ถ้าอาเซียนห้าม ‘เด็กเกเร’ ชื่อ มิน อ่อง หล่าย ร่วมประชุมสุดยอด?


เพิ่มเพื่อน    

วิกฤตพม่าหลังรัฐประหารต้นปีนี้ยังหนักหน่วงรุนแรงต่อเนื่อง...ล่าสุดมีคำขู่จากมาเลเซียว่า หาก “มิน อ่อง หล่าย” ไม่แก้ปัญหากับประชาชน เมียนมาอาจถูกห้ามเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนในเดือนนี้
    ต้องถือว่าเป็น “คำขู่” จากเพื่อนอาเซียนที่รุนแรงที่สุดเท่าที่มีมา
    เป็นการตอกย้ำว่าสมาชิกอาเซียนบางประเทศกำลังจะ “หมดความอดทน” กับกองทัพพม่าที่ไม่ “ไว้หน้า” อาเซียนเลย
    เพราะอาเซียนตั้ง “ทูตพิเศษ” ว่าด้วยกิจกรรมเมียนมาแล้วหลายเดือน แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าพอที่จะให้ประชาคมโลกเห็นว่าองค์กรภูมิภาคแห่งนี้พอจะมี “น้ำยา” ในการไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างกันเองบ้าง
    อาเซียนถูกมองเป็น “เสือกระดาษ” มายาวนานพอสมควร
    พอเจอเรื่องพม่าเข้าก็หันรีหันขวาง ไม่รู้ว่าจะเข้า “แทรกแซง” หรือ “อำนวยความสะดวก” ให้กลับไปสู่ครรลองการเมืองที่ “ผู้มีส่วนได้เสีย” ทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันแก้ปัญหาเสียที
    รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ไซฟุดดิน อับดุลเลาะห์ พูดอย่างไม่เกรงเมื่อวันจันทร์ว่า เขา “รู้สึกผิดหวัง” ที่รัฐบาลทหารเมียนมายังไม่ยอมให้ความร่วมมือกับ เอริวาน ยูซอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของบรูไน ที่ได้รับเลือกจากที่ประชุมอาเซียนให้เป็นตัวแทนพิเศษเข้าไกล่เกลี่ยกรณีความขัดแย้งรุนแรงในเมียนมา 
    ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าผู้แทนพิเศษอาเซียนคนนี้เตรียมเยือนเมียนมาเพื่อหาทางเจรจาไกล่เกลี่ยยุติความรุนแรง
    เดิมมีข่าวด้วยซ้ำว่า รมต.ยูซอฟจะได้เข้าพบ อองซาน ซูจี เพื่อเริ่มต้นกระบวนการ “พูดจาหารือ” เรื่องเมียนมา
    แต่ข่าวต่อมาบอกว่า เขายังคงพยายามเจรจาต่อรองกับรัฐบาลทหารเมียนมาให้เดินทางเข้าเมียนมา และช่วยนัดหมายผู้คนต่างๆ ที่อาเซียนอยากจะให้มานั่งลงพูดจากันเพื่อเริ่มต้นกระบวนการไกล่เกลี่ยที่รอคอยมาหลายเดือนแล้วเสียที
    รมว.ต่างประเทศมาเลเซียย้ำว่า หากยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องยากที่จะให้พลเอกมิน อ่อง หล่าย ผู้นำกองทัพเมียนมา เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะจัดขึ้นในปลายเดือนนี้ได้
    แสดงว่าเขากำลังจะเตือน “เด็กเกเร” อย่างนายพลพม่าคนนี้ว่า ถ้ายังมีพฤติกรรมที่ไม่เคารพในความพยายามของอาเซียนก็เห็นทีจะต้องไม่ให้ “เข้าห้องเรียน” ร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ
    กองทัพเมียนมาอ้างว่ามีหลักฐานที่ชี้ (แต่ยังไม่เคยแสดงให้ประชาคมโลกได้รับทราบ) ว่ามีการทุจริตมากมายในการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้ว 
    สาเหตุสำคัญคงจะเป็นเพราะพรรครัฐบาลของนางอองซาน ซูจี ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นอีกครั้งจนอาจจะคุกคามความมั่นคงของกองทัพ
    มิน อ่อง หล่าย จึงตัดสินใจล้มเกมการเมืองด้วยการก่อรัฐประหารก่อนที่รัฐสภาจะเรียกประชุมเพื่อยืนยันผลการเลือกตั้ง
    ตามมาด้วยการประท้วงทั่วประเทศที่ลากยาวมาถึงวันนี้
    ตามมาด้วยวิกฤตเศรษฐกิจที่กระทบถึงชีวิตชาวบ้านอย่างกว้างขวาง...ซ้ำเติมด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกด้วย
    จากนั้นกองทัพพม่าก็ใช้กำลังรุนแรงเข้าปราบปรามผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมอย่างสันติ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 1,100 คน ตามข้อมูลของกลุ่มสิทธิมนุษยชนและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ชื่อ Assistance Association for Political Prisoners
    สัปดาห์ที่แล้ว เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเทอเรซ เตือนว่า โอกาสที่จะจัดการไม่ให้กองทัพเมียนมายืดระยะเวลาในการปกครองประเทศได้สำเร็จ “เริ่มลดน้อยถอยลง” แล้ว 
    และเรียกร้องให้นานาประเทศที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันป้องกันไม่ให้วิกฤตในเมียนมาขยายวงกว้างออกไปอีก
    แม้จะมีการ “ประนีประนอม” ที่สหประชาชาติด้วยการที่ตัวแทนของรัฐบาล อองซาน ซูจี ยอมไม่ขึ้นปราศรัยในที่ประชุมใหญ่ของสหประชาชาติ เพื่อไม่ให้รัฐบาลทหารพม่าส่งตัวแทนมาเป็นทูตยูเอ็นแทน แต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศที่เมียนมาคลายความตึงเครียดลงแต่อย่างใด
    มาเลเซียไม่ใช่ประเทศเดียวในอาเซียนที่ได้แสดงความหงุดหงิดกับนายพลมิน อ่อง หล่าย ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับอาเซียน เพราะอินโดนีเซียและสิงคโปร์ก็มีท่าทีที่แข็งกร้าวกับพม่าในเรื่องนี้เช่นกัน
    อยู่ที่ว่าไทยเราที่อ้างว่าได้ใช้ “การทูตแบบเงียบ” (Quiet diplomacy) เพื่อให้รัฐบาลทหารพม่ายอมนั่งลงเจรจากับ อองซาน ซูจี จะทำให้เห็นผลที่เป็นรูปธรรมอะไรบ้าง
    ก่อนที่เพื่อนๆ ในอาเซียน 3-4 ประเทศ เอาจริงกับคำขู่ที่ว่าจะไม่ยอมร่วมสังฆกรรมกับ “เด็กเกเร” อย่างมิน อ่อง หล่าย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"