวัคซีนเหล่านั้นต่างหากที่กังวลความปลอดภัยของวัคซีนมากกว่าผู้ใช้ เพราะหากผิดพลาดจริงย่อมมีผู้กล่าวโทษรัฐบาลจีนต่างๆ นานา ชื่อเสียงของบริษัทผู้ผลิตอาจป่นปี้ในพริบตา ใครจะกล้าใช้วัคซีนยี่ห้อนี้อีก

            ความจริงคือวัคซีนเหมือนสินค้าบริโภคต่างๆ ที่จะต้องมีเกณฑ์มาตรฐาน มีการตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งออกจำหน่าย เหนือกว่านั้นคือยาหรือวัคซีนตรวจสอบเข้มงวดกว่าอาหารมาก เพราะหากผิดพลาดอาจหมายถึงชีวิตคน ไม่เพียงเท่านั้นประเทศผู้นำเข้าจะต้องตรวจสอบอีกรอบว่าผ่านมาตรฐานของตนเองหรือไม่ (นึกถึงสินค้าที่ผ่านมาตรฐานประเทศตนแต่ประเทศปลายทางบอกไม่ผ่านมาตรฐานของเขา มีสารพิษปนเปื้อนมากเกิน)

            ไต้หวันไม่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่จะตรวจสอบวัคซีนทุกล็อตว่าปลอดภัยผ่านมาตรฐานหรือไม่ ข้อสงสัยเกรงว่าจีนจะใส่สิ่งแปลกปลอมจึงเป็นเรื่องเหลวไหล

            เมื่อนโยบายของรัฐบาลใช่ไม่ต้องการเป็นมิตรกับจีน การโทษจีนย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก เช่นเดียวกับพรรคก๊กมินตั๋งที่เป็นมิตรกับจีนมากกว่า จ้องหาเรื่องรัฐบาลจากเหตุโรคระบาด คำถามคือจุดยืนเช่นนี้ให้ประโยชน์หรือโทษมากกว่า ควรวางบางเรื่องไว้ก่อนและร่วมมือกับจีนเรื่องวัคซีนหรือไม่

            ในแง่ระหว่างประเทศ เมื่อญี่ปุ่นบริจาควัคซีนแก่ไต้หวัน รัฐบาลจีนออกโรงโจมตีญี่ปุ่นว่าบั่นทอนนโยบายจีนเดียว รัฐบาลไต้หวันจึงโต้กลับประณามจีนว่ากีดกันไม่ให้ตนได้วัคซีน ผลจากการต่อสู้ทางการเมืองภายในของไต้หวันลามไปถึงความสัมพันธ์กับจีน คนไต้หวันมีทั้งพวกมองจีนแง่บวกกับลบ ในระยะหลังคนมองลบมากขึ้นจากกระแสจีนจะส่งทหารรุกราน เรื่องวัคซีนกลายเป็นอีกประเด็นที่ช่วยโหมไฟเกลียดชังจีนรุนแรงกว่าเดิม

                คนไต้หวันมีอิสระที่จะเลือกต่อต้านจีน คำถามคือเกลียดชังจีนด้วยเหตุผลอันสมควรหรือไม่ จากเหตุผลที่ต่างชาติสร้างขึ้นมา จากที่นักการเมืองในประเทศปั่นขึ้นมาเองหรือไม่

            คนไต้หวันกำลังถูกรัฐบาลต่างชาติชักใย ถูกนักการเมืองปั่นหัวหรือไม่

            เป็นเรื่องดีที่สังคมไต้หวันตื่นตัวแต่เนิ่นๆ แต่หากพิจารณาด้วยเหตุผล การติดเชื้อวันละสามสี่ร้อยรายเมื่อเทียบกับประชากร 23.5 ล้านไม่ถือว่าสาหัส ฝ่ายค้านยกประเด็นนี้เล่นงานรัฐบาล ทำให้เป็นประเด็นร้อนแรง น่าคิดว่าทำให้สังคมตื่นตระหนกจนเกินควรหรือไม่

            การป้องกันโรคระบาดเป็นเรื่องดี การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องจำเป็น แต่การปั่นให้รุนแรงเกินเหตุ ทำให้สังคมตื่นตระหนกเกินเหตุย่อมไม่สมควร น่าคิดว่าความขัดแย้งที่ถูกโหมกระพือโดยฝ่ายการเมือง ขยายความชิงชังระหว่างกัน ผลกระทบจากการเมืองระหว่างประเทศ ฯลฯ เหล่านี้สร้างความเสียหายต่อคนไต้หวันมากเพียงไร มากกว่าโควิด-19 หรือไม่

การเมือง วัคซีน วินัย เอกภาพ :

            ในขณะที่พวกนักการเมืองฉกฉวยประโยชน์จากโรคระบาด ต้องการรักษาฐานคะแนนเสียงตัวเองและทำลายคะแนนอีกฝ่าย แต่ที่สถานการณ์โรคระบาดไต้หวันดีขึ้นรวดเร็ว (ล่าสุดรายงานติดเชื้อ 20-30 คนต่อวัน) ไม่ใช่เพราะนักการเมืองหรือวัคซีน ความมีวินัยและเอกภาพของคนไต้หวันต่างหากที่ยับยั้งการแพร่ระบาด

            กรณีความมีวินัย การร่วมมือร่วมใจของชาวไต้หวันชวนนึกถึงสมัยเมืองอู่ฮั่นระบาดหนัก ณ ตอนนั้นยังไม่มีวัคซีน คนจีนเมืองอู่ฮั่นร่วมมือร่วมใจปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเต็มที่ การป้องกันตัวเองคือการป้องกันคนอื่น การป้องกันคนอื่นคือการป้องกันตัวเอง ตระหนักว่าแม้ตนไม่กลัวติดเชื้อแต่การติดเชื้อของตนอาจทำให้อีกหลายคนติดเชื้อ ตัวเองอาจไม่เสียชีวิตแต่พ่อแม่ปู่ย่าอาจป่วยหนัก

            การมีวินัย เอกภาพของคนในชาติเป็นเหตุผลช่วยให้จีนกับไต้หวันพ้นวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 เศรษฐกิจฟื้นตัวรวดเร็วและกำลังได้เปรียบหลายประเทศทั่วโลกที่เศรษฐกิจสังคมยังเดินหน้าไม่เต็มที่ เป็นอีกครั้งที่ไต้หวันกับจีนสามารถเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ว่าจะแง่เศรษฐกิจหรือการสร้างสังคมที่มีวินัยเป็นเอกภาพ เรื่องเหล่านี้สำคัญไม่ใช่หรือ

            ใครๆ ก็รู้ว่าชาติที่พลเมืองมีวินัยเป็นเอกภาพคือพลังสร้างชาติให้เจริญรุ่งเรืองมีอนาคต ต้านศัตรูที่คอยเข้ามายุยงปลุกปั่นให้แตกแยก ชี้ชวนประชาชนให้เป็นพวกขี้โรค ไม่เอาการเอางาน.

---------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"