ธ.ก.ส.แจงล็อกดาวน์ทุบราคา'หมู-ยางพารา'ดิ่ง


เพิ่มเพื่อน    


2 ก.ค. 2564 นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือน ส.ค. 2564 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 8,419 - 8,465 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.30 – 0.84% เนื่องจากปัจจัยบวกจากการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน บังกลาเทศ และอินโดนีเซีย, ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 10,335 - 10,537 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.30 – 2.26% เนื่องจากสต็อกของผู้ประกอบการเริ่มลดลง จึงคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้น , มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.98 - 2.02 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.51 – 2.54% เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยสูงขึ้น ประกอบกับประเทศจีนยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่องจากพื้นที่ในประเทศที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 80 ปี ส่งผลให้ผลผลิตข้าวโพดลดลง จึงมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยทดแทนเพื่อใช้ผลิตเอทานอล

น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 17.67 - 18.19 เซนต์/ปอนด์ (12.79 - 13.17 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.50 – 4.50% เนื่องจากคาดว่าประเทศจีนจะมีการนำเข้าน้ำตาลในปริมาณที่เพิ่มขึ้น และจากความกังวลเรื่องน้ำค้างแข็งในประเทศบราซิล ในช่วงกลางเดือน ก.ค. 2564 ทำให้ผลผลิตอ้อยของบราซิลได้รับความเสียหาย และปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 6.27 - 6.31 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.12 – 0.87% เนื่องจากความต้องการน้ำมันปาล์มของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาปาล์มน้ำมันยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ จากปัจจัยกดดันของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลง จากการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ

ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 10,166 - 10,288 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 0.91 – 2.08% เนื่องจากค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง รวมถึงปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ส่งผลให้สามารถส่งออกข้าวได้เพียง 30% ของปริมาณคำสั่งซื้อเท่านั้น, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 8.11 - 8.17 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.30 – 1.00% เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ประมาณ 8% ของปริมาณผลผลิตทั้งหมด ขณะที่ปัญหาฝนตกในหลายพื้นที่อาจเป็นอุปสรรคในการเก็บเกี่ยวผลผลิต อาจทำให้ผลผลิตออกน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงผู้ประกอบการยังมีการนำเข้าวัตถุดิบอื่นมาผลิตอาหารสัตว์เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศมีราคาสูง

นอกจากนี้ ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 48.00 - 49.00 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.04 – 2.08% เนื่องจากสต็อกยางพาราโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ยังรุนแรง มีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงนักลงทุนในตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้า ถึงแม้ราคายางพาราในประเทศจะได้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่อ่อนค่าลงก็ตาม, สุกร ราคาอยู่ที่ 70.55 - 71.26 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.34 – 1.33% เนื่องจากภาครัฐยกระดับมาตรการปิดสถานที่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ การงดรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร โรงเรียนและสถาบันศึกษาให้ใช้วิธีการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรลดลง

กุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 133.69 – 135.32 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.50 – 1.70% เนื่องจากคาดว่าจะมีการใช้มาตรการ ล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดต่อเนื่องในเดือน ส.ค. จะส่งผลให้ความต้องการบริโภคกุ้งในประเทศลดลง ขณะที่การส่งออกกุ้งของไทยคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งจากการขาดแคลนแรงงานและประเทศผู้นำเข้าที่มีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพกุ้งของไทย และโคเนื้อ ราคาอยู่ที่ 94.90 - 95.25 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.05 – 0.42% เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อโคในประเทศลดลงจากปัจจัยด้านอาหารตามธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นในช่วงเข้าสู่ฤดูฝน ประกอบกับปริมาณโคเนื้อที่เพิ่มขึ้นมากกว่าความต้องการบริโภค


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"