สนพ.ยันกองทุนอนุรักษ์ไร้การแทรกแซง


เพิ่มเพื่อน    

สนพ.ยันกองทุนอนุรักษ์พลังงานไร้การแทรกแซง แต่ระดมคนเข้าไปช่วยทำงาน ดูแลโครงการเบิกงบปี 62 ตามระเบียบใหม่ ที่ยุ่งยากกว่า ชี้ไม่มีเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณา ขั้นตอนอนุมัติต้องผ่าน 3 คณะทำงาน 

15 ส.ค. 2561 - นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยถึงกรณีการจัดการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2562 ว่ายืนยันว่าไม่มีการแทรงแซงการทำงานของหน่วยงานเดิม ที่มีสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน(ส.กทอ.) ดำเนินการอยู่ แต่เป็นการระดมคนเข้าไปช่วยทำงานเพื่อบริหารจัดการกองทุนฯ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบใหม่ของการใช้เงินกองทุน โดยจะแบ่งเป็น 2 ทีม ได้แก่ทีมที่ 1 คือ ส.กทอ. ที่จัดการรับผิดชอบกองทุนฯ งบปี 2561 ส่วนเพิ่มเติมภายใต้ “โครงการไทยนิยม ยั่งยืน” และทีมที่ 2 รับผิดชอบในส่วนกองทุน ของปีงบประมาณ 2562 ที่จะต้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ตามระเบียบใหม่ของกองทุนฯ กำหนดว่า หน่วยงานที่ต้องการขอใช้งบกองทุนจะต้องมายื่นเสนอกับ ส.กทอ. โดยตรง จากเดิมที่ต้องผ่านหน่วยกู้เบิกที่ประจำอยู่ สนพ. และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) และจะต้องใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการยื่นเสนอ ที่มีขั้นตอนเยอะกว่าเนื่องจากตองมีการเตรียมเอกสารควบคู่กันไป จึงส่งผลให้รองรับปริมาณโครงการได้เยอะขึ้น โดยกำหนดใช้กับการเบิกของบในปี 2562 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้อำนาจในการพิจารณากลั่นกรองต้องผ่าน 3 คณะทำงานหลัก ได้แก่ คณะกรรมการกลั่นกรองงและพิจารณากองทุนที่มี ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ก่อนจะส่งให้อนุกรรมการกองทุนฯ ที่มี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน และให้คณะกรรมการกลั่นกรองกองทุนฯ ที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งยืนยันว่าไม่มีบริษัทเอกชน เข้ามามีส่วนเกี่ยวของกับการพิจารณากองทุน ซึ่งยืนยันว่าไม่มีบริษัทเอกชน เข้ามามีส่วนเกี่ยวของกับการพิจารณากองทุน 

“จากที่มีการอ้างชื่อบริษัทเอกชนว่าเข้ามามีบทบาทในการพิจารณากองทุน ที่จริงแล้วเป็นที่ปรึกษาที่ สนพ. จ้างเข้ามาเพื่อติดตาม ประเมินผล และเตรียมเอกสาเพื่อทำการเบิกจ่ายงบในโครงการที่ได้รับการอนุมัติแล้วเท่านั้น แต่ไม่มีสิทฺที่จะเข้ามามีอำนาจใรการพิจารณากองทุน”นายทวารัฐ กล่าว

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีการเปิดรับสมัครโครงการที่จะเข้ามาใช้งบประมาณปี 62 แล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. เป็นต้นมา มีโครงการที่เสนอมาทั้งสิ้น 956 โครงการ จาก 343 หน่วยงาน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีโครงการใดตกการตรวจสอบไป ซึ่งการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์จะเข้ามาช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการติดตามโครงการต่าง ๆ ได้มากขึ้น ทั้งนี้ในอนาคตยืนยันว่าไม่มีความเป็นจำเป็นที่จะต้องมีทีมทำงานด้านกองทุน 2 ทีมแล้ว ซึ่งอาจจะเหลือทีมเดียวเหมือนเดิมก็คือ ส.กทอ. โดยจะมีการอนุมัติงบประมาณต้นปีวันที่ 1 ต.ค. และงบกลางปีในวันที่ 1 มี.ค. ของทุกปี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"