‘เติ้ล-นิวนิว’เปิดใจหลังรีเทิร์นรัก เคลียร์ประเด็นสร้างกระแสหวังงาน!


เพิ่มเพื่อน    

 

        เติ้ล-ธนพล นิ่มทัยสุข ขอควงหวานใจ “นิวนิว เอวเด้ง” เคลียร์ชัดเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก เรื่องจริงหรือว่าหิวแสง แล้วเหตุการณ์ในวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเติ้ลจะกลับไปติดเหล้าอีกครั้ง? พร้อมเผยเรื่องราวเส้นทางความรักจับมือฝ่าฟันชีวิตคู่ ฝ่ายชายติดเหล้า ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไบโพลาร์ ถึงขนาดฝ่ายหญิงต้องเช็ดอุจาระและปัสสาวะให้ โดยทั้งคู่มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31

 

มีข่าวว่าเลิกกัน เพราะนิวนิวไปโพสต์รูปเติ้ลบอกว่านั่งอยู่หน้าตู้เย็นเหมือนคนเมาอีกแล้ว ภาพที่เห็นรับไม่ได้ พี่เติ้ลกลับไปกินเหล้าหน้าตู้เย็นอีกแล้ว เหตุการณ์วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?

นิวนิว : ตอนแรกเราไปดูธุรกิจที่ชัยภูมิประมาณ 2 เดือน แล้วเราก็คุยกันว่าโอเคที่รักเดี๋ยวเรากลับมาบ้าน ต่างคนต่างไปดูบ้านกัน หนูดูบ้านหนูแล้วเขาก็แยกกลับบ้านไป แล้วประมาณ 2 วัน บ่าย3 เขาโทรมาว่า เดี๋ยวพี่เข้าไปรับนะ เดี๋ยวเราไปชัยภูมิกัน หนูก็แต่งตัว เก็บของรอถึงประมาณ 3 ทุ่ม ก็ไม่มีติดต่อเข้ามา โทรไปก็ไม่รับโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้ โทรเป็น 100 สาย รับแล้วบอกว่าพี่หลับอยู่ หนูก็เลยถามว่าพี่หลับหรือว่าพี่เมา หนูก็โมโหแล้ว หนูรอตั้งแต่บ่าย3 ทำไมพี่ไม่มา พี่โกหกใช่ไหม งั้นไม่ต้องวาง เขาเอารถหนูไปซ่อม หนูก็เดินจากบ้านหนูไปบ้านเขา แล้วไปกดกริ่งเรียกเขา เขาก็ไม่เปิด หนูก็เลยปีนเข้าไป แล้วหนูก็ไปเคาะหน้าบ้าน ส่องเขาก็เห็นนั่งอยู่หน้าตู้เย็นที่ที่เคยนั่ง แล้วหนูก็รู้สึกโมโหมาก หนูก็เลยเดินอ้อมไปข้างบ้าน แล้วเตะกระจกนิรภัยเขาแตกครั้งเดียวเลย

 

เราก็มุดกระจกเข้าไป ภาพที่เห็นวันนั้นเป็นยังไงบ้าง?

นิวนิว : เขานั่งอยู่ เราก็บอกว่าเปิดประตูอีกไหม ถ้าไม่เปิดหนูเตะอีกนะ เขาก็เลยเปิด หนูก็เลยค้นหาว่ากินอะไรบ้าง แต่ก็ไม่เจอ หนูก็เลยถามพี่กินอะไรเข้าไปทำไมสภาพเป็นแบบนี้ เขาบอกหนูว่าเขาง่วงนอน เขากินยาประจำตัวเขาที่เขาเป็นโรค พอกินเข้าไปมันก็รู้สึกมึนๆ คลายเครียดก็จะทำให้หลับไปอะไรประมาณนี้

 

เติ้ลเล่าให้ฟังสิ วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น?

เติ้ล : วันนั้น 2 วันแล้วเรากลับมา ก็เหมือนกันต่างคนต่างแยกย้ายกันไปดูบ้าน ผมทำงานบ้าน จัดบ้าน ทำความสะอาดบ้านเรียบร้อยก็ง่วง นั่งดูหน้าทีวีรู้สึกง่วงก็กินยาคลายเครียด ต้องบอกก่อนว่าแต่ก่อนผมเคยกิน แต่ผมเลิก เพราะผมคิดว่าสมองส่วนกลางผมถูกทำลาย ก็หาคุณหมอบอกว่าจะไม่ใช้อีกแล้ว จะใช้การออกกำลังกายเป็นการรักษา หลังจากวันนั้นกลับมารู้สึกว่าง่วงนอนก็เลยกินสักหน่อย

 

ทำไมวันนั้นถึงอยากกิน?

เติ้ล : อยากนอน กินให้ช่วยหลับ มันมีสภาวะความเครียดหลายๆ เรื่องเข้ามาในตัว แล้วเราอยากชัตดาวน์ด้วย อยากพักผ่อน ด้วย 0.5 มิลิกรัม ปริมาณมันนิดเดียวก็เลยกินเข้าไป 4 โมงเราก็หลับไป เราก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์แล้วล่ะ แต่ก็วางไม่สนใจ จนตัดสินใจรับแล้วพูดว่าหลับอยู่ มึงอยู่ไหน อยู่บ้าน มึงทำอะไร นอน เขาก็เริ่มที่จะมีอารมณ์ นอนพี่นอนอยู่จริงๆ เขาบอกไม่ต้องวางเดี๋ยวไป

 

ทำไมต้องไปนั่งหน้าตู้เย็น?

เติ้ล : มันมีหลายเหตุการณ์ แต่ก่อนเราเคยมีแม่บ้าน เราอยากได้อะไรก็เรียกเขา พอวันนึงไม่มีเขาอยู่ เหลือแต่เติ้ลละ เติ้ลก็เลยต้องนั่งข้างตู้อยากกินอะไรก็หันไปหยิบ แล้วมันเหมือนเป็นเซฟโซน

 

วันนั้นเมาไหม?

เติ้ล : ไม่เมา ผมสาบานได้เลยตั้งแต่วันที่ผมมาออกรายการวันนั้น ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลผมไม่เคยแตะแอลกอฮอล์อีกเลย

 

แสดงว่าวันนั้นที่นั่งอยู่หน้าตู้เพราะว่ายา?

เติ้ล : ยา แล้วง่วง เมายาง่วงหลับ ใครมาพูดอะไรก็ครับ ง่วง

 

นิวนิวมาเห็นปุ๊บความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง?

นิวนิว : ตอนแรกมาด้วยความเป็นห่วง แล้วก็พอเห็นเนี่ยใจนึงหนูโมโหเลยว่า ไหนเราสัญญากันแล้วว่าพี่จะไม่มานั่งตรงนี้อีก กว่าหนูจะเอาพี่ออกจากตรงนี้ได้หนูใช้เวลานานมาก คือแต่ก่อนตอนที่เขาเป็นซึมเศร้า เป็นไบโพลาร์ เขาจะอยู่ตรงนี้ นั่งตรงนี้หลายปีมาก หนูเป็นเพื่อนบ้านใช่ไหม หนูบอกพี่เราไปห้างกันไปม เขาบอกไม่ไป ไปเจอคนไหม ไม่ไป ไม่อยากเจอคน ไม่อยากสังคม ไม่เอาอะไรเลย จนหนูค่อยๆ พยายามทำทุกอย่าง พาเขาไปเที่ยว พาเขาออกมาจากตรงนั้น เพื่อให้จิตใจเขาดีขึ้น แล้วเราสัญญากันไว้ว่าเราจะไม่กลับไปตรงนี้อีก แล้วเขาก็สัญญากับหนูว่าพี่จะไม่กลับไปนั่งตรงนั้นอีก

 

 

แล้วเราเห็นภาพเขานั่งตรงนั้น เลิกเลยเหรอ?

นิวนิว : โมโห ก็เตะกระจกนิรภัยเลย

เติ้ล : ยังไม่เตะกระจกนิรภัย เริ่มจากประตูก่อน ประตูนิรภัยมันมีโครงเหล็กก็เตะไปเถอะยังไงก็ไม่แตก สักพักเสียงหายไป มันอ้อมไปข้างหลังเป็นห้องครัวมีแต่กระจกละ ก็คงไม่แตกหรอก แต่สักพักได้ยินเสียงดังเหมือนกระจกแตก เอาแล้ว คือตอนนั้นใจผมร่วงเลย ไม่ได้ห่วงกระจก ห่วงตัวว่าตัวจะขาด ขาด้วย แล้วกระจกที่มันแตก มันไม่ได้แตกเป็นทรงตรง มันแตกเป็นทรงตัวเอส พอตื่นเช้ามาเราก็มาสังเกตว่ามันออกยังไงวะ

 

แล้วสรุปวันนั้นได้เลิกกันหรือเปล่า?

นิวนิว : ยังๆ ไม่ได้คุยกัน เพราะเขาคุยไม่รู้เรื่องแล้ว

 

ตื่นมาตอนเช้าคุยรู้เรื่องไหม?

นิวนิว : ตอนเช้าตื่นขึ้นมา หลังจากนอนดมเท้าเขาไป ก็ตื่นขึ้นมา แล้วก็นั่งถามว่าพี่จะเลิกไหม

เติ้ล : ตกลงพี่จะเลิกไหม ผมก็งัวเงียๆ ละ...หายไปไหนแล้ว จริงๆ ผมอยากจะตอบว่าห่างๆ กันไปก่อนก็ได้ ต่างคนต่างกลับบ้านไปก่อน ไปตั้งสติกันก่อน

 

แล้วเขาไปเลย แล้วคิดว่าวันนั้นเลิกแล้ว?

เติ้ล : ครับ เลิกแล้ว

 

แล้วเช้าวันนั้นก็มีคอมเมนต์นึงบอกว่าเป็นพยาบาลที่ดูแลเติ้ลมา 10 กว่าปี ออกมาบอกว่านิวชี้หน้าด่าเติ้ล ทำลายของ บอกป้าข้างบ้านจะนอนก็ไม่สนใจ จะเข้าบ้านให้ได้ กดกริ่งเสียงดังหลายครั้ง ถีบประตู ไม่ให้เกียรติเติ้ลเลย นิวนิวอันนี้ใครเขียน?

นิวนิว : อันนี้หนูไม่อยากพูดถึงเขา เพราะหนูคิดว่าเขาพูดเกินจริง ถ้าสมมติหนูแย่ขนาดนั้น วันนี้พี่เติ้ลจะมาหาหนูไหม หนูเตะกระจกบ้านเขาจริง อันนี้หนูยอมรับ แล้วหนูก็ให้คนไปซ่อมให้ด้วย แต่ว่าเรื่องราวมากกว่านั้นที่เขาว่าหนูนิสัยแย่ ตรงนั้นเราไม่ขอพูดดีกว่า ถ้าหนูแย่ขนาดนั้นพี่เติ้ลคงไม่มาเคาะประตูบ้านหนูขอข้าวกิน

เติ้ล : อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่อาจจะมีดีเทล

 

ตอนนั้นที่เห็นพี่เติ้ลพูดจาไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นแว้บแรกเลยคิดว่าเขากินเหล้า?

นิวนิว : หนูคิดว่าเขาไม่กินยาเกินขนาดก็กินเหล้า แล้วอีกอย่างที่โกรธมากคือทำไมกลับไปนั่งหน้าตู้เย็น คือเราสัญญากันไว้แล้ว ไม่มีใครรู้หรอกว่ากว่าหนูจะเอาเขาออกมาจากตรงนั้นได้มันใช้ความพยายามและความใจเย็นมากแค่ไหน

 

ก่อนที่เราจะเจอน้อง ตอนที่เรายังป่วยอยู่ เรานั่งหน้าตู้เย็นเหรอ?

เติ้ล : นั่งครับ ความรู้สึกมันเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย มันไม่ต้องไปไหน ไม่ต้องทำอะไร เราอยากจะกินอะไร เราอยากจะได้อะไร คือตรงนั้นเป็นมุมที่มองได้ทั้งบ้าน ดูทีวีก็ได้ กินน้ำ สมัยที่ดื่มก็ดื่มตรงนั้น เอื้อมไปอีกหน่อยน้ำแข็งมาแล้ว เปิดอีกตู้นึงก็น้ำ ทุกอย่างอยู่ในแอเรียนั้นหมด

 

ตอนที่เติ้ลปรึกษาคุณหมอได้บอกอาการเหล่านี้กับคุณหมอไหม?

เติ้ล : บอกครับ คุณหมอก็บอกว่าต้องออกมาข้างนอก อย่างที่น้องบอก นั่นคือวิธีการรักษา การบำบัดก็คือการออกมาเจอคน ออกมาพูดคุยบ้าง คือตอนนั้นผมไม่อยากออกไปไหนเลย ไม่อยากทำอะไรเลย อยากอยู่นิ่งๆ นั่งตรงนั้นได้เป็น 2-3 วันก็ทำได้

 

 

เติ้ลก็มาจากพื้นฐานที่คุณพ่อ คุณแม่ก็มีเงิน แล้วก็ประสบความสำเร็จในชีวิตประมาณนึงเลย จริงๆ แล้วที่ทบทวนชีวิตมาทั้งหมดคิดว่ามันเกิดจากอะไร?

เติ้ล : เขาบอกว่าโรคนี้มันเกิดจากความผิดหวังครั้งนึงในชีวิตที่เราอาจจะจดจำและไม่ได้จดจำ ผมว่ามันอาจจะเกิดจากตรงนั้นที่ผมเคยมีคดี เคยมีเรื่องราวตรงนั้นมา จนทำให้มันกลายเป็นความคิดวนลูบว่าเรากลับมานั่งตรงนี้อีกแล้ว เหตุการณ์เก่าๆ มันก็กลับเข้ามา พอกลับเข้ามามันก็เป็นเหมือนเดิม คิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม เพียงแค่ไม่ได้กลับไปทำอย่างที่สัญญาเหมือนเดิม มันก็เลยดิ่ง

 

เป็นอย่างนี้มานานหรือยัง?

เติ้ล : 2 ปีกว่าครับ

 

ตอนเริ่มคบนิวนิวรู้ใช่ไหมว่าเติ้ลเป็นแบบนี้?

เติ้ล : รู้ครับ

 

แล้วตอนนั้นนิวนิวทำยังไงบ้าง เราไปหาข้อมูลมาจากไหนจะทำให้ผู้ชายคนนี้ดีขึ้น?

นิวนิว : เคยเป็นมาก่อน คือหนูผ่านมรสุมชีวิตมาคล้ายๆ ของเขา แต่คราวนี้หนูพาตัวเองไปหาหมอจิตเวช แล้วได้ยามาทาน คราวนี้เราทำยังไงก็ได้เพื่อแอคทีฟตัวเอง ไปนู่น ไปนี่ พยายามไม่นอนอยู่กับที่ หนูก็เลยรู้ว่าต้องทำยังไงก็ได้ให้ผู้ชายคนนี้ ที่ตอนนั้นเป็นเพื่อนบ้านกันนะคะ ทำยังไงก็ได้ให้เขาออกจากบ้าน เป็นลุงข้างบ้าน ก็เรียกเขาลุง ลุงออกไปเถอะ เดี๋ยวหนูพาไปกินข้าว เขาไม่ไป กลัวคน กลัวหมดทุกอย่าง

 

นิวนิววันนั้นเราโพสต์เฟซบุ๊ก พอโพสต์เสร็จเป็นไงบ้าง?

นิวนิว : ตอนแรกที่หนูโพสต์ไปหนูไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดผลว่าคนมาว่าเขาว่าดื่มเหล้าอีกหรือเปล่า หนูแค่โพสต์เตือนสติเขา เผื่อเขามาเห็นโพสต์หนู ทำไมคุณกลับไปนั่งตรงนั้นอีก ออกมาตั้งไกลแล้ว ของหนูมันมีแค่นี้จริงๆ

 

แสดงว่าวันนั้นโพสต์เพราะความผิดหวัง?

นิวนิว : ใช่ ด้วยอารมณ์ด้วย แต่หนูโพสต์แป๊บเดียว แล้วหนูก็ลบ

 

พอเห็นน้องโพสต์แบบนั้นรู้สึกยังไง?

เติ้ล : ก็โกรธแหละครับ แต่เข้าใจเขานะครับ ใครมาเห็นอย่างนั้นแล้วก็ต้องเข้าใจว่ากลับไปอีกแล้วเหรอ ทั้งๆ ที่เราอุส่าห์ดึงออกมาถึงขนาดนี้แล้วยังกลับเข้าไปอีก ผมไม่ได้โกรธเขาเลยนะ ทุกวันที่ห่างกันก็ยังคิดถึงเขาเหมือนเดิม แต่ด้วยความที่ถ้าเราโทรไปแล้วเขายังอารมณ์แรงอยู่ เลยไม่กล้า แต่ก็ส่งข้อความไป เขาก็ตอบบ้าง

นิวนิว : คิดถึงก็ไม่ยอมบอกว่าคิดถึง จริงๆ หนูรู้จักนิสัยเขาว่าถ้าเขาใจเย็นแล้ว เขาคิดอะไรได้ เขาคงอะไรมาสักอย่าง เดี๋ยวก็ส่งรูปนาฬิกามา เดี๋ยวก็เอารถมาคืน เดี๋ยวก็นู่น เดี๋ยวก็นี่ หนูบอกเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าหนูไม่เคยโกรธอะไรเขาเลย แล้วหนูก็ต้องขอโทษด้วยถ้าสมมติว่าทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ หรือว่าแฟนคลับพี่ พ่อ-แม่พี่ อะไรอย่างนี้ไม่พอใจหนู หนูขอโทษเขาไว้ก่อนแล้ว

 

เขาตามง้อแบบนี้ ทำไมนิวนิวถึงกลับไปตามง้อที่บอกว่าต้องแอบ รปภ.เข้าบ้าน?

นิวนิว : คือตอนแรกเขาโกรธหนู เราไม่ได้คุยกันประมาณอาทิตย์นึง แล้วตอนนั้นหนูพยายามจะง้อเขาก็เลยขับรถเข้าหมู่บ้าน แต่ รปภ.ไม่ให้หนูเข้า เขาบอกว่าคุณเติ้ลสั่งไว้ว่าไม่ให้เข้า

 

เติ้ลไปสั่งไว้ตอนไหน?

เติ้ล : ไม่ได้สั่งหรอก จริงๆ มันเป็นกฎอยู่แล้ว ถ้าเป็นคนนอกเข้ามาไม่มีบัตรต้องแสดงตน

 

แต่เราคบกับเขาเป็นปีแล้วไม่ใช่เหรอ?

นิวนิว : หนูเข้าเป็น 100 ครั้งแล้ว แต่ยามไม่ให้หนูเข้าครั้งนี้

 

ถ้าเกิด รปภ.ไม่ให้เข้า เราเข้ายังไง?

นิวนิว : หนูเรียกแกร้บ พอแกร้บมาถึงหนูบอกว่าเข้าไปบ้านเลขที่นี้แล้วบอกเขาว่ามาส่งของ พี่ช่วยเปิดฝาท้ายให้หน่อย เดี๋ยวหนูจะนอนเข้าไป เขาก็งง

เติ้ล : ดูหนังเยอะ

นิวนิว : พอปิดประตูมันร้อนมากเลย เขาก็คงงงๆ แต่ไม่กล้าถาม พอไปถึงปุ๊บเขาก็เปิดฝาท้ายให้หนูออก หนูก็ไปเรียกเขาหน้าบ้าน แต่คือเขาไม่อยู่ ก็นอนฝาท้ายออกมาเหมือนเดิม

 

 

แล้วหลังจากนั้นสานต่อได้ยังไง?

นิวนิว : หลังจากวันนั้นหนูกลับบ้านแล้วหนูบอกกับทุกคนว่าหนูไม่เอาแล้ว เพราะว่าหนูได้ทำดีที่สุดแล้ว แต่ในเมื่อเขาไม่คืนมา หนูเคารพในการตัดสินใจของเขา แต่หนูคิดว่าสักวันนึงเขาก็จะคิดถึงหนู เพราะว่าเราคงผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ จนวันนั้นเขาคิดยังไงก็ไม่รู้มาเคาะกระจกบ้านหนู หนูเลยถามว่าใคร แต่ไม่ตอบ พอหนูเปิดม่านออกไปก็เห็นเขา หนูไม่ได้อะไร เปิดประตู เขาบอกหิวข้าว หนูก็บอกก็เข้ามากินสิ ก็แค่นั้น

 

แค่นั้นก็รู้กันแล้วว่าง้อกัน?

เติ้ล : ครับ

 

หลังจากวันนั้นเลยมีวันนี้ แล้วได้เคลียร์ใจกันไหมว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เราเป็นแบบนี้?

นิวนิว : คุย

เติ้ล : คุยครับ ด้วยความกลัว เขาก็กลัวว่าเราจะกลับไปเป็นแบบนั้น เราก็สัญญาว่าเราจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะเราก็กลัวเหมือนกัน กลัวว่าเราจะกลับไปเป็นแบบนั้น แต่มันมีมากกว่านั้น ก็มีรุ่นน้องของเขามาบอกผมว่าพี่จำผมได้ไหม ใครจะจำได้ ผมชื่อนุช คือไอนี่ขับแท็กซี่เข้ามา ทำมาฝากของให้คนชื่อนุช ปลอมยันแท็กซี่เข้ามา

นิวนิว : คือเข้าไปดูว่าเขาอยู่บ้านไหม เพื่อที่เราจะเข้าไปบ้านเขา

 

หมายถึงว่าจ้างคนเข้าไปก่อนหน้าให้รู้ว่าอยู่บ้าน?

นิวนิว : ใช่ค่ะ  เพื่อเราจะมาง้อเขา คุยดีๆ ว่าขอโทษ

 

พอดีกันก็มีคอมเมนต์ว่าเห็นเขาดีกันแล้ว เราก็เป็นหมากินอาหารเม็ดกันทั้งประเทศ เห็นคอมเมนต์นี้เติ้ลรู้สึกยังไง?

เติ้ล : ไม่หรอก

นิวนิว : เห็นคอมเมนต์ บางคนก็มาว่าพี่เติ้ล บางคนก็มาว่าหนู คือ fc ของเราทั้งสองฝ่ายแบ่งแยกกันแล้ว ตอนแรกก็รักกันดี มันก็มีอยู่กลุ่มนึงอยากให้เรากลับมาคุยกัน แต่พอเรากลับมาคบกัน ทุกคนก็พูดเหมือนประมาณว่า เห็นไหมเรื่องของแฟนอย่าไปยุ่ง เพราะสุดท้ายเราก็จะเป็นหมา

 

เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิก รักกันก็หวานแหวว พอเลิกกันก็ด่ากันไม่มีดี ตรงนี้หิวแสงไหม?

เติ้ล : นั่นคือสิ่งที่ผมกลัวมากกับคำถามนี้ตลอดทั้งชีวิต เพราะว่า 37 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเปิดตัวเลย ไม่เคยมีข่าวเรื่องผู้หญิง เพราะผมกลัวเรื่องแบบนี้มาก กลัวเรื่องรักๆ เลิกๆ ทะเลาะกันผ่านโซเชียลให้คนอื่น แฟนคลับทั้งสองคนรู้ แล้วให้มาเกลียด ให้มาทะเลาะกัน ผมเป็นคนที่กลัวข้อนี้มาก

 

ทางบ้านถามมาว่าเติ้ลอยากกลับเข้ามาทำงานในวงการ เลยต้องสร้างกระแสเพื่อไม่ให้เรตติ้งตก อยากจะบอกอะไรกับคอมเมนต์นี้?

เติ้ล : ทุกวันนี้ยังมีด้วยเหรอเรตติ้ง ไม่รู้มันเป็นยังไง ถ้าทำนะ แต่ไม่ได้หวังเรตติ้งอะไรเลย ไม่ได้ทำเพราะเกี่ยวกับเรตติ้ง จริงๆ มันคือเรื่องจริง ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นด้วยซ้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนอาจจะฟังแล้วมันดูตลกในการเล่า แต่พอเวลามันเป็นเรื่องจริงขึ้นมาแล้วเนี่ย มันเป็นเรื่องที่มันน่ากลัว มันไม่สนุกเลยครับ

 

จากประสบการณ์ในครั้งนี้ นิวนิวเราเรียนรู้อะไรบ้าง?

นิวนิว : หนูต้องใจเย็นมากกว่านี้ แต่ตอนที่หนูอยู่กับพี่เติ้ล โรคของเขาหนูจะใช้ความใจเย็นและการพูดดีๆ กับเขาอยู่แล้วว่าบางทีเขาขึ้นมา หนูก็จะแบบว่าที่รักใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวฟังหนูก่อนนะ แต่ครั้งนี้สอนให้หนูรู้ว่าหนูควรนั่งรออยู่บ้านก่อน รอให้เราทั้งสองคนใจเย็นก่อนแล้วเราค่อยคุยกัน ไม่งั้นมันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

เติ้ล : เราก็ต้องรักเขาให้มากขึ้นด้วย เราเข้าใจเขาทุกอย่าง

 

มันก็มีคำถามว่าจริงๆ แล้วนิวก็ไม่ได้รักเติ้ลจริงๆ หรอก ด้วยอาชีพที่ทำ นิวแค่อยากมาเกาะคนนึงที่มีชื่อเสียงในวงการ?

นิวนิว : จริงๆ เราสองคนรู้ดีว่าเรารักกันหรือไม่รักกัน และเราดูแลกันแค่ไหน เราไม่สามารถไปพูดให้คนอื่นรู้ว่าเราดูแลกันแค่ไหน จริงๆ หนูไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้หรอก แล้วอีกอย่างหนูคงไม่เอาขาหนูไปแลกกับกระจกนิรภัยหรอกถ้าหนูไม่เป็นห่วงเขา

 

น้อยใจหรือเสียใจไหมที่โดนคอมเมนต์แบบนี้?

นิวนิว : หนูไม่ค่อยสนใจนะคะ หนูไม่ค่อยสนใจคอมเมนต์ใครจะพูด จะว่าอะไร ว่าหนูแต่งตัวโป๊ ทำงานอย่างนี้หรือเกาะกระแสอะไรอย่างนี้ หนูจะสนใจแค่คนสองคน คือ พ่อแม่หนู แล้วก็คนที่อยู่ข้างๆ หนูแค่นี้ นอกนั้นใครจะว่าอะไรแล้วแต่เลย ไม่ได้มีผลกระทบกับชีวิตหนู หนูไม่แคร์

 

 

คู่นี้เจอกันได้ยังไง?

เติ้ล : เจอกันในโรงพยาบาล เพราะว่าป่วย ตอนนั้นผมดื่มหนัก เข้าไปแล้วอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด ลำไส้พอง ผมเข้าไปแล้วมีอาการมึนๆ เมาๆ โวยวาย ร้องลั่นโรงพยาบาล

นิวนิว : หนูเป็นโรคกระเพาะ แล้วหนูรอเพื่อจะแอดมิท รอญาติไปทำเรื่อง แล้วหนูได้ยินเตียงข้างๆ ซึ่งเป็นห้อง icu โวยวายว่าจะกลับบ้าน หนูรู้สึกว่าทำไมผู้ชายคนนี้เขาถึงไม่มีมารยาทเลย นี่มันห้อง icu นะคุณทำเสียงเบาหน่อยก็ได้ เพื่อนเขาที่อยู่ข้างๆ ก็บอกว่าใจเย็นๆ เบาๆ เกรงใจคนอื่นเขา จนหนูได้ยินพยาบาลพูดว่านี่คุณเติ้ล ธนพล หรือเปล่า แล้วหนูก็เลยเปิดม่าน หือ...ฉันรักเขา

 

แสดงว่านิวนิวแอบชอบมาก่อนหน้านี้?

นิวนิว : หนูเป็นคนที่ชอบผู้ชายที่มีเนื้อมีหนัง จริงๆ หนูไม่เคยดูผลงานของพี่เขาหรอก เพราะว่าหนูน่าจะเกิดไม่ทัน เราห่างกัน 10 ปี

 

แล้วใครจีบใครก่อน?

นิวนิว : คือพอเจอกันครั้งนั้นเราไม่ได้เจอกันอีกเลย หนูไม่เคยไปตามเขาอีกเลย แค่เห็นแล้วรู้สึกว่าฉันรักเขาก็แค่นั้น จนผ่านมาประมาณเกือบ 2 ปี เรามาเจอกันที่งานบวงสรวง มั่ง มี ศรี ศพ แล้วตอนนั้นหนูก็เลิกกับแฟนเก่าไปแล้ว แล้วเรามาเจอกันในซีรีส์

 

ใครจีบใครก่อน?

นิวนิว : ไม่ได้จีบเลย เขาบอกว่าถ่ายรูปแล้ว เดี๋ยวส่งไปใน DM แล้วประมาณ 3 เดือนตอบหนูมาคำเดียวว่าครับ แล้วเขาคงมาดูในไอจีหนูว่าประวัติเป็นยังไง คือหนูเลิกกับคนเก่าไปนานแล้ว แต่หนูไม่เคยลบรูป เขาก็มาถามว่าแฟนอยู่ไหน เขาคงสืบมาอะไรประมาณนี้ จนเขาแน่ใจว่ามันเลิกแล้วจริงๆ  เขาก็เลยคุย บ้านอยู่ไหน อยู่ตรงนี้ เขาบอกว่า อ้าว...อยู่ใกล้กันเลย หนูเพิ่งไปซื้อบ้านใหม่ด้วยนะคะ

 

เติ้ลรู้ไหมว่าน้องนิวเขาเป็นแชมป์โคโยตี้?

เติ้ล : ไม่รู้ครับ

 

เริ่มจีบกันยังไง?

เติ้ล : คุยกันแล้วรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนมีหัวคิด ชอบทำมาหากิน ชอบริเริ่มอะไรใหม่ๆ และข้อสำคัญเป็นคนที่รักพ่อ รักแม่

 

พอเติ้ลเริ่มจีบเราโอเคเลยไหม?

นิวนิว : เราเป็นเพื่อนบ้านกันก่อน เราก็ดูแลกันไปก่อน เรายังไม่เป็นแฟนกัน ซึ่งทุกวันนี้หนูยังไม่รู้เลยว่าเป็นแฟนกันตอนไหน

 

ชีวิตเติ้ลเปลี่ยนเพราะผู้หญิงคนนี้เลย?

เติ้ล : ค่อนข้างครับ ในช่วงนั้นนะครับ

 

แล้วจุดไหนทำให้เราเริ่มรักตัวเองมากขึ้น เพราะผู้หญิงคนนี้?

เติ้ล : ผมใช้ยารักษาเกี่ยวกับโรคสารเคมีในสมอง จนความจำในสมองเนี่ยส่วนกลางมันหายไปส่วนนึง อย่างวันนี้เราคุยกันเรื่องนี้ พอตื่นเช้าขึ้นมาเราลืมไปแล้วว่าเราคุยกันเรื่องอะไร แล้วเราจะนั่งเครียดอยู่อย่างนี้อีกครึ่งวันว่าเมื่อวานเราจะทำอะไร จนมีเขาเข้ามา แล้วเราก็เริ่มเปลี่ยน เราเป็นแบบนี้ไม่ได้แล้ว คุยกับเขาก็ไม่รู้เรื่อง คุยกับคนอื่นก็ไม่รู้เรื่อง เปลี่ยน เลิกกินยาหันมาออกกำลังกาย คนในหมู่บ้านก็หาว่าเราบ้าอีก เพราะว่าคนดีๆ ที่ไหนเขาออกมาวิ่งตอนตี3

 

 

นิวนิวต้องมาดูแลในการเช็ดอุจาระ ที่ปกคิคนธรรมดาต้องดูแลตัวเอง?

นิวนิว : ตอนนั้นมันเป็นช่วงโควิด แล้วเราไปทำบุญกันที่ท่าสองยาง ไปสร้างโรงเรียนกัน แล้วทางค่อนข้างลำบาก พอลงมาถึงสิงห์บุรีเราจะแวะพักผ่อนกันก่อน แล้วพอถึงโรงแรมพี่เติ้ลแกกระอักเป็นเลือด หนูก็โทรหา 1669 หนูไม่มีสติแล้ว จนเขามา หนูก็กรี๊ดโวยวายทั้งโรงแรมบอกว่าช่วยหนูด้วย จนไปที่โรงพยาบาล ตอนนั้นหนูคิดว่าพี่เติ้ลจะไม่มีชีวิตรอดแล้ว เหมือนเขาตายไปแล้ว เขาไม่มีสติแล้ว ตาลอยไปแล้ว แต่หนูพยายามเรียกเขาตลอดว่าที่รักอยู่กับหนูก่อน แล้วเราก็ได้รักษาที่นั่น แล้วอีกอย่างที่จะบอกกับทุกคนโควิดมีเงินก็ซื้อเตียงไม่ได้ ได้นอนห้องรวม

 

ตอนนั้นเป็นอะไร?

เติ้ล : คือลำไส้มีการพองตัว มันคืออาการก่อนที่จะเป็นตับแข็ง 7 จุดนี้มันมีโอกาสที่จะระเบิดขึ้นมาได้ แต่วันที่เจอกับน้องมันระเบิดไป 3 จุด ซึ่งแล้วแต่มันจะออกมาทางไหน ทางปาก ทางจมูก ทางอุจาระ พอครั้งที่สองที่ไปทำบุญด้วยทางค่อนข้างลำบาก มันก็เริ่มซึมๆ ออกมา 3 จุดจนท้องเราพอง พอลงมามันมีอาการพะอืดพะอม มันเหมือนจะอาเจียน ก็เลยบอกให้น้องไปเอาถังขยะมาไว้ข้างๆ สักพักผมไม่ไหวก็เลยพรวดออกมาเลือดเต็มไปหมดเลย คือลำไส้มันแตก วิธีรักษาคือการเอายางไปรัดเพื่อให้มันฝ่อเท่านั้นเองครับ ไม่มีโอกาสที่จะหาย

 

อันนี้คืออาการที่ทำให้ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงจนปัสสาวะ อุจาระเองไม่ได้?

เติ้ล : เพราะว่ามันควบคุมไม่ได้ มันออกมาข้างนอกลำไส้หมดแล้ว จนเราไม่รู้ว่ามันออกมาทางไหน วันนั้นมันออกทางปากมาก่อน แล้วสักพักมันก็ออกมาทางทวาร

 

คือนิวนิวต้องเช็ดให้?

นิวนิว : พอไปอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐบาล แล้วเขามีคนไข้เยอะ เขาไม่สามารถมาดูแลเราได้เหมือนห้องพิเศษว่ามาเช็ดอุจาระ มาเปลี่ยนแพมเพิสอะไรให้ คนที่ทำคือต้องเป็นญาติ คือหนูก็อยู่ เขาไม่ให้บอกพ่อ แม่เขา หนูก็ต้องทำให้เขา เพราะว่าเขาก็มีหนูแค่คนเดียว เขาก็พูดกับหนูตลอด หนูพี่ขอบคุณนะที่ทำให้พี่ พ่อแม่ก็ไม่ใช่ หนูบอกไม่เป็นไรหรอกพี่เราอยู่ด้วยกัน เราดูแลกันไป

 

นิวเองก็เจอมรสุมชีวิตเหมือนกันถึงไปเจอแพทย์ ขนาดคิดฆ่าตัวตายเลยเหรอ?

นิวนิว : ใช่ค่ะ ตอนนั้นที่มันเป็นหนักๆ เรานั่งมองไฟได้เป็นวันเลย แล้วก็กินยานอนหลับ เพื่อให้หลับไป จนเราไม่ไหวแล้ว ต้องไปหาหมอ ก่อนที่จะไปหาหมอเราก็คิดเหมือนกันนะว่าตายไปเลยจะได้จบๆ ไม่อยากอยู่แล้ว อยู่มาแต่ละวันกว่ามันจะผ่านไปมันทรมานมากเลย คนที่เจอมรสุมชีวิตมา 1 ชั่มโมงเหมือน 1 ปี ก็เลยไม่อยากอยู่แล้ว แต่พอไปหาหมอ ด้วยความคิดที่คุณหมอพูดมาเขาก็แนะนำดี แล้วมียามาทานด้วย ทำให้ชีวิตเราดีขี้นเลย เราก็เลยมาสอนคนอื่น มาบอกคนอื่นต่อได้

 

อยากจะบอกอะไรซึ่งกันและกัน?

เติ้ล : เป็นห่วงเรื่องความเซ็กซี่ของเขา อยากให้เรามาเริ่มต้นในจุดใหม่ที่ลดความเซ็กซี่ลงหน่อย

นิวนิว : จะพยายาม แต่ว่าหนูชอบ เวลาใส่ชุดว่ายน้ำอะไรอย่างนี้มันทำให้เรามีความสุข

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"