สุริยะไม่กั๊กอุ้มบิ๊กตู่นายกฯสมัย2


เพิ่มเพื่อน    

     "ป้อม" รายงาน ครม.ผลหารือ 70 พรรค  เชื่อบรรยากาศการเมืองดีขึ้น "ประยุทธ์" ลั่นเลือกตั้งต้องราบรื่น-โปร่งใส-ยุติธรรม เปิดเสรีหาเสียง นัดถกรอบ 2 ก.ย.นี้ ปัดเกี๊ยเซียะคนทำผิดกม. "สุริยะ" ประกาศชัดร่วมสามมิตรตั้งพลังประชารัฐ หนุน "บิ๊กตู่" นั่งนายกฯ อีกสมัย โอ่อยู่พรรคไหนได้เป็นรัฐบาลแน่ 50 อดีต ส.ส.ร่วมวง
    เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีควรจะมีการทำไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ว่า ตอบไม่ได้ ทุกเรื่องที่เสนอมาจากบรรดานักการเมือง พรรคการเมืองต่างๆ นั้น รัฐบาลและ คสช. กำลังพิจารณาให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น โปร่งใส ถูกต้อง ยุติธรรม และการให้เสรีในการหาเสียง ซึ่งมีกำหนดเวลาอยู่แล้ว น่าจะเพียงพอ เมื่อเปรียบเทียบกับการหาเสียงในครั้งที่ผ่านมา มากบ้างน้อยบ้าง ต้องทำได้สิ เพราะเรากำลังจะขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของนายกฯ หรือ คสช. อันนั้นเขารับผิดชอบเรื่องความมั่นคง จะต้องทำให้สถานการณ์นิ่ง มีเสถียรภาพ ไม่ใช่มุ่งการเมืองอย่างเดียว แล้วการค้าการลงทุนต่างๆ แย่ไปทั้งหมด จะทำอย่างไร 
    ส่วนการนัดประชุมกับพรรคการเมืองครั้งหน้านั้น ตนได้ถามฝ่ายความมั่นคงแล้ว คงจะเกิดขึ้นประมาณเดือน ก.ย.นี้ ยังมีเวลาอยู่ ช่วงนี้ก็รับฟังการสื่อสารมาโดยตลอด วันนี้ขอทำงานของตน เวลาก็มีตามเวลา จนกว่าจะมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ซึ่งขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเมื่อใด จากนั้นอาจจะมีการหารือกับพรรคการเมือง นักการเมืองอีกครั้ง ทุกอย่างจะนับหนึ่งได้ตอนนั้น เมื่อกฎหมายออกมาพร้อม เรื่องเปิดตัวปิดตัวยังไม่พูดตอนนี้ เพราะยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเปิดอะไร ปิดอะไร
    เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลห้ามจำหน่ายนิตยสาร Time ฉบับสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์นั้น นายกฯ กล่าวว่า "ใครไปบอกห้าม มันห้ามได้หรือไม่ และผมไม่ได้ไปสนใจอะไรมากมาย เขามาสัมภาษณ์ผม ซึ่งไม่รู้ว่าเขาเอาคนอื่นมาสัมภาษณ์ด้วย อะไรอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา อยู่ที่คนไทยเชื่อมั่นผมแค่ไหนอย่างไร และคิดว่าเข้ามาทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่มีห้ามขาย เนี่ยผมจะอุดหนุนซื้อสัก 10 ฉบับ เอามาเก็บไว้ แต่ภาพหน้าปกที่ลงผมไม่หล่อเลย ถ่ายไปตั้งร้อยกว่ารูป คิดว่าเขาพยายามจะสร้างประเด็นขึ้นมาก็เหมือนกับสื่ออื่นๆ เราก็เข้าใจ"
    พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการเดินทางไปประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสที่ผ่านมาว่า บังเอิญว่าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ตนกลับมาถึงก็มีอารมณ์บ้าง แต่ไม่ใช่หงุดหงิดเพราะไปเจอใครมา เพียงแต่เห็นคนไทยบางคนที่ไปประท้วง ซึ่งบางครั้งไม่งดงาม ไม่สวยงาม ยอมรับว่าก็หงุดหงิดอยู่บ้างกับคนเหล่านี้ ขณะที่อีกพวกมีอยู่ประมาณ 300-400 คน เข้ามาให้กำลังใจ โดยมองการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยที่จะเกิดขึ้น เพราะมีความคาดหวังกับอนาคตของลูกหลาน แต่มีคนอยู่ไม่กี่คนที่ไม่เข้าใจ และไม่เคยไปก้าวล่วงใครที่เป็นอดีตนายกฯ เลย ยกเว้นแต่อย่ามาก้าวล่วงตน ตนให้เกียรติกับทุกคนเสมอ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ไปเกี๊ยเซียะอะไรกับใคร กฎหมายยังคงมีผลอยู่ทุกฉบับทุกคดี เป็นเรื่องของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม แต่คนอื่นๆ ที่ไปอยู่ต่างประเทศ ไม่รู้ว่าไปอยู่กันได้อย่างไร ไปพูดจาให้เกิดความเสียหายหมดทุกเรื่อง
    อย่างไรก็ตาม ขอฝากสื่อมวลชนอย่าเผยแพร่แต่เรื่องของความขัดแย้ง ซึ่งสื่อต่างประเทศนำไปขยายความขัดแย้งต่อ ไม่มีอะไรที่จะดีขึ้นเลย เพราะไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น วันนี้ตนยังอยู่ ต้องอยู่รับผิดชอบจนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ ทุกอย่างมีระยะเวลากำหนดไว้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาเร่งรัดอะไรกัน และขอฝากไปถึงนักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ ด้วยว่า ขอให้ช่วยกันคิดเพื่อประเทศชาติกันบ้าง ถ้าไม่มีคดีความอะไรก็ขอให้มาช่วยกันพัฒนาประเทศ ส่วนใครอยู่ระหว่างคดีความขอให้ต่อสู้กันตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ตนเองจะไปประนีประนอมให้ใครไม่ได้ทั้งนั้น 
    ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รายงานให้ที่ประชุม ครม.ทราบถึงกรณีการเชิญผู้เกี่ยวข้องในแวดวงการเมืองมาร่วมพูดคุย ในวันที่ 25 มิ.ย. โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีร่วมชี้แจง ซึ่งมีการหารือกันในหลายประเด็น ทั้งปัจจัยในการพิจารณาจัดการเลือกตั้ง กรอบเวลาตามโรดแมป แนวทางการดำเนินการในอนาคต รวมถึงเปิดโอกาสให้ตัวแทนพรรคการเมืองได้ซักถามและแสดงความคิดเห็น พล.อ.ประวิตรแจ้งว่า มีพรรคการเมืองมาร่วมพูดคุยกว่า 70 พรรค มีตัวแทนทั้งสิ้น 227 คน ซึ่งผลจากการหารือสรุปได้ว่า การหารือในครั้งนี้เป็นประโยชน์กับพรรคการเมืองและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เชื่อว่าสามารถช่วยผ่อนคลายปัญหาความไม่เข้าใจแก่พรรคการเมืองและประชาชนได้ ช่วยสร้างความมั่นใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
    “พล.อ.ประวิตรได้นำรายละเอียด ปัญหาต่างๆ ในการพูดคุยมานำเรียนนายกฯ เรียบร้อยแล้ว สำหรับการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการทางการเมือง ให้ กกต.และพรรคการเมืองสามารถดำเนินการในบางเรื่องที่คิดว่ามีความจำเป็นสำหรับเตรียมการ หรือเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งตามโรดแมป” พล.ท.สรรเสริญระบุ
    นายวิษณุกล่าวถึงความชัดเจนระยะเวลา 150 วันในการจัดการเลือกตั้ง จะนับรวมช่วงเวลาที่ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งหรือไม่ว่า อย่าไปพูดให้ยาว ยืนยันว่าหากมีปัญหาขัดแย้งไม่ใช่รัฐบาลเป็นคนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ใครสงสัยก็ไปส่งเอง ศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับตนไม่รู้ และ กกต.ชุดปัจจุบันไม่ได้สงสัย แต่ขณะนั้นนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการ กกต.สงสัยอยู่คนเดียว หาก กกต.ชุดใหม่เข้ามาไม่สงสัยเรื่องก็จบ ไม่ต้องตีตนไปก่อน และถ้าจัดการเลือกตั้งเวลาเหลือมากกว่า 60 วันอยู่แล้ว
    วันเดียวกัน นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด อดีต รมช.ศึกษาธิการ ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้ปรากฏตัวที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวทักทายกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี โดยบอกว่ามาดื่มกาแฟ พร้อมระบุด้วยว่า "เดี๋ยวคงได้เจอกันบ่อยๆ”
    สำหรับนายสุรพร มีความใกล้ชิดอยู่กับกลุ่มสามมิตร ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสมศักดิ์ เทพสุทินและนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จึงคาดว่านายสุรพรอาจจะได้รับการแต่งตั้งให้มีตำแหน่งทางการเมืองในเร็วๆ นี้
    ที่สนามกอล์ฟ ไพน์เฮิร์สท รังสิต แกนนำกลุ่มสามมิตร นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ได้นัดพูดคุยกับบรรดาอดีต ส.ส. โดยได้เลื่อนจากเดิมที่นัดกันในวันที่ 30 มิ.ย.  โดยตั้งแต่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีอดีต ส.ส.ทยอยเดินทางมาร่วมกว่า 50 คน อาทิ นายอนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย จ.ชัยนาท, นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย, นายสมคิด บาลไธสง อดีต ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย, นายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน, นายเวียง วรเชษฐ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย, ว่าที่ พ.ต.สรชาติ สุวรรณพรหม อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคภูมิใจไทย, นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคไทยรักไทย
    จากนั้นแกนนำประกอบด้วย นายสุริยะ, นายสมศักดิ์, นายอนุชา, นายจำลอง และนายภิรมย์ ได้ขึ้นเวทีกล่าวกับอดีต ส.ส.ที่มาร่วมหารือ 
    "อยากสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป ผมได้เข้าไปรู้เบื้องลึกที่ท่านจะทำต่อไป และได้สื่อสารผ่านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และคุยกับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์, นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม รวมถึงแกนนำใหญ่ๆ ของรัฐบาลมาตลอด ทำให้ผมเต็มใจที่จะช่วย พล.อ.ประยุทธ์ ผมไม่ได้ชอบการรัฐประหาร เพราะเคยโดนมาตอนเป็นรัฐมนตรี โดนตราหน้าจากสังคม โดนคดีซีทีเอ็กซ์ 9000 แต่ชี้แจงได้ข้อกล่าวหา จน ป.ป.ช.มีมติตีตก แต่ครั้งนี้ได้เห็นความตั้งใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าตั้งใจแค่ไหน ตอนอยู่พรรคไทยรักไทย ผมทำเพื่อประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง จึงอยากสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป เลยคิดจะมาตั้งพรรคพลังประชารัฐ" นายสุริยะระบุ
    นายสุริยะกล่าวด้วยว่า เล่นการเมืองมาพรรคเดียวตลอดชีวิตคือ พรรคไทยรักไทย ตนอยู่พรรคไหนพรรคนั้นสบาย ได้เป็นรัฐบาล อีกทั้งถ้านายสมศักดิ์ได้เป็น ส.ส.เมื่อไร ก็ได้เป็นรัฐบาลทุกครั้ง และจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพราะพวกเราคิดดีทำดี มาทำการเมืองครั้งนี้หวังมารับใช้ประชาชน ในนามพรรคพลังประชารัฐจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีกสมัย เชื่อในความสามารถของท่าน แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่เชื่อว่าอย่างไรเราต้องได้กลับมา พรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล และขอให้ทุกคนไปลงพื้นที่ถามความต้องการของประชาชนว่าต้องการนโยบายอะไรเพื่อมาสรุปเป็นนโยบายนำเสนอผู้นำพรรค.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"