22 ก.ค.64 - ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น.กล่าวถึงการชุมนุมในห้วงเวลาตั้งแต่วันที่ 2 - 22 ก.ค. มีกลุ่มผู้ชุมนุมสำคัญทั้งสิ้น 8 กลุ่ม 1.แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ชุมนุมวันที่ 2 ก.ค. 2.ไทยไม่ทน โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ชุมนุมวันที่ 3 ก.ค. ,10 ก.ค. กลุ่มที่ 3 ประชาชนคนไทย โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ ชุมนุมวันที่ 3 ก.ค. ,10 ก.ค.

กลุ่มที่ 4.คาร์ม็อบ โดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ชุมนุมวันที่ 3 ก.ค.,10 ก.ค.และวันอื่นๆ กลุ่มที่ 5.โมกหลวงริมน้ำ ชุมนุมวันที่ 3 ก.ค. กลุ่มที่ 6 กลุ่มแบงคอกแซนด์บอกซ์ ชุมนุมวันที่ 6 ก.ค. กลุ่มที่ 7.อาชีวะปกป้องประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมวันที่ 9 ก.ค.และกลุ่มที่ 8 กลุ่มราษฎร ชุมนุมวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา

ทั้ง 8 กลุ่ม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้ง 8 กลุ่มมีการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ส่วนใหญ่จะเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ร.บ.ความสะอาด พ.ร.บ.การจราจรทางบก และ พ.ร.บ.เครื่องกระจายเสียง และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง บางคนมีการกระทำความผิดมาตรา 215 ร่วมกันสมคบตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบในบ้านเมือง มาตรา 138 ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน ตลอดจนมาตรา 112 ในภาพรวม สถานีตำรวจท้องที่ที่พบการกระทำความผิด สน.นางเลิ้ง สน.ชนะสงคราม สน.ดุสิต สน.สำราญราษฎร์ ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งสิ้น 16 คดี ตรวจพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดแล้วไม่ต่ำกว่า 154 ราย และอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบอีกด้วย

กรณีกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้านัดหมายชุมนุมกันวันนี้ที่สวนลุมพินี เวลา 16.00-18.00 น.และม็อบฮาเลย์ นัดหมายชุมนุมวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค.เวลา 13.00 น. ที่หน้าร้านแมคโดดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กองบัญชาการเตือนทั้งสองกลุ่มว่า ขณะนี้ กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ควบคุมและเข้มงวด การชุมนุมและการรวมตัวที่มั่วสุมอันก่อให้เกิดการแพร่เชื้อโรคไม่สามรรถกระทำได้เป็นการทำผิดกฎหมาย ผู้ร่วมชุมนุม ผู้ชักชวน ผู้เกี่ยวข้องด้วยประการหนึ่งประการใดถือว่าเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกฎหมาย

จากการชุมนุมที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีการกระทำความผิดหลายบัญญัติด้วยกัน ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะแจ้งเตือนให้เลิกการชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้เชื่อฟัง มีการทำลายสิ่งของที่เป็นสมบัติสาธารณะ พยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ ขว้างปาสิ่งของทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้พร้อมอาวุธ แสดงว่าการชุมนุมที่ผ่านมา ไม่ใช่การชุมนุมที่สันติและสงบปราศจากอาวุธตามที่ผู้ชุมนุมกล่าวอ้าง

“ขอเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีพฤติกรรมและพฤติการณ์ที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย ขอให้พึงยกเลิก งดเว้นการกระทำดังกล่าวมิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”รอง ผบช.น.กล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ กล่าวถึงแกนนำที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวตามเงื่อนไขของศาลแต่ยังเข้าร่วมการชุมนุมว่า เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.เป็นต้นมา ผู้ใดฝ่าฝืนเงื่อนไขก็ต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ การชุมนุมนับตังแต่ต้นเดือนที่ผ่านมามีการทำกิจกรรมคู่ขนาน 13 จังหวัด การดำเนินคดีคล้ายกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลดำเนินการคือ รวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอน อยากฝากเตือนว่าการชุมนุมของแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างในเรื่องของกฎหมายที่บังคับใช้อยู่แต่อย่างน้อยผู้ชุมนุมได้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆคล้ายกับกรุงเทพฯ

เมื่อถามถึงกรณีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบดารา นักแสดง ที่ call out พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมาบและฝ่ายสืบสวนไปรวบรวมพยานหลักฐานว่าการกระทำของกลุ่มดาราต่างๆหรือกลุ่มที่เข้าร่วมผิดกฎหมายอย่างไรหรือไม่ อันดับแรกถ้าเป็นความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ความผิดต่อส่วนตัวต้องแจ้งให้ผู้เสียหายมาร้องทุกข์ ในกรณีที่ไม่เป็นความผิดหรือเข้าข่ายหมิ่นประมาท แต่เป็นการนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จ บิดเบือน เข้าสู่ระบบคอมฯสร้างความเสียหายให้กับประชาชนในภาพรวมจะเป็นความผิด พ.ร.บ.คอมฯ จะต้องพิจารณาเป็นรายๆไป ว่าแสดงความคิดเห็นสุจริตหรือไม่ ในแต่ละประเด็นแยกกันออกเป็นรายๆไป นอกจากรายชื่อ 20 ดาราที่มีการยื่นมา ยังมีบุคคลอื่นอีกหลายคนมีการวิพากษ์วิจารณ์ และเผยแพร่เฟกนิวส์ หรือข่าวปลอม บช.น.ได้ร่วมกับ บช.ปอส.และกระทรวงดีอี ในการแชร์ข้อมูลดำเนินคดีร่วมกัน

อย่างวันนี้มีการดำเนินคดีกับนักร้อง มิลลิ แร๊ปเปอร์สาว ข้อหาดูหมิ่นโดยการโฆษณาที่ สน.นางเลิ้ง ผู้ต้องหามารับทราบข้อหาเปรียบเทียบปรับแล้วตามข้อหา 393 ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสมัยนี้ดำเนินการตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏข้อเท็จจริงมีเพียงหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนเป็นอย่างอื่นได้ ถ้ามีการกระทำความผิดเข้าองค์ประกอบกฎหมาย พนักงานสอบสวนไม่สามารถหลีกเลี่ยงดำเนินการเป็นอย่างอื่นได้