โควิด-19 ระบาดทำคนอดอยากเพิ่ม10%


เพิ่มเพื่อน    

U.N.หรือองค์การสหประชาชาติ ได้ออกมาเตือนว่าในช่วงการระบาดโควิด-19 นั้น ประชากรของโลกร้อยละ 10 นั้น กำลังเป็นโรคขาดสารอาหาร เพราะความหิวพุ่งขึ้นสูงในช่วงของการระบาด โดย U.N.ได้ออกมาเตือนเมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า การระบาดของไวรัสโคโลน่านั้น สร้างความเลวร้ายเป็นอย่างมาก เพราะนั่นทำให้คนต้องเผชิญกับความหิวโหย อีกทั้งการขาดแคลนอาหารนั้นเริ่มรุนแรงมากขึ้น จากปัญหาโควิด-19 โดยได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคง ทางอาหารและโภชนาการโลก ประจำปี 2564 หรือ (State of Food Security and Nutrition in the World) ว่า ปัจจัยของโรคโควิด-19 นั้น ทำให้ประชากรขาดสารอาหารคิดเป็น 10%

 

 

รายงานที่รวบรวมเป็นประจำทุกปี โดยหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติ กล่าวว่า ความหิวโหยได้เริ่มคืบคลานสูงขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ในปี 2553-2558 แต่ปีที่แล้วความหิวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตามสัดส่วน และแซงหน้าการเติบโตของประชากรโลกก็ว่าได้ ทั้งนี้ผลการรายงานยังพบอีกว่าในช่วงปี 2020 ที่โควิด-19 เริ่มเกิดขึ้นกระทั่งถึงปัจจุบัน ทำให้คนขาดสารอาหารคิดเป็นร้อยละ 10% ถ้าเทียบกับความอดยากอาหารในปี 2019 อยู่ที่ร้อยละ 8.4%”

              

ทั้งนี้รายงานตัวเลขแบ่งตามภูมิภาค โดยระบุว่าผู้คนที่ขาดสารอาหารมากกว่าครึ่งหนึ่ง อาศัยอยู่ในเอเชีย แต่ความหิวโหยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด คือในประเทศแอฟริกา และความชุกของภาวะขาดสารอาหารโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 21% ของประชากร ซึ่งนั้นมากกว่าภูมิภาคอื่นถึง 2 เท่า”

 

สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าประชากรโลกนั้น ไม่มีความมั่นคงทางด้านอาหาร และภาวะดังกล่าวรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากความหิวโหยที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12 พูดง่ายๆว่าการที่พวกเขาได้กินอาหารอิ่มท้อง อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่พวกเขาควรจะได้บริโภคอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ทั้งนี้ในปี 2020 มีผู้ที่อดยากและหิวโหยคิดเป็น 928 ล้านคน ขณะที่ปี  2019 มีเพียง 148 ล้านคน ซึ่งเป็นความอดยากที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ข้อมูลจากรายงานระบุว่า มีหลายปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดความหิวโหยเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงความขัดแย้งและผลกระทบจากสภาพอากาศ เช่นเดียวกับผลผลิตที่ต่ำ และห่วงโซ่อุปทานอาหาร หรือขั้นตอนการผลิตอาหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนอาหารสูงขึ้น

 

ดร.ชาร์ลส์ โอวูบาห์ หัวหน้าผู้บริหารของ Action Against Hunger องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและทำงานด้านการจัดการ เกี่ยวกับปัญหาความอดยากของโลก บอกว่า ความหิวเกิดขึ้นจากเหตุและผลของความขัดแย้ง โดยสังเกตว่าประมาณ 60% ของคนหิวโหยของโลก ส่วนมากอาศัยอยู่ในประเทศที่มีความอดอยาก อาวุธสงคราม เพราะปัญหาดังกล่าวจะนำมาซึ่ง ข้อพิพาทเรื่องอาหาร น้ำ หรือทรัพยากรที่จำเป็นในการผลิตอาหาร และนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความหิวโหยทั่วโลก พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ แต่ทว่าก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจ สำหรับประชากรที่ต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง สู้รบกัน นอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องของสภาพภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลง กระทั่งกระทบต่อแหล่งอาหาร รวมถึงโรคติดต่ออย่างโควิด-19 ที่ทำให้ความอดอยาก และหิวโหยเพิ่มขึ้นเช่นกัน”

 

ดร. โอวูบาห์ บอกอีกว่า ปัจจัยเหล่านี้เป็นจุดอ่อนที่ซ่อนอยู่ในระบบสุขภาพ อาหาร และการคุ้มครองทางสังคมแย่ลงไปอีก อีกทั้งความหิวโหยยังคุกคามชีวิตของสมาชิก ที่เปราะบางที่สุดในสังคม ซึ่งกำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่แล้ว” แต่ประเด็นสำคัญในรายงาน คือปัจจัยประกอบของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งทำลายเศรษฐกิจของหลายประเทศ และมีผลกระทบร้ายแรงต่อประเทศที่อ่อนแออยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียและแอฟริกา

 

ท้ายการรายงานสรุประบุว่า ในขณะที่ยังไม่สามารถระบุจำนวน ผลกระทบของการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในปี 2020 ได้อย่างเต็มที่ แต่เรามีความกังวลเกี่ยวกับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบจำนวนหลายล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากการแคระแกร็น (149.2 ล้านคน) ขาดโอกาสการเข้าถึงอาหารที่ดี (45.4 ล้านคน) หรือมีน้ำหนักเกิน (38.9 ล้านคน) ภาวะทุพโภชนาการในเด็กยังคงเป็นความท้าทาย”


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"