นายกฯถกศบค.ชุดใหญ่แก้โควิด สั่งเคลียร์เอกสารเร่งนำเข้า ‘สปุตนิก วี’


เพิ่มเพื่อน    

1 ส.ค. 2564 เมื่อเวลา 13.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือศบค.เป็นประธานการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่11/2564 ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จากบ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 รอ.โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว. พลังงาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในฐานะผอ.ศปก.ศบค.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.ตัวแทนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รองปลัดกระทรวงอุตสากรรม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาศบค.และฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรวัคซีนและที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข และตัวแทนกรมการค้าภายใน เข้าร่วมเป็นต้น

      

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯกล่าวก่อนเข้าสู่วาระการประชุมว่า ขณะนี้ไทยเตรียมรับวัคซีนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะวัคซีนสปุตนิก วี จะเร่งเรื่องเอกสารทางฝั่งบริษัท ขณะที่คณะแพทย์จะเจรจาการสั่งซื้อวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยต้องเร่งฉีดให้แพทย์ และบุคลากรด่านหน้า

 

สำหรับการใช้ชุดทดสอบแอนติเจน Antigen Test Kit (ATK) ต้องรัดกุม และเชื่อมกับโรงพยาบาลในการรับส่งต่อผู้ป่วย ต้องควบคุมราคาและคุณภาพ ส่วนการรักษาพยาบาลให้มีระบบที่เชื่อมมีต่อกัน รวมทั้งการใช้สมุนไพร พร้อมเน้นย้ำดูแลแพทย์ บุคลากรด่านหน้าทุกๆเรื่อง รวมถึงเรื่องของสิทธิประโยชน์เจ้าหน้าที่เบิกจ่ายให้เร็ว และกำลังพิจารณาสิทธิพิเศษหากจำเป็น

 

จากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานสถานการณ์การติดเชื้อต่างประเทศยังสูง เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มพบการระบาดสายพันธุ์เดลตาแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีการประกาศให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้ว

 

 ขณะที่ประเทศไทย พื้นที่ กทม.เริ่มมีจำนวนผู้ป่วยลดลง และมีจำนวนเพิ่มขึ้นในต่างจังหวัด ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยจะยังสูงต่อเนื่องไปอีก 1-2 เดือน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พูดคุยและหารือเรื่องสถานการณ์ของเชื้อเดลตา ซึ่งทุกฝ่ายยอมรับว่าน่าเป็นห่วง เพราะสหรัฐฯเองขณะนี้วัคซีน ไม่สามารถเอาอยู่ โดยตรงนี้นายกฯ สั่งการให้หาข้อมูลสื่อสารประชาชน อย่าให้ประชาชนตื่นตระหนก

 

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขยังรายงานพบการระบาดในพื้นที่โรงงานที่กระจายไปสู่ชุมชนค่อนข้างสูง โดยส่วนนี้นายกฯขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มข้น เพราะส่วนใหญ่ไม่เข้ามาตรการ Bubble and Seal ที่เป็นการควบคุมการระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

        

จากนั้น สาธารณสุขรายงานจำนวนการครองเตียงของรัฐและเอกชน พบว่ามีการครองเตียงไปมากกว่า 30,000 เตียง จนเต็มเกือบทั้งหมด จึงจำเป็นต้องเน้นย้ำมาตรการ Home Isolation และ Community Isolation ตรงนี้นายกฯได้สั่งการให้ขยายเตียงรองรับผู้ป่วยและอย่าทำให้ประชาชนตื่นตระหนกว่าไม่มีเตียงรองรับ

        

นอกจากนี้ กระทรวงสารธารณสุขนำเสนอกราฟฟิกการประเมินสถานการณ์ ถ้าหากมาตรการล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพเพียง 20% ตัวเลขผู้ป่วยอาจจะยังมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น แต่หากการล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพประมาณ 25% ประกอบกับการเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุภายใน 1-2 เดือนนี้ จะส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่นายกฯยังแสดงความกังวลการชุมนุมทางการเมืองที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงนายกฯได้ขอให้ทุกจังหวัดร่วมมือกันทำให้มีชุมชน/หมู่บ้านปลอดเชื้อ เป็นพื้นที่สีฟ้า ด้วยความร่วมมือกันทุกส่วนในชุมชน อยากช่วยกันสร้างชุมชนสีฟ้า ถวาย 12 สิงหาคมนี้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"