หลังจากกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.เพื่อไทย มีมติขับไล่ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และ น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไปเมื่อวันที่ 12 ต.ค.
ตามข้อกฎหมาย ผู้ที่ถูกขับออกต้องเข้าสังกัดพรรคการเมืองใหม่ภายใน 30 วัน แม้ที่ผ่านมาจะมีกระแสข่าวเป็นระยะๆ ว่าจะไปอยู่พรรคโน้นพรรคนี้ หลังจากเก็บตัวอยู่นาน เพิ่งออกมาแย้มถึงเส้นทางทางการเมืองในอนาคต
'ได้พูดคุยกับบางพรรคไว้บ้างแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นคนมีพวกเยอะ'
พรพิมลถูกเชื่อมโยงไปถึง 2 พรรคการเมืองใหญ่ พลังประชารัฐ ที่หวังจะ ขยายฐานเสียงในกลุ่มภาคกลาง ในเขตพื้นที่อิทธิพลเดิมของเพื่อไทย อย่างปทุมธานี ที่ยังเจาะไม่เข้า ประกอบกับ บิ๊กๆ ในพลังประชารัฐหลายคนที่ไปจากเพื่อไทย ต่างสนิทสนมคุ้นเคยกับพรพิมลเป็นอย่างดี
พรรคภูมิใจไทย เป็นอีกหนึ่งพรรคที่ถูกพูดถึง ที่อยากจะหันมาเก็บแต้มในพื้นที่ภาคกลาง หลังจากทุ่มสรรพกำลังไปทางภาคใต้ อีสาน ได้เป็นที่น่าพอใจแล้ว
กรณีศรัณย์วุฒิ ในสายสัมพันธ์ เขาออกตัวตั้งแต่เริ่มแถลงข่าวแล้วว่า ไม่ได้มีปัญหากับ นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร นายหญิง-คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ที่เจ้าตัวให้ความเคารพนับถือมานาน ไม่เท่านั้นในระดับสายตรงนายใหญ่บางคน เขายังมีสายสัมพันธ์ที่ดีแนบแน่น
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้อยู่เพื่อไทยไม่ได้ ตามคำบอกเล่าของศรัณย์วุฒิว่า
'มีปัญหาจากการถูกกดดันของอสุรกายร้ายปีศาจในห้องแอร์ของพรรคเพื่อไทย'
พร้อมกับทิ้งปริศนาอักษรย่อ 'พ.' ที่เป็นตัวการสำคัญ
'ข้อมูลอภิปราย มาทราบภายหลังว่ามีการนำข้อมูลไปหาผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อหวังร่วมรัฐบาล'
อย่างไรก็ดี การเดินเกมของศรัณย์วุฒิดูเหมือนจะเข้าใจบริบททางการเมืองเป็นอย่างดี ไม่ใช่เพียงแค่ว่าถูกขับออกจากพรรคการเมืองเดิมแล้วไปหาพรรคการเมืองใหม่เพียงเท่านั้น
แต่เลือกหนทางที่จะไปเจรจากับกลุ่มพรรคการเมืองขนาดเล็ก อย่างที่เจ้าตัวเอ่ยระหว่างแถลงข่าว
'ตอนนี้พรรคที่อยู่ในการเจรจากับผมคือ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังธรรมใหม่ และพรรคพลังปวงชนไทย ซึ่งภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะมีการประกาศชัดว่าจะไปร่วมงานกับพรรคไหน การเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นบัตรเลือกตั้งแบบ 2 ใบ พรรคเล็กจะสูญพันธุ์ เราจึงจะรวมตัวกันเหนียวแน่น ทั้งพรรคขนาดเล็กถึงกลาง และพรรคขนาดเล็กถึงใหญ่ หากเราเป็นแม่เหล็กดึงดูดได้คนจะมาร่วมกันเยอะ เพราะวันนี้ประชาธิปไตยสายกลางยังไม่มี ซึ่งต้องเป็นประชาธิปไตยสร้างสรรค์ ไม่เอียงซ้าย ไม่เอียงขวา'
แม้หลังการแถลงข่าว นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ได้เดินเข้าไปจับมือ โอบกอด พร้อมหยอดคำหวาน ส่งสัญญาณไมตรีจิตอยากได้ ศรัณย์วุฒิมาร่วมงานทางการเมืองด้วย
และด้วยเงื่อนไขทางรัฐธรรมนูญ ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ระบบเขต ระบบบัญชีรายชื่อ บีบให้พรรคเล็กขยับเขยื้อนทางการเมืองลำบาก ไม่เหมือนสมัยบัตรใบเดียว การคำนวณคะแนนไม่ทิ้งน้ำ
ที่งานนี้การรวมกลุ่ม ผนึกกำลังร่วมกัน ยกระดับจากพรรคเบี้ยหัวแตก ที่ต่างคนต่างอยู่ ให้หันมาจับมือรวมกลุ่มทำพรรคการเมือง ที่ต่างฝ่ายต่างจะวินทั้งคู่
เส้นทางอนาคตการเมือง ศรัณย์วุฒิ และพรพิมล อีกไม่กี่วันคงจะมีความชัดเจนทางการเมือง แต่ขณะเดียวกันการเข้าสังกัดพรรคการเมืองใหม่ครั้งนี้
ยังมีปมให้น่าติดตามต่อไปว่า
การทิ้งจากบ้านเก่าไปครั้งนี้ หมุดหมายศรัณย์วุฒิดูเหมือนจะเอนเอียงไปทางพรรคพลังธรรมใหม่ จะเป็นเพียงแค่การสังกัดพรรคชั่วคราวหรือไม่ และจะเป็นเพียงการฝากเลี้ยงไว้ชั่วคราวหรือไม่ เพราะหมุดหมายในทางการเมืองข้างหน้า
ด้วยความสลับซับซ้อนทางการเมือง กลเกมทางการเมืองที่ต่างฝ่ายต่างชิงไหวชิงพริบ ที่นับจากวันหาสังกัดพรรคอยู่ ในวันยุบสภาฯ ไปแล้ว ไปจนถึงช่วงก่อนเลือกตั้ง ยังพอมีเวลาให้ได้คิด ได้ตัดสินใจทางการเมืองอีกรอบ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |