ห่วงภาษีลาภลอย กระทบคอนโดมิเนียม กลุ่มผู้ที่ซื้อเพื่อการเช่า-ลงทุนระยะยาว ลดแรงจูงใจซื้อปรับลดลง

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงร่างพ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐพ.ศ. ... หรือพ.ร.บ.ภาษีลาภลอย ที่กำหนดเพดานภาษีสูงสุดไม่เกิน 5% ว่ามีผลกระทบเชิงลบ เนื่องจากเป็นภาระภาษีตัวใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ซื้อเพื่อการเช่าหรือลงทุนระยะยาว เมื่อเปลี่ยนมือในอนาคตจะมีภาระทางภาษีเพิ่มขึ้น อาจทำให้แรงจูงใจซื้อเพื่อการลงทุนปรับลดลง โดยส่วนใหญ่โครงการได้รับผลกระทบจะเป็นคอนโดมิเนียมติดกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน เป็นต้น

ทั้งนี้ ภาษีลาภลอยมีหลักการจัดเก็บ คือ ดูราคาประเมิน เปรียบเทียบระหว่างก่อนที่จะเกิดขึ้นของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐด้านคมนาคม กับหลังที่เกิดขึ้นแล้ว หากมีราคาสูงขึ้น ส่วนต่างราคาดังกล่าวถูกจัดเก็บเป็นภาษีลาภลอย ซึ่งไม่เจาะจงเฉพาะคอนโดมิเนียมเท่านั้น รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท และที่ดินเปล่า หากเกิดขายในช่วงที่กฎหมายฉบับนี้มีผลแล้ว และราคาสูงขึ้นก็จะโดนเก็บภาษี ส่วนแนวราบมีผลกระทบน้อย เพราะการซื้อเพื่อการเก็งกำไรมีไม่มาก และระยะทางของบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ส่วนใหญ่จะเกิดในนอกระยะทางเกินรัศมี 5 กม.รอบพื้นที่โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐเข้าไปพัฒนาเป็นส่วนใหญ่ 

“วิธีการจัดเก็บ จะจัดเก็บจากฝั่งผู้ขาย ไม่ได้จัดเก็บตลอดเวลาที่ถือครอง แต่จัดเก็บเมื่อเปลี่ยนมือเท่านั้น แล้วเอาส่วนต่างเป็นฐานภาษี คำนวณด้วยอัตราภาษี โดยปัจจุบันยังไม่มีตัวเลขข้อมูลว่าราคาที่ดินที่ใกล้พื้นที่โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐเข้าไปพัฒนา จะปรับขึ้นเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมายังไม่มีการจัดเก็บฐานข้อมูลที่ชัดเจน และยังไม่มีกฎหมายที่จะเก็บส่วนต่างจากตรงนี้ ซึ่งต้องรอติดตามต่อไป”

อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีลาภลอย ไม่เหมือนกับภาษีที่ดิน ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังพิจารณาว่าจะนำมาใช้แทนภาษีโรงเรือน ภาษีบำรุงท้องที่ ที่เคยจัดเก็บในอดีต  ส่วนการลงทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ นอกจากภาษีลาภลอยแล้ว ยังต้องติดตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นในครั้งนี้ เพราะมีผลกระทบกับกำลังซื้อ เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นกำลังซื้อเพื่อการเก็งกำไรค่อนข้างเยอะในคอนโดมิเนียม อาจกระทบต่อยอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (แบ็คล็อค) เกิดการปฏิเสธได้