กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. และจังหวัดภูเก็ต ประกาศความพร้อมจัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชียนทัวร์ 2 รายการติดต่อกันเป็นครั้งแรกที่จังหวัดภูเก็ต ชิงเงินรางวัลรวมรายการละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท หวังเรียกความเชื่อมั่น และใช้กีฬาเพื่อสนับสนุนฟื้นฟูการท่องเที่ยว

การแข่งขันกอล์ฟ 2 รายการติดต่อกันที่ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่งใน 4 รายการส่งท้ายฤดูกาล 2020-2021 ของเอเชียนทัวร์ และได้รับการขนานนามว่าเป็น             “เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีย์ 2021” โดยเริ่มจากรายการ บลูแคนยอน ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามบลู แคนยอน คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2564     ตามด้วยรายการ ลากูน่า ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2 -5 ธันวาคม 2564

นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยถึงการจัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชียนทัวร์ 2 รายการติดต่อกันที่จังหวัดภูเก็ตว่า “จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมายภายในประเทศ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ที่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศไทย  ขณะเดียวกันประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพยกระดับระบบสาธารณสุขของไทยสู่มาตรฐานสากล เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่กลับมาเยือนประไทยอีกครั้ง” 

 ดร. นิตยา เกิดจันทึก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย มั่นใจว่าการจัดการแข่งขันกอล์ฟ 2 รายการติดต่อกันที่ภูเก็ตจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักกีฬาและนักท่องเที่ยว “การกีฬาแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาทั้งในและต่างประเทศมาโดยตลอด และเรามั่นใจว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่โดดเด่นในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของประสิทธิภาพการจัดการแข่งขันกีฬาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน และการที่นักกอล์ฟระดับนานาชาติตอบรับเข้าร่วมแข่งขันทั้ง 2 รายการที่ภูเก็ต แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของวงการกีฬากอล์ฟอาชีพในประเทศไทย ตลอดจนการยอมรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเราในระดับสากล” ดร. นิตยา กล่าว

ทางด้าน นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่า “ผมเชื่อมั่นว่าการจัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชียนทัวร์ 2 รายการติดต่อกันที่ภูเก็ตในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อประเทศไทยในภาพรวมและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดภูเก็ตในหลายภาคส่วน ทั้งด้านธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร รวมถึงการจ้างงานในท้องถิ่น ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ การจัดการแข่งขันกอล์ฟ 2 รายการนี้จะช่วยประชาสัมพันธ์ความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket SandBox) ในการต้อนรับและดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวภูเก็ต ภายใต้มาตราการป้องกันการแพร่ระบาดที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ต และสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติ ศิลปะ และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของเกาะ ตลอดจนวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะได้มาสัมผัส โดยปราศจากความกังวล”

ทั้งนี้ “โปรแจ๊ส” อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ แชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุดของเอเชียนทัวร์ปี 2019 และล่าสุดอยู่อันดับ 5 ของตารางอันดับเงินรางวัลสะสม ยืนยันเข้าร่วมแข่งขัน 2 รายการที่ภูเก็ต พร้อมตั้งเป้าลุ้นเป็นนักกอล์ฟคนแรกในประวัติศาสตร์เอเชียนทัวร์ ที่ครองแชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุด 2 ฤดูกาลติดต่อกัน

เมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน 2 รายการที่จังหวัดภูเก็ต เอเชียนทัวร์จะหยุดฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ก่อนจะกลับมาแข่งขันอีก 2 รายการติดต่อกันที่สิงคโปร์ เพื่อหาตำแหน่งผู้ชนะเลิศเงินรางวัลสะสมสูงสุดของทัวร์ในฤดูกาล 2020-2021