กินน้ำตาลพอเหมาะ...ดีต่อกายและใจ


เพิ่มเพื่อน    

คุณเคยสังเกตบ้างหรือไม่ ว่ากินน้ำตาลมากเกินไปหรือเปล่า? ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกลับมาดูเรื่องการจำกัดการบริโภคน้ำตาลในแต่ละวันของคุณ แม้ว่าที่ผ่านมาเราได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคน้ำตาลว่าไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริงทั้งหมด 
    คำว่า "น้ำตาล" ทางชีวเคมีหมายถึงคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยน้ำตาลธรรมชาติ เช่น น้ำตาลที่เกิดขึ้นในผลไม้ นม และแม้แต่ผักบางชนิด ยังมีน้ำตาลที่ผ่านการกลั่นและผ่านกระบวนการกระทั่งออกมาเป็นน้ำตาลทรายขาว ซึ่งเป็นน้ำตาลที่มนุษย์สร้างขึ้นและเติมเข้าไปในอาหารที่เรากิน 
    ดร.อลีจาโดร จุงเกอร์ แพทย์โรคหัวใจและเวชปฏิบัติ กล่าวว่า “เมื่อคุณกินน้ำตาลจากธรรมชาติ ร่างกายของคุณจะทำการย่อยอาหารและนำไปใช้ในร่างกาย ดังนั้น คุณจำเป็นต้องหมั่นเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อขจัดพลังงานส่วนเกินจากน้ำตาลที่คุณบริโภคเข้าไป แต่การเติมน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จะแตกต่างออกไป โดยเฉพาะถ้าเป็นน้ำตาลที่สกัดในโรงงานแล้ว ต่อให้คุณพยายามมากแค่ไหนในการออกกำลังกาย หรือหมั่นเคลื่อนไหวร่างกาย แต่นั่นก็จะทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงานของคุณขาดสมดุล”
    สมาคมโรคหัวใจในอเมริกาอย่าง American Heart association ระบุว่า “แนวทางการบริโภคอาหารล่าสุด สำหรับชาวอเมริกันแนะนำว่าไม่เกินร้อยละ 10 ของแคลอรีต่อวัน ซึ่งมาจากน้ำตาลที่ปรุงเข้ามาในอาหารที่รับประทาน สำหรับผู้หญิงอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 100 แคลอรีต่อวัน หรือไม่ควรกินน้ำตาลเกินประมาณ 6 ช้อนชา สำหรับผู้ชาย 150 แคลอรีต่อวัน หรือไม่ควรกินน้ำตาลเกินประมาณ 9 ช้อนชาต่อวัน แต่ทั้งนี้คนอเมริกันส่วนใหญ่บริโภคมากกว่านั้นมาก โดยเฉลี่ยประมาณ 17 ช้อนชาต่อวัน”
    ดร.อลีจาโดร ติ กล่าวว่า “โดยพื้นฐานแล้วร่างกายของคุณต้องมีน้ำตาลอยู่บ้าง เนื่องจากน้ำตาลมีความสำคัญต่อชีวิต และการซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย ดังนั้น การหลีกเลี่ยงน้ำตาลทั้งหมดในทุกรูปแบบไม่ใช่หนทางที่ดี เช่น การที่ร่างกายของเราต้องการคาร์โบไฮเดรตบางรูปแบบ เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตหรือแป้ง เท่ากับเชื้อเพลิงหรือแหล่งสร้างพลังงานให้ร่างกายของเรา”
    ด้าน “ฮอลลี โรรูสโซ่” นักวิจัยและอาจารย์สอนโรคเบาหวานในโรงพยาบาล Yale New Haven บอกว่า “การที่เราบริโภคคาร์โบไฮเดรต ก็จะเกิดการย่อยอาหารและสลายไป เหมือนกับการบริโภคน้ำตาล ซึ่งคาร์โบไฮเดรตในที่นี้ประกอบด้วย แป้ง ธัญพืช พืชตระกูลถั่ว มันฝรั่ง ผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งในอาหารเหล่านี้หลายชนิดมีน้ำตาลธรรมชาติ แต่มีสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ ปะปนอยู่ในกลุ่มอาหารดังกล่าวด้วยเช่นกัน 
    สิ่งสำคัญคือต้องคอยดูการบริโภคน้ำตาลของคุณเพื่อสุขภาพที่ดีตลอดชีวิต แต่การรับประทานอาหารที่ไม่มีน้ำตาล ไม่ใช่ทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับคนส่วนใหญ่ และไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพด้วย เช่นเดียวกับการที่ร่างกายของเราต้องการคาร์โบไฮเดรต ดังนั้น เมื่อคุณไม่มีอาหารทั้ง 2 ชนิด ที่เป็นแหล่งพลังงาน คุณจะรู้สึกเฉื่อยชาและเหนื่อย
    สำหรับการบริโภคของหวาน ให้ลองเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น กินผลไม้ผสมวิปครีมแบบโฮมเมด หรือใช้ของที่ทำจากน้ำตาลธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมในการปรุงอาหาร ลองใช้น้ำผึ้ง อินทผาลัม น้ำเชื่อมเมเปิล มะพร้าว หรืออบเชย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"