ย้ำต่างชาติปลื้ม หวังดึง'ฝรั่งเศส' ร่วมลงทุน'อีอีซี'


เพิ่มเพื่อน    

     “ประยุทธ์” ลั่นอังกฤษ-ฝรั่งเศสเชิญเลยมา  เพราะ 2 ประเทศเห็นศักยภาพ เผย ”เมย์” ไม่ได้กดดันเรื่องเลือกตั้ง คาดเจรจา “มาครง” ไปสวย เพราะผ่านรอบแรกบอลโลก อุตตมหวังดึงน้ำหอมเป็นกลุ่มใหม่ลุยอีอีซี
     เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 20-26 มิ.ย.ว่า เป็นการเปิดศักราชใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเราอาจใกล้ชิดกันน้อยเกินไป โดยเฉพาะช่องทางของรัฐบาลและการเมือง เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงความร่วมมือทางด้านเอกชน การค้าการลงทุนระหว่างกัน วันนี้รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเดินหน้าตรงนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายในปัจจุบันและสถานการณ์โลก และเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ามากนัก จึงจำเป็นต้องหาพันธมิตรหรือหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
     เมื่อถามถึงท่าทีของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นคนน่ารัก คำว่าน่ารักคือท่านมีความเข้าใจความเป็นไทย มีการเตรียมการพอสมควรที่จะเรียนรู้ว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร ถึงไหน อย่างไร ส่วนเรื่องข้อจำกัดทางการเมือง ท่านไม่ได้เป็นคนพูดก่อน แต่เป็นคนเล่าให้ท่านฟังเอง ซึ่งท่านไม่ได้กดดันอะไร แต่ขอให้ดำเนินการตามโรดแมปของเรา ก็ดีไม่มีอะไร
     ถามถึงความพร้อมในการพบหารือกับนายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในวันที่ 25 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า มีความพร้อม เพราะได้เตรียมการและศึกษาข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ และจากเอกอัครราชทูตประจำฝรั่งเศส ซึ่งในช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ดี เนื่องจากฝรั่งเศสก็ชนะในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบแบ่งกลุ่มล่าสุด ก็เชื่อว่าการพูดคุยจะเป็นไปด้วยดี
     พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวระหว่างพบปะคนไทยในฝรั่งเศสตอนหนึ่งว่า วันนี้เลือกมายุโรป เพราะเขาเห็นศักยภาพไทยในการที่เป็นศูนย์กลางอาเซียน หากไม่เชิญก็คงไม่มา ดังนั้นเราต้องนำศักยภาพมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าเราไม่ทำอะไรใหม่ๆ หากินแบบเดิมจากเมื่อ 30 ปีที่แล้วในสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ เราก็กำลังกินบุญเก่าอยู่ 
     “เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกคนพอใจ จะเห็นต่างได้แม้ใครๆ จะไม่ชอบผมก็ไม่ว่า และขอฝากความคิดถึงไปถึงแม้จะไม่รักผมก็ตาม แต่ในเมื่อเป็นคนไทยเหมือนกัน ผมต้องทำให้ประเทศไทยและครอบครัวทุกคนที่อยู่ในไทย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
     นายกฯ ย้ำกับคนไทยว่า ไม่มีความต้องการอะไรอีกแล้ว ชีวิตจบไปตั้งนานแล้วในเรื่องรับราชการ เป็นทหาร 60 ปีแล้ว เบื่อจะตายอยู่แล้ว คำว่าเบื่อคือเบื่อลงโทษคน  เบื่อต้องใช้อำนาจ หลายคนไม่เคยมีอำนาจก็อยากมีอำนาจ คนที่มีอำนาจแล้วก็ไม่อยากมีอำนาจ เพราะเขารู้ว่าการมีอำนาจมันยาก เพราะอำนาจมีไว้ใช้ทำความดีให้คุณ แต่อีกด้านหนึ่งอำนาจก็มีไว้ให้โทษคนอื่น ในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่งไม่มีใครอยากให้ร้ายใคร แต่มันจำเป็น โดยเฉพาะทหาร ราชการก็มีระเบียบวินัยของเขา ดังนั้นสิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือการบริหารจัดการแผ่นดิน จำเป็นต้องปรับใหม่ ฉะนั้นจะอยู่ในหัวข้อหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จึงต้องมาต่างประเทศ 
     ทั้งนี้ ในเวลา 09.30 น. ณ โรงแรมเดอครียง กรุงปารีส คณะของ พล.อ.ประยุทธ์รับฟังบรรยายสรุปความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นประธานมอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทย โดยระบุว่า การเดินทางเยือนอังกฤษ-ฝรั่งเศสครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าประเทศชั้นนำของยุโรปให้ความสนใจไทย มองเห็นโอกาสและความร่วมมือกับไทย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน
     “การเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร-สาธารณรัฐฝรั่งเศส มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันและกัน” นายกฯ กล่าว
     ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวหลังหารือกับคณะเอกชนไทยในฝรั่งเศสว่า ถือเป็นโอกาสอันดีในการเชิญชวนให้นักลงทุนฝรั่งเศส ซึ่งมีความก้าวหน้าในเทคโนโลยีและวิทยาการ โดยเฉพาะการบิน การขนส่งระบบรางและพลังงานทดแทนเข้ามาลงทุนมายังไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่จะเชื่อมโยงให้ฝรั่งเศสได้เป็นผู้เล่นรายใหม่ในภูมิภาค รวมถึงอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง CLMV ผ่านความร่วมมือในกรอบพหุภาคียุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง หรือ ACMECS
     “ฝรั่งเศสมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลก มีเงินลงทุนทั่วโลกประมาณ 52,000 ล้านยูโร นับเป็นประเทศที่มีแหล่งเงินทุนเป็นอันดับต้นๆ และยังมีความก้าวหน้าในเทคโนโลยีและวิทยาการหลายด้าน ที่สำคัญคือสัดส่วนการลงทุนของฝรั่งเศสในทวีปเอเชียยังมีสัดส่วนที่น้อย เพียง 7.6% โดยเฉพาะการลงทุนโดยตรงในประเทศไทยที่มีมูลค่าเพียง 228 ล้านยูโร จึงเป็นโอกาสสำคัญในการเชื่อมโยงและชักจูงนักลงทุนฝรั่งเศสมาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี” นายอุตตมกล่าว
     ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่า รัฐบาลพยายามทำปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารไอโอเต็มที่ บอกว่าการเดินทางเยือน 2 ประเทศครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ทั้งที่สหภาพยุโรป (อียู) ยืนยันไม่ได้ปรับท่าทีอ่อนลงต่อรัฐบาลไทย  ยังคงเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้ง และปรับปรุงด้านสิทธิมนุษยชน ก่อนเปิดการเจรจาด้านต่างๆ กับไทยอย่างเป็นทางการ 
     “เราได้อะไรจากการไปเยือน และยังไม่เห็นการแถลงความสำเร็จในมิติของการเชิญนักธุรกิจหรือนักลงทุนกลุ่มใหม่มาลงทุนในไทยเพิ่ม หรือปัญหาสินค้าเกษตรของไทยที่ราคาตกต่ำอย่างมาก เช่น สับปะรด ที่ยุโรปเป็นตลาดสำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปเจรจาให้นางเทเรซา เมย์ และนายเอมมานูเอล มาครง ให้ช่วยในเรื่องนี้หรือไม่ สิ่งที่รัฐบาลอาจยังไม่บอกความจริงกับประชาชนคือ สหภาพยุโรปเขาไม่เจรจาเรื่องเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับรัฐบาลปัจจุบันของไทย ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร” นายอนุสรณ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"