ทรงแนะให้เตือนใจ กู้13ชีวิตหมูป่า/เด็กขอออกรพ.พร้อมกัน


เพิ่มเพื่อน    

  "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" มีพระราชกระแสชื่นชมขอบใจทุกฝ่ายช่วย 13 หมูป่าออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน หวังเหตุการณ์เป็นเครื่องเตือนใจให้ได้เรียนรู้ "นายกฯ" ย้ำจัดทำบทเรียนต้องตอบ 3 โจทย์หลัก พร้อมขออย่าไปวุ่นวายกับเด็กๆ มากนัก "โค้ชเอก-2 หมูป่า" เฮ! จ่อได้สัญชาติไทย "แพทย์" เผยทั้งหมดอาการดีขึ้น "น้องโน้ต" บอกครอบครัวจะออกจาก รพ.พร้อมกัน "ทูตออสเตรเลีย" มอบเสื้อสามารถแก่ "ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์" จัดบิ๊กคลีนนิ่งวนอุทยานถ้ำหลวงฯ 14 ก.ค.นี้

    เมื่อวันศุกร์ เวลา 19.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสชื่นชม ทรงขอบใจทุกคนทุกฝ่าย ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ความว่า
    "น่าชื่นชมยินดียิ่งนัก ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเรื่องสุดวิสัย และไม่มีผู้ใดคาดคิด ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ จึงต้องกระทำอย่างปัจจุบันและเร่งด่วน แต่ทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม และทุกภาคส่วนก็ระดมสรรพกำลังกันมาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ต่างยอมเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา กำลังทรัพย์ และยอมสละแม้ชีวิตของตน ส่วนผู้ประสบภัยเองนั้น ต่างก็ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุ ประกอบกับการที่ประชาชนทั่วโลกก็ส่งกำลังใจมายังผู้ประสบภัยและผู้ปฏิบัติการช่วยเหลืออย่างท่วมท้น จึงกล่าวได้ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้แม้จะมีความยากลำบาก แต่ก็มีสิ่งที่ดีและมีคุณค่าบังเกิดขึ้นอย่างไม่อาจประมาณได้
    ข้าพเจ้าขอขอบใจทุกคนทุกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจที่จะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ว่า การบริหารจัดการที่ดี การใช้ความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ให้พอเหมาะพอดีกับสถานการณ์ การปฏิบัติตนและปฏิบัติการอย่างรอบคอบ มีวินัย มีสติ ตลอดจนการรู้หน้าที่ของตน และปฏิบัติหน้าที่ให้ประสานส่งเสริมกับทุกคนทุกฝ่ายโดยเต็มกำลัง เป็นเครื่องมืออย่างสำคัญที่จะสามารถนำไปใช้แก้ไขอุปสรรคปัญหา  รวมทั้งพัฒนาบ้านเมืองของเราได้ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกันนั้น เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่จะทำให้มวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุกยั่งยืนตลอดไป"
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ว่าจากเหตุการณ์ ผู้ประสบภัยนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ช่วยโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย รวม 13 คน ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นเวลากว่า 17 วัน โดยภารกิจการค้นหาและกู้ภัยที่เกิดจากการบูรณาการของพลังประชารัฐ ไม่เพียงในประเทศไทย แต่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือของคนไทยและคนต่างประเทศ ทั้งราชการ ประชาชน แล้วก็ภาคเอกชนทุกหมู่เหล่า จิตอาสา ที่สำคัญที่สุดก็คือ พระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานกำลังใจให้กับพวกทุกคน สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเป็นผลสำเร็จ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ
อย่ายุ่งกับ 13 ชีวิตมาก  
    นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของการทำงานนี้ อยากจะให้ทุกคนได้วางแผนร่วมกัน ในเรื่องของการป้องกันแล้วก็แก้ไข แล้วก็ฟื้นฟูให้ครบระบบ เพราะฉะนั้นป้องกันไม่ให้เกิด ย่อมดีกว่าที่จะต้องแก้ไขในโอกาสต่อไป เว้นแต่ว่าเป็นสถานการณ์ที่สุดวิสัย นอกจากนี้ ตนเห็นว่าการจัดทำแผนบทเรียนของเรา ต้องตอบอีก 3 โจทย์ ได้แก่ 1.คือการแก้ไขข้อบกพร่องในอดีต 2.การป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต โดยโมเดลถ้ำหลวงนี้จะต้องถูกนำไปขยายผลกับทุกแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆทั่วประเทศ และ 3.ความพร้อมของบุคลากรและหน่วยงาน โดยเฉพาะอุปกรณ์กู้ภัยประจำหน่วย ที่จะต้องมีแผนการจัดหาใหม่ จัดหาทดแทน ให้ทันสมัย และมีแผนซ่อมบำรุงตามระยะเวลา ให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ประเด็นการพัฒนาเป็นห้องสมุด หรือพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ถ้ำหลวงนี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ การกู้ภัยของโลกเป็นครั้งแรก และครั้งเดียว ณ เวลานี้ ที่มีลักษณะเฉพาะก็คือเป็นถ้ำที่มีน้ำท่วมจนเต็มในฤดูฝน ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นทางระบายน้ำใต้พื้นดิน ในฤดูฝนน้ำจะเต็ม ซึ่งชาวโลกรู้จักเป็นอย่างดีแล้ว และย่อมเป็นที่สนใจอย่างต่อเนื่องในอนาคตอีกด้วย
    นายกฯ กล่าวว่า หลังจากนี้จะฟื้นฟูถ้ำหลวงอย่างไรให้คงสภาพเดิมไว้อย่างดีที่สุด เพราะว่าที่ถ้ำหลวงนี้เป็นเหมือนกับทางระบายน้ำ น้ำใต้ดิน แล้วก็มีการซึมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ แล้วก็ใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูก พืชไร่ พืชสวน ทำไร่ ทำนาอีกนะครับ ถ้าเราไปเปลี่ยนแปลงมาก จะเกิดปัญหาในอนาคตในเรื่องของการเกษตร ได้ให้แนวทางกับสำนักงานบริหารจัดการน้ำ ไปวางแผนให้ดีว่าเราจะบริหารจัดการน้ำเหล่านี้ไว้ได้อย่างไร โดยที่ไม่ไปเปลี่ยนแปลงสภาพเดิมมากนัก 
    ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการดำเนินการหลังจากช่วยเหลือ 13 ทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา วันที่ 12-13 ก.ค.2561 ว่า จากนี้ต้องฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับสู่สภาพเดิมให้มากที่สุด ในส่วนที่ขุดและเจาะก็ต้องดำเนินการให้เรียบร้อย เพราะเป็นทางน้ำไหลใต้ภูเขา หากจะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็ต้องพิจารณากันต่อว่าจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวปลอดภัย
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญขณะนี้คือการดูแลและเยียวยาด้านจิตใจให้กับเด็ก ขออย่าไปยุ่งกับเด็กและโค้ชทั้ง 13 คนมากนัก และขอให้รักษาความรักความสามัคคีที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ไว้ อย่าให้สูญหายไป เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหวังให้คนไทยรักกันเช่นนี้ และรักษาสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ตลอดจนทุกฝ่ายที่เข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งเกษตรกรด้วย
    "นี่คือประเทศไทยของเรา อย่าให้ใครมาแบ่งแยก ส่วนการทำบุญหลังจากนี้ ก็จะให้จังหวัดเชียงรายเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนตัวอยากให้ทุกคนร่วมกันสวดมนต์เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น และมีความปลอดภัย” นายกฯ กล่าว
    ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการขอสัญชาติให้โค้ชและเด็กอีก 2 คนในทีมหมูป่าอะคาเดมีว่า ยังไม่รู้ ตอบไม่ได้ เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยดูแล ทั้งนี้ ตนคิดว่าต้องทัดเทียมกันหมด ทุกอย่างเป็นระเบียบ 
    ด้าน ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง (ปค.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการพิจารณาสัญชาติไทยให้กับเยาวชนทีมหมูป่าฯ 3 คน ที่ไม่มีสัญชาติไทยว่า ขณะนี้ทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย กำลังตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ อยู่ โดยในส่วนของโค้ชเอก มีช่องทางอยู่ 2 แนวทาง คือ การยื่นขอตามมาตรา 23 และมาตรา 7 ทวิ แม้ว่าโค้ชเอกจะไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะในกรณีของมาตรา 23 ต้องไปดูหลักฐานการเกิด ทราบว่าโค้ชเอกเกิดที่ อ.แม่สาย ส่วนหลักฐานอื่นๆ ต้องตรวจสอบทั้งของบิดามารดา รวมถึงเอกสารการเกิดของทั้ง 3 คนว่าเกิดในประเทศไทยหรือไม่ 
มีสิทธิรับสัญชาติไทย
    อธิบดีกรมการปกครองกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบบิดาของโค้ชเอกเป็นชนกลุ่มน้อยไทยลื้อ แต่จะเกิดในประเทศไทยหรือไม่นั้น ต้องย้อนไปตรวจสอบทะเบียนประวัติการเกิดของบิดาโค้ชเอกว่าเกิดในประเทศไทยหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบพยานบุคคล แวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ว่าอยู่ในเงื่อนไขหรือไม่
    "ผมเชื่อว่าหลังจากที่ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงและกลับบ้านได้แล้ว ผู้ปกครองของหมูป่าทั้ง 3 คนก็จะมาดำเนินการยื่นหลักฐานต่างๆ ยืนยันการพิจารณาการให้สัญชาติของโค้ชเอกและเยาวชนหมูป่าอีก 2 คน ไม่ได้ดำเนินการหลังจากเกิดกรณีติดถ้ำหลวง แต่ครอบครัวได้ยื่นขอสัญชาติไทยมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้เป็นจังหวะที่ได้นำเอกสารมาตรวจสอบพิจารณาอีกครั้ง จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมดเบื้องต้น คาดว่าโค้ชเอกและหมูป่าอีก 2 คนมีโอกาสจะได้รับสัญชาติไทย" อธิบดีกรมการปกครองกล่าว
    ถามถึงคุณสมบัติของทุกคนตรงตามระเบียบกฎเกณฑ์หรือไม่ ร.ต.ท.อาทิตย์กล่าวว่า คุณสมบัติหลายอย่างเข้าข่ายระเบียบการขอสัญชาติของกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายอำเภอแม่สาย เพราะ รมว.มหาดไทยมอบอำนาจให้นายอำเภอไปแล้ว ตามระเบียบของกระทรวง หากโค้ชเอกได้สัญชาติไทย ก็จะได้ถือบัตรประชาชนที่มีเลขนำหน้าเป็นเลข 7 เพราะระบบทะเบียนราษฎรได้จำแนกรหัสเลขบัตรประจำตัวประชาชนไว้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อบิดาที่เป็นชนกลุ่มน้อยที่ได้รับสัญชาติไทย มีบัตรประชาชนนำหน้าเลขเป็นเลข 6 ลูกที่เกิดมาก็จะต้องถือบัตรประชาชนเลข 7 ซึ่งทั้งหมดเป็นรหัสจำแนกกลุ่มที่ได้รับสัญชาติไทย
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) กล่าวว่า ในวันที่ 14 ก.ค. ตนจะลงพื้นที่ไปติดตามงานที่ จ.เชียงราย โดยล่าสุดทุกคนสุขภาพดี แต่มี 3 รายที่มีอาการหูอักเสบ และปอดอักเสบ 3 ราย โดยอาการดีขึ้นแล้ว ไม่มีไข้ ส่วนบางคนที่มีไข้ต่ำๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เบื้องต้นยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงคือ อยากให้จิตแพทย์เข้าไปดูแลเรื่องสภาพจิตใจเมื่อออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว เป็นที่รู้กันว่าสังคมและสื่อจะให้ความสนใจเยอะ และจะมีการถามคำถามซ้ำๆ จึงอยากให้จิตแพทย์ช่วยวางแผนร่วมกับครอบครัวในการรับมือสื่อและสังคม
    "หลังจากออกโรงพยาบาลแล้วก็คงต้องมีการติดตามเรื่องของสุขภาพจิตทั้ง 13 คน แต่อยู่ที่ระยะเวลาว่าเราจะติดตามอย่างต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน ซึ่งใกล้ๆ บ้านของทุกคน ก็มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมถึงมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่จะช่วยดูแลในเบื้องต้น ส่วนจะส่งแพทย์หรือจิตแพทย์ของเราลงไปดูแลเป็นระยะนั้น ตนกำลังประเมินอยู่" ปลัด สธ.กล่าว
     พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะจิตแพทย์ กล่าวว่า สภาพจิตใจทั้ง 13 คนในขณะนี้อยู่ในระหว่างการฟื้นฟู เข้าใจสาเหตุที่สื่อและทุกคนให้ความสนใจเด็ก ทางจิตแพทย์คงไม่ห้าม ทุกอย่างให้ทางครอบครัวเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะเชื่อว่าทุกคนดีใจที่พวกเขาออกมาได้  การออกทีวีเป็นแค่ความสนใจขณะหนึ่ง เรื่องแบบนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความสนใจตลอด และในแง่มุมของความสนใจ ก็มีผลตอบรับทั้งดีและไม่ดี ต้องยอมรับด้วย เพราะไม่มีใครจะชื่นชมเราตลอดเวลา
    นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ วันที่ 13 ก.ค. น้องๆ 13 คน ทุกคนอาการดีขึ้นตามลำดับ ญาติสามารถเยี่ยมใกล้ชิด โดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือก่อนและหลังเข้าเยี่ยม
ขอออก รพ.พร้อมกัน
    นพ.ธงชัยกล่าวว่า กลุ่มที่ 1 จำนวน 4 คน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. อาการทั่วไปปกติ ไม่มีไข้ รับประทานอาหารปกติได้ ขับถ่ายปกติ ตรวจตาโดยจักษุแพทย์ผลปกติ สำหรับ 2 รายที่มีปัญหาปอดติดเชื้ออาการดีขึ้น ผลเอกซเรย์ปอดปกติ ผลการเพาะเชื้อในกระแสเลือดให้ผลลบ รอให้ยาปฏิชีวนะครบ 7 วัน, กลุ่มที่ 2 จำนวน 4 คน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. อาการทั่วไปดี สัญญาณชีพปกติ ไม่มีไข้ รับประทานอาหารได้ดี ตรวจหูโดยแพทย์หูคอจมูก ผลปกติ รอให้ยาปฏิชีวนะครบ 7 วัน
    ส่วนกลุ่มที่ 3 จำนวน 5 คน เข้ารีบการรักษาตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. อาการทั่วไปปกติ มีไข้ต่ำๆ สัญญาณชีพอื่นๆ ปกติ รับประทานอาหารได้ดี รายที่มีอาการปอดติดเชื้อเล็กน้อย อาการดีขึ้น ส่วน 3 รายยังให้ยารักษาภาวะติดเชื้อที่บริเวณหูชั้นกลางต่อ และรอให้ยาปฏิชีวนะครบ 7 วัน
    "สำหรับการดูแลด้านจิตใจ ทุกคนมีสุขภาพจิตที่ดี ไม่มีอาการเครียดหรือกังวลกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งทีมจิตแพทย์ นักจิตวิทยาของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ได้ให้การดูแลทั้งผู้ป่วยและญาติมาตั้งแต่ต้น ประเมินติดตามอาการอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาลทุกวัน และเตรียมแผนการดูแลต่อเนื่อง" ผู้ตรวจราชการ สธ.กล่าว
    ที่จังหวัดเชียงราย นางอิน วารินต๊ะ อาของนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก ผู้ช่วยโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี กล่าวว่า เมื่อโค้ชเอกหายแล้วจะเปิดแถลงข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที
    ส่วน น.ส.สาริษา พรมจักร์ น้าสาว ด.ช.ประจักษ์ หรือน้องโน้ต สุธรรม อายุ 14 ปี หนึ่งในน้องที่ติดถ้ำเขาหลวง กล่าวว่า อาการน้องโน้ตในวันนี้แข็งแรงดี ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ทานอาหารปกติ ทานก๋วยเตี๋ยว ทานขนมปัง แล้วทีมแพทย์จะนำเลือดมาตรวจว่าขาดสารอาหารอะไรบ้าง ทีมแพทย์ยังคงให้กินอาหารรสอ่อนๆ ซึ่งน้องโน้ตยังไม่รู้เรื่องความวุ่นวายที่อยู่ในถ้ำ น้องโน้ตรู้แต่ว่าตนเองไปเที่ยวถ้ำ ติดอยู่ในถ้ำหลายวัน แล้วก็มีคนมาช่วยน้อง พาน้องออกจากถ้ำ แล้วก็พาไปโรงพยาบาล 
    "ตอนนี้ทางทีมแพทย์ก็ยังไม่ให้เด็กๆ ได้ทราบข่าวสารด้านนอก เนื่องจากเกรงว่าสภาพจิตใจของทีมหมูป่าฯ ยังไม่พร้อม จึงมีการเปิดข่าวสารเกี่ยวกับฟุตบอลย้อนหลังให้ทีมหมูป่าฯ ดูในสิ่งที่น้องๆ ชอบ ก็เป็นจิตวิทยาการดูแลจิตใจของทางทีมแพทย์ เพื่อให้ผ่อนคลาย ส่วนระยะเวลาที่น้องโน้ตต้องอยู่ในโรงพยาบาลนั้น เชื่อว่าหาก 4 คนแรกสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว คงไม่มีใครออกมา เพราะทางน้องโน้ตบอกกับครอบครัวว่าจะรอออกมาพร้อมกับทีมหมูป่าฯ ทั้ง 13 คน จะไม่มีใครออกมาคนแรกเด็ดขาด“ น.ส.สาริษากล่าว
    น้าสาวน้องโน้ตกล่าวว่า หลังจากที่น้องโน้ตออกมา ทางครอบครัวก็จะให้น้องเรียนหนังสือ เล่นกีฬา และใช้ชีวิตปกติ ส่วนเรื่องบวช ทางผู้ปกครองทุกคนว่าจะให้บวชที่วัดเดียวกันเป็นเวลา 9 วัน ตนก็อยากให้น้องตั้งจิตใจให้เป็นจิตอันเป็นกุศล บวชเพื่ออุทิศกุศลให้แก่เจ้าที่เจ้าทาง บวชเพื่ออุทิศให้แก่ จ.อ.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม และต่อไปทางครอบครัวจะดูแลน้องโน้ตอย่างดี บทเรียนนี้เป็นบทเรียนที่ล้ำค่า ในอนาคตน้องโน้ตจะได้เรียนรู้ การใช้ชีวิตที่อยู่ในถ้ำนี้จะเป็นบทเรียนที่ทำให้เป็นประโยชน์แก่คนทั้งโลก และเป็นประโยชน์ต่อคนที่มีพื้นที่ที่อยู่ใกล้ถ้ำ“ น.ส.สาริษากล่าว
    ขณะที่พ่อน้องดอม ด.ช.ดวงเพชร พรมเทพ อายุ 13 ปี กล่าวว่า ลูกชายเล่าให้ฟังหลังซ้อมบอลเสร็จ ตั้งใจจะเข้าไปเที่ยวถ้ำหลวงแค่ 1 ชั่วโมง แต่เมื่อไปถึงฝนตกหนัก น้ำป่าทะลักเข้ามา โค้ชเอกได้บอกให้ทุกคนรีบวิ่งเข้าไปในถ้ำ จากนั้นให้ช่วยกันตะกุยโพรงยกหินออกเพื่อเข้าไปหลบข้างใน โดยบอกให้อยู่นิ่งๆ จะได้ไม่ใช้พลังงานมาก ตอนนั้นไม่รู้วันรู้คืน บางช่วงทุกคนพูดคุยกันบ้าง เพื่อแก้เครียด วินาทีที่ได้ยินเสียงนักดำน้ำว่ายน้ำเข้ามา รู้สึกดีใจมากจนน้ำตาไหล วิ่งลงมาจากเนินนมสาว บางคนดีใจมากถึงขั้นลื่นตกน้ำเลยทีเดียว
ฮีโร่จิตอาสากลับบ้าน
    วันเดียวกัน นายพอล โรบิลลิอาร์ด เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เดินทางมามอบเสื้อสามารถและหมวกให้กับนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการร่วมการค้นหาผู้ประสบภัยวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) เพื่อแสดงความยินดี และขอบคุณที่เห็นความสำคัญของทีมกู้ภัยจากออสเตรเลีย รวมไปถึงทีมแพทย์ที่เข้ามาร่วมในการค้นหา 
    นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยยังได้มอบเสื้อสามารถ ซึ่งเป็นเสื้อโปโลสีเทา ปักโลโก้รูปจิงโจ้ และข้อความเชิดชูเกียรติที่อกด้านซ้าย อาร์มเสื้อด้านขวา เป็นธงชาติไทย-ออสเตรเลีย สื่อความหมายในการร่วมมือกันทั้ง 2 ประเทศ ส่วนอาร์มด้านซ้ายเป็นริบบิ้นไว้อาลัยให้กับจ่าแซม และด้านหลังเป็นข้อความว่า หมูป่าสู้ๆ พร้อมกับมอบหมวกของกรมตำรวจออสเตรเลียให้อีก 1 ใบ  
    นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า เอกอัครราชทูตออสเตรเลียได้เดินทางมาเพื่อขอบคุณที่ทางเราได้ให้โอกาสออสเตรเลียเข้ามาร่วมงาน แต่ในความเป็นจริงแล้วทางเราต่างหากที่จะต้องขอบคุณ เพราะถือว่าทีมดำน้ำของออสเตรเลียและทีมแพทย์เป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติการในครั้งนี้ จนสามารถค้นพบและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้ง 13 คนออกมาจากถ้ำสำเร็จ 
    "ทางออสเตรเลียระบุเมื่อในพื้นที่ถ้ำหลวงน้ำแห้ง จะส่งเจ้าหน้าที่กลับมาอีกครั้งเพื่อมาพบกับทีมปฏิบัติการ ทั้งพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงานและเลี้ยงฉลองให้กับความสำเร็จในภารกิจ พร้อมจะเดินหน้าความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลีย ร่วมมือกันในการอบรมปฏิบัติการฝึกฝนการกู้ภัยในถ้ำ เพราะทางการออสเตรเลียชื่นชมการบริหารจัดการของไทยในภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้น รวมทั้งชื่นชมการทำงานของหน่วยซีลไทย ที่มีความมุ่งมั่นและเป็นมืออาชีพอย่างมาก ในอนาคตอันใกล้ทั้ง 2 ประเทศจะมาร่วมกันถอดบทเรียนในสิ่งที่ได้จากภารกิจครั้งนี้ เพื่อประสานความร่วมมือหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นทั้ง 2 ประเทศพร้อมจะส่งทีมช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทันที" ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณปากทางขึ้นวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงรายว่า ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คอยดูแลความเรียบร้อย ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชนเข้าไปพื้นที่ โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้ารักษาอุปกรณ์ที่ยังค้างอยู่ในถ้ำหลวง และรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ในวันที่ 14 ก.ค. โดยทางอธิบดีกรมอุทยานฯ จะมาเป็นประธาน และมีเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานฯ จากจังหวัดใกล้เคียง เช่น เชียงใหม่ พะเยา มาร่วมกันทำความสะอาด 
    ทั้งนี้ บริเวณอาคารองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้มีประชาชนชาวอำเภอแม่สาย และใกล้เคียง เดินทางมาสมัครเป็นจิตอาสาพระราชทาน ร่วมโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่จะมีกิจกรรมบิกคลีนนิ่งเดย์ ซึ่งมีการเปิดรับสมัครมาตั้งแต่วันที่ 12 และ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
    ในส่วนบรรยากาศการเดินทางกลับของหน่วยงานต่างๆ ที่เดินทางมาร่วมกันช่วยค้นหาและพาน้องๆทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวงหลายพื้นที่เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่ จ.นครปฐม นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ รองผู้ว่าฯ นครปฐม พร้อมด้วยชาวจังหวัดนครปฐมกว่า 1,500 คน นำดอกกุหลาบมามอบให้กับทีมงานท่อสูบน้ำซิ่ง นำโดยนายชวินชยาทิต ภาณุหาตังไทรแก้ว อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนิลเพชร เอก ท่อสูบน้ำซิ่ง เสี่ยภานุ อมตะ รถบรรทุก และ เม้งชัง พร้อมรถบรรทุกเทรลเลอร์ 3 คัน บรรทุกท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ 20 นิ้ว จำนวน 2 ตัว และขนาด 16 นิ้ว อีก 1 ตัว ขนาดเครื่องยนต์ 360 แรงม้าที่ช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี รวมทั้งขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก 
    รองผู้ว่าฯ นครปฐมยังได้มอบของที่ระลึกพระร่วงโรจน์ฤทธิ์องค์จำลองให้แก่ทีมท่อสูบน้ำพญานาคกลับสู่จังหวัดนครปฐม เพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ทีมท่อสูบน้ำพญานาค ที่เป็นตัวแทนของชาวนครปฐมในการเสียสละจนสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดนครปฐม
    จังหวัดนครราชสีมา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในส่วน จ.นครราชสีมา มีหลายหน่วยงานเข้าไปร่วมภารกิจช่วยเหลือด้วยเช่นกัน อาทิ หน่วยงานน้ำบาดาลจาก อ.ปากช่อง, หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพุทธธรรมการกุศล (ฮุก 31) และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 ส่วนใหญ่เดินทางกลับถึงพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนดวันจัดกิจกรรมต้อนรับ เพราะต้องรอ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือหมอภาคย์ ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ออกจากโรงพยาบาลก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจเช็กร่างกายหลังออกจากถ้ำ 
    "จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกันไว้เบื้องต้นจะมีกิจกรรมที่ลานอนุสาวรีย์สุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน และขบวนแห่ไปยังตามจุดเพื่อให้ประชาชนร่วมแสดงความยินดีและชื่นชมในความเสียสละ รูปแบบการจัดงานคร่าวๆ ที่ประชุมได้หารือกันเป็นครั้งแรก พูดคุยถึงเรื่องการมอบโล่เกียรติยศ และเสื้อสามารถ ให้กับเหล่าฮีโร่ ภายในงานจะนิทรรศการประวัติของหมอภาคย์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เข้าไปช่วยเหลือ และอาจจะมีการสัมภาษณ์พิเศษเพื่อให้เล่าถึงการเข้าไปช่วยเหลือทีมหมูป่าฯ" นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมากล่าว 
    ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.กระบี่ ครอบครัวและญาติๆ จากชมรมปีนผาอ่าวไร่เลย์ จำนวนกว่า 10 คน    ได้เดินทางมาต้อนรับทีมชมรมปีนผาอ่าวไร่เลย์ ที่เดินทางกลับมาจากปฏิบัติภารกิจค้นหาปล่องถ้ำเพื่อช่วยชีวิตน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวง โดยมีผู้เข้ามาขอภาพถ่ายที่ระลึกเป็นจำนวนมาก.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"