สานพลังจัดงาน“ดีโน่ศิลป์ ถิ่นอาร์ต” ตอกย้ำ“ทุกสิ่งสร้างสรรค์ ณ กาฬสินธุ์”


เพิ่มเพื่อน    

 

 สืบเนื่องจากนโยบาย “กาฬสินธุ์ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ของรัฐบาล ที่เกิดขึ้นภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เมื่อช่วงปลายปี 2560 และได้มีการขับเคลื่อนโครงการ "คน หรือ "กาฬสินธุ์แฮปปี้เนส 2019"  เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน โดยใช้การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจของกาฬสินธุ์ ซึ่งในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดทำแผนงานด้านการตลาด เปิดการรับรู้และภาพจำใหม่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ในมุมมองเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด "ทุกสิ่งสร้างสรรค์ ณ กาฬสินธุ์"

ล่าสุด เพื่อตอกย้ำแนวคิดสร้างสรรค์และความเป็นเมืองแห่งศิลปะ จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนหน่วยงานทางด้านการท่องเที่ยว รวมทั้ง ททท. จัดงานเทศกาล “ดีโน่ศิลป์ ถิ่นอาร์ต @ตลาดโรงสี” ระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2561 บริเวณตลาดโรงสี อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อรวบรวมงานศิลปะต่างๆ มาจัดแสดงไว้ในงานเดียว และมีการแถลงข่าวการจัดงานขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ที่ คาเฟ่ เดอ สุภัค อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธาน และมีหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งผู้บริหารของททท. เข้าร่วมงาน

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดงานว่า กาฬสินธุ์เป็นจังหวัดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองในหลายๆ ด้าน ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต อาหารการกิน เทศกาลงานประเพณี รวมทั้งรูปแบบการดำเนินชีวิตแบบสังคมเมืองที่ทันสมัย แต่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย ผู้คนมีรอยยิ้มและไมตรี ซึ่งนับเป็นจุดแข็งทางการท่องเที่ยวที่เชิญชวนให้ผู้คนได้มาสัมผัส อีกทั้งยังมีธรรมชาติและทรัพยากรที่สมบูรณ์ สถานที่ท่องเที่ยว ตลอดจนวัฒนธรรมวิถีข้าวและผ้า ที่สอดแทรกในการดำเนินชีวิตของผู้คนและปรากฏให้เห็นในรูปแบบของงานประเพณี อาทิ งานบุญคูนลาน งานบั้งไฟตะไลล้าน วิถีผ้าของชาวผู้ไทยบ้านโพน วิถีผ้าชาวผู้ไทยบ้านโคกโก่ง รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่มีความเก่าแก่ยาวนานเป็นที่ศรัทธาของประชาชน เช่น พระธาตุยาคู วัดพุทธนิมิตภูค่าว วัดวังคำ

ในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจก็มีหลายแห่ง อาทิ เขื่อนลำปาว ที่มีอากาศเย็นสดชื่น มีภาพพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ของสะพานเทพสุดา อุทยานแห่งชาติภูพานที่อุดมสมบูรณ์ หรือพิพิธภัณฑ์สิรินธร อำเภอสหัสขันธ์ ซึ่งเป็นทั้งอาคารจัดแสดงและแหล่งขุดค้นโดยพบฟอสซิลไดโนเสาร์กินพืชที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย นับเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาที่สำคัญของประเทศ จนมีการขนานนามจังหวัดกาฬสินธุ์ว่าเป็น “ถิ่นไดโนเสาร์” เพราะทุกมุมเมืองจะปรากฏภาพหรือหุ่นไดโนเสาร์ให้เห็นได้ไม่ยากนัก

 ในส่วนวิถีชีวิตแบบใหม่ กาฬสินธุ์ก็มีสถานที่พักผ่อนกับอาหารและร้านกาแฟซึ่งเป็นที่นิยม อาทิ ตลาดโรงสี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาล “ดีโน่ศิลป์ ถิ่นอาร์ต @ ตลาดโรงสี” หรือร้านกาแฟอย่าง คาเฟ่ เดอ สุภัค เป็นแหล่งนัดพบของผู้คน ในบรรยากาศสบายๆ เป็นต้น  ส่วนด้านอาหารก็มี “ข้าวเหนียวเขาวง” เป็นพันธุ์ข้าวที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดกาฬสินธุ์ มีความนุ่ม หอม อร่อย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือจุดแข็งที่สามารถสร้างจุดขายให้กับจังหวัดกาฬสินธุ์ได้เป็นอย่างดี

ด้านนายกฤษณะ แก้วธำรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. กล่าวว่า ททท.ได้ดำเนินการสื่อสารการตลาดให้กับจังหวัดกาฬสินธุ์มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “ทุกสิ่งสร้างสรรค์ ณ กาฬสินธุ์” เป็นการสร้างภาพจำใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของจังหวัดกาฬสินธุ์ที่แตกต่างจากเดิม โดยเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา มีการสื่อสารเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ มากมาย ทั้งทางสื่อสิ่งพิมพ์ รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ สื่อออนไลน์ การจัดทำ Presentation จังหวัดกาฬสินธุ์ การจัดงานสงกรานต์ดีโน่สินธุ์ ถิ่นคนน่ารัก ซึ่งได้เปิดตัววงแพรวา จีจี้ เพลง “รักไม่ง้อเวลา” และท่าเต้นไดโนเสาร์ไปแล้วเมื่อเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา

อีกทั้งมีการผลิตอนุสาร อ.ส.ท. ฉบับพิเศษเดือนพฤษภาคม เรื่อง “จังหวัดกาฬสินธุ์” และล่าสุดก็มีการจัดงานเทศกาล “ดีโน่ศิลป์ ถิ่นอาร์ต @ ตลาดโรงสี” ถือเป็นกิจกรรมที่ตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งความสร้างสรรค์จนเป็นงานศิลปะ กลมกลืนไปกับการดำเนินชีวิต จนเป็นเสน่ห์ที่สามารถนำไปสู่การท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

 สำหรับงานเทศกาลดังกล่าว เป็นการรวบรวมงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ ของจังหวัดกาฬสินธุ์ มาจัดแสดงไว้ในงานเดียว โดยผสมผสานศิลปะท้องถิ่น ศิลปะด้านอาหาร ศิลปะการดำเนินชีวิต ศิลปะทางการเกษตร และศิลปะสากลไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของคนในท้องถิ่นในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งยังใช้ศิลปะช่วยสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ภายในงานประกอบด้วย 4 โซน ได้แก่ โซนแรก คือ Creative Fun การแสดงดนตรีจากศิลปินสากลและศิลปินท้องถิ่น อาทิ โก้ Mr.Saxman และวง The Sound of Siam, ศิลปิน ก้อง ห้วยไร่,  อี๊ด โปงลางสะออน, แพรวาจีจี้, ไอซ์และแป้ง หลวงพระเนตร ตลอดจนนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ รวมทั้งเปิดตัวภาพยนตร์สั้นเรื่อง “กาลศิลป์”  ที่จะช่วยเสนอคำตอบว่า ลูกหลานชาวกาฬสินธุ์จะดำรงศิลปะคู่เมืองและวิถีแห่งการสร้างสรรค์แบบกาฬสินธุ์ไว้ด้วยวิธีใด นำแสดงโดยชาวกาฬสินธุ์ ได้แก่ เศรษฐพงศ์ เพียงพอ (เต๋า AF) แสดงเป็น ดีโน่, นางสาววันนิภา ศรีประไหม (บุ๋มบิ๋ม แพรวาจีจี้) แสดงเป็น ลำปาว, นางสาวนิธิกานต์ รัตนะ (ใบหยก แพรวาจีจี้) แสดงเป็น แพรวา และอี๊ด โปงลางสะออน แสดงเป็น ครูอี๊ด กำกับการแสดงโดย นายบัณฑิต ทองดี (อ๊อด)

 โซนที่สอง คือ Creative Installation การสร้างแลนด์มาร์คด้วย Installation ได้แก่ หุ่นไดโนเสาร์ฟางข้าวพันธุ์สยามโมซอรัส สุธีธรนี โดยความร่วมมือระหว่าง ททท. และ NPO WARA ART จากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ร่วมสร้างสรรค์หุ่นไดโนเสาร์ฟางข้าวขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศิลปะการทำหุ่นฟางระหว่างกัน,   หุ่นไดโนเสาร์เหล็ก โดยตลาดโรงสี, หุ่นไดโนเสาร์ไม้ไผ่สาน โดยเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และหุ่นไดโนเสาร์ฟางข้าว โดยอาจารย์ปรีชา การุณ (ครูเซียง) ศิลปินหุ่นฟางข้าวรับเชิญจากจังหวัดมหาสารคาม

 โซนที่สามคือ Creative Stand Up จัดแสดงตัวอย่างศิลปะต่างๆ ที่มีความโดดเด่น ทั้งศิลปะสากลที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ ศิลปะสร้างสรรค์เชิงเกษตร เชิงอาหาร เชิงหัตถกรรม ได้แก่ ศิลปวัฒนธรรม (การแสดงโปงลาง) : อาจารย์ธงชัย คำโสภา, ศิลปะการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ (ประติมากรรม) : นายภัฏ พลชัย (อาจารย์เล็ก), ศิลปะสร้างสรรค์ด้านการเกษตร : สวนปันบุญ, ศิลปะสร้างสรรค์ด้านอาหาร : น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ และศิลปะสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรม : กระเป๋าสมประสงค์

ปิดท้ายโซนที่สี่ คือ Creative Food เป็นการรวบรวมอาหารหลากหลายกว่า 50 ร้าน กว่า 100 เมนู ไว้ในงานเทศกาล เพื่อให้การเยี่ยมชมงาน เป็นไปด้วยความเพลิดเพลินและอิ่มท้องในวันพักผ่อน นอกจากนี้ยังมี ศิลปะ Graffiti และ Street Art นำเสนอภาพวาดที่เกี่ยวกับเรื่องราวของจังหวัดกาฬสินธุ์บนกำแพง 3 จุด ในตัวเมืองเดินชมได้ โดยศิลปิน Graffiti ระดับประเทศคือ เดเอล ฮอร์แกน หรือบิ๊กเดล (Big Del) ผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะในแบบ Graffiti และ Street Art กว่า 18 ปี และมีผลงานมาแล้วทั่วประเทศ 

ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท.  กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากเทศกาลนี้แล้ว ททท.ยังมีกิจกรรมต่อเนื่องในจังหวัดกาฬสินธุ์อีกหลายรายการ อาทิ งาน Check in กิน...เที่ยวกาฬสินธุ์ ตั้งแต่บัดนี้ - 2 กันยายน 2561 ต่อด้วยงาน "มีตแอนด์กรี๊ด Eat Local Food" วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน 2561 เวลา 16.00-22.00 น. ย่านเมืองเก่า ถนนโสมพะมิตร ถนนธนะผล ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมที่ใช้อาหารมาเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว และกิจกรรมตามรอยไดโนเสาร์ ... ตะลุยแดนอีสาน วันที่ 14 กันยายน - 14 ตุลาคม 2561 เฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์  บริเวณพิพิธภัณฑ์สิรินธร รวม 12 วัน เน้นกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้และครอบครัว

 “คาดว่า กิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ที่จัดขึ้น จะช่วยสร้างภาพจำใหม่สมกับแนวคิด “ทุกสิ่งสร้างสรรค์ ณ กาฬสินธุ์” ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเดิม สร้างความคึกคักให้กับจังหวัดกาฬสินธุ์ได้เป็นอย่างดี และเป็นการท่องเที่ยวที่ทำให้เกิดความยั่งยืนอีกด้วย” ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. กล่าวปิดท้าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท.  โทร. 0-2250-5500 ต่อ 4520-22 หรือ ททท. สำนักงานขอนแก่น (รับผิดชอบพื้นที่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม) โทร. 0-4322-7714-6 และอีเมล [email protected]

สรณะ รายงาน

แกลลอรี่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"