'ข้ามเขา7ลูก-นายกฯ10ปี'ปิดตำนาน'รำหงส์เหิน'สตรีข้างกาย'บิ๊กสุ'


เพิ่มเพื่อน    

ช่วงเช้าที่ผ่านมาปรากฎข่าวการเสียชีวิตของ คุณหญิงวรรณี คราประยูร ภริยาของ พล.อ. สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย และรองประธานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( รสช.)  ด้วยโรคชราในวัย 84 ปี ทำให้ผู้ติดตามการเมืองในช่วง30ปีที่ผ่านมา คงนึกย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์บางช่วงบางตอนก่อนเกิดพฤษภาคม2535ขึ้นมาบ้างในฐานะ “หลังบ้าน”ที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อ ของผู้นำทางทหารในช่วงนั้นในช่วงขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี  47 วัน 

คุณหญิงวรรณี หรือ “คุณหญิงติ๋ว” เป็นน้องสาวของ “บิ๊กตุ๋ย”พล.อ.อิสระพงศ์  หนุนภักดี อดีตเลขาธิการ รสช. เพื่อนรักร่วมรุ่น จปร.5 ของ พล.อ.สุจินดา ซึ่ง “บิ๊กสุ”ได้เปลี่ยนสถานะจากเพื่อนพี่ชายมาเป็นเป็นสามีคู่ชีวิต จนกลายเป็นความผูกพันฉันท์เครือญาติที่แนบแน่น

ด้วยความที่เป็นน้องสาวหัวแก้วหัวแหวนที่ “บิ๊กตุ๋ย”รักดั่งดวงใจ  และเติบโตมาในครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมทำให้ คุณหญิงวรรณี ได้รับการดูแลจาก  พล.อ.สุจินดา เป็นอย่างดี และให้เกียรติเสมอมา

“คุณหญิงติ๋ว”เป็นคนสนุกสนาน และ จิตใจโอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือคน  แต่เมื่อถึงเวลาดุก็เด็ดขาด

 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ สมาคมแม่บ้านทหารบก ก็จะดูแลคนรอบข้าง และผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องอาหารการกิน และชีวิตความเป็นอยู่ ด้วยความที่เป็นผู้มีจิตใจกว้างขวาง หรือยุคนี้ที่เรียกว่า “สายเปย์” 

ต้นแบบแห่ง“สายแม่”มักชอบควักเงินแจกเรียงตัว  กลายเป็นที่รักของคนรอบข้าง

ทำให้ลูกน้องสามี และคนที่รู้จักเห็นเมื่อไหร่ ก็จะเข้าแถวต่อคิวรอรับตังค์กันแถวยาว โดยเฉพาะในช่วงวันครบรอบเกิดของ “บิ๊กสุ”ที่จัดงานที่บ้านพักซอยระนอง 2  จะมีแบงก์สีแดงแจกกันเป็นปึก ไม่เท่านั้นยังมีโชว์พิเศษท่าเต้นหงส์เหินเอกลักษณ์ประจำตัวประกอบเสียงเพลง พร้อมกับเพื่อนแม่บ้าน จปร.5 ที่มาร่วมสนุกสนานงานกันคลาคล่ำแน่นบ้าน 

หรือแม้กระทั่งงานเลี้ยงสังสรรค์อย่างเป็นทางการที่หอประชุมกองทัพบก ที่มีผู้บังคับหน่วยเข้ามาร่วมงาน “คุณหญิงติ๋ว”ก็จะลุกจากโต๊ะขึ้นไปเต้นรำหงส์เหินแบบฉายเดี่ยว จนบางครั้ง “บิ๊กสุ”ต้องเหินออกไปเต้นด้วยแล้วโอบเอวกลับเข้ามานั่งเรียกเสียงหัวเราะและปรบมือ สร้างสีสันให้กับงานในครั้งนั้น 

เธอยังเป็น “สตรี”ที่เชื่อถือศรัทธาในเรื่องของ โชคลาภ-ลางสังหรณ์ และมีการบอกเล่าว่า “ท่ารำหงส์เหิน"ยังใช้ในโอกาสแก้บนในคำอธิษฐานเรื่องต่างๆ ด้วย 

จากหนังสือเรื่อง “บันทึกคำให้การ สุจินดา คราประยูร เริ่มต้นและอวสาน รสช.” เขียนโดย วาสนา นาน่วม ระบุว่า คุณหญิงวรรณีเป็นคนเชื่อถือในเรื่องสิ่งศักดิ์ที่พิสูจน์ไม่ได้ ศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ความลี้ลับต่างๆเป็นอย่างมาก จึงมักจะมีข่าวว่าคุณหญิงวมักจะนุ่งขาวห่มขาวรำหงส์เหินเพื่อแก้บนเรื่องต่างๆบ่อยครั้ง

“ดิฉันนี่มีแต่คนกลัว  คนกลัว ด้วยบารมี ด้วยที่มีจิตใจดี จิตเป็นกุศลจิตบริสุทธิ์ เป็นจิตที่มีพลัง” คุณหญิงวรรณีกล่าว


ที่กล่าวกันอย่างกว้างขวางจนเป็นตำนานคือ เมื่อครั้งที่พล.อ.สุจินดาขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี โดยคุณหญิงวรรณี ให้สัมภาษณ์ว่า “ในขณะที่ไปนอนค้างที่แพไทรโยคกาญจนบุรีซึ่งเป็นแพส่วนตัว มีการสร้างพระรูปรัชกาลที่5 ไว้ที่นั่น

 “ฝันว่าเหาะข้ามภูเขา ข้ามต้นไม้ไปได้ เหาะไปไกลข้ามภูเขา 7 ลูก ตื่นมาแสดงว่าพ้นมาร สมปรารถนาจะเป็นสุขนาน งานจะราบรื่น ดวงของดิฉันเป็นดวงที่สนับสนุน ผบ.สุจินดามาตลอดแสดงว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้นานถึง 10 ปี”

ขณะที่ พล.อ.สุจินดา ก็ให้สัมภาษณ์เช่นกันถึงความฝันของเธอเรื่องข้ามภูเขาเจ็ดลูกว่าเป็น “ลางดี”สำหรับการเป็นนายกรัฐมนตรีของเขาในขณะนั้นด้วย ท่ามกลางกระแสต่อต้านจากฝ่ายประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับ “การเสียสัตย์เพื่อชาติ” เป็นการตระบัดสัตย์ มุ่งหวังสืบทอดอำนาจเผด็จการ 

“เขาก็พูดไปซื่อๆ ว่าเขาฝันอะไรนะ ขนาดข้ามเขามีกี่ลูก เขาก็ฝันนะ มันเป็นลักษณะของบางคนมี บางคนไม่มี  อย่างตัวเองนี้ไม่มี  แต่จะไปว่าเขาก็ไม่ได้  เพราะบางอย่างก็จริง อย่างเรื่องคุณพ่อเค้าเสียเค้ารู้ล่วงหน้า มีลางสังหรณ์จากอีกาบอกเหตุ ตอนนั้นอยู่ต่างประเทศ “

 แม้เหตุการณ์จะล่วงเลยมานาน ที่บ้านซอยระนอง 2 ยังมีลูกน้องแวะเวียนไปเยี่ยมเยียน “บิ๊กสุ” และ “คุณหญิงวรรณี”เป็นระยะ โดยเฉพาะช่วงครบรอบวันเกิดของ “บิ๊กสุ” ในช่วง 4 ปีก่อนคุณหญิงยังคงเดินออกมาแจกตังค์ แจกของเด็กๆ ที่มาช่วยงานเหมือนเดิม 

ก่อนที่จะเข้ารับรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาล และอำลาโลกไปทิ้งไว้แต่ตำนาน”ข้ามเขา 7ลูก -และรำหงส์เหิน”ไว้ในส่วนหนึ่งของการเมืองไทย!!! 

ทีมข่าวการเมืองไทยโพสต์ 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"