อุตฯยอมรับตั้งกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอียังไม่คืบ


เพิ่มเพื่อน    

 

สมชาย" เผยควบรวมกองทุนเพื่อเอสเอ็ทอียังไม่คืบ หลังให้ ธพว.พิจารณาหลักเกณฑ์การโยกเงินยังไม่ครอบคลุม หวั่นเกิดปัญหาภายหลัง ชี้ต้องกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนก่อนปล่อยกู้ ด้านสมาพันธ์เอสเอ็มอีแย้มปัญหาหลักคือผู้ประกอบการยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน

นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการยุบรวมกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี และกองทุนพลิกฟื้นเอสเอ็มอี ของสำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ตั้งเป็นกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีใหม่ วงเงิน 1,800 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อได้ตั้งแต่ปลายก.ค.ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถปล่อยสินเชื่อกองทุนใหม่ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) ศึกษาเงื่อนไขที่จะโยกเงินกองทุนใหม่มาให้ตัวเองเป็นผู้พิจารณาเต็มรูปแบบ เนื่องจากที่ผ่านมาแม้ว่า ให้ธพว. เข้ามาช่วยเหลือเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อร่วมกับสสว.แล้ว แต่ขั้นตอนสุดท้ายยังอยู่ที่สสว. อาจทำให้ประสบปัญหาความล่าช้าเช่นเดิม เพราะมีเจ้าหน้าที่จำกัด

“ได้คุยเบื้องต้นกับนายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสสว.ให้เข้าใจแล้ว เพราะดูๆแล้ว ถ้ายังไม่แก้ให้เบ็ดเสร็จ ก็จะติดปัญหาซ้ำรอยเดิมอีก ตอนนี้จึงให้นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว. ไปดูเงื่อนไข หลักเกณฑ์ต่างๆว่า จะให้เอสเอ็มอีแบงก์ เป็นผู้พิจารณาเต็มตัวได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นหากโยกมาให้เอสเอ็มอีแบงก์ดู อาจต้องมารวมกับโครงการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพสำหรับเอสเอ็มอีคนตัวเล็ก วงเงิน 8,000 ล้านบาท  ซึ่งเงื่อนไขยังไม่ตอบโจทย์ เพราะกองทุนใหม่ จะเน้นกลุ่มเอสเอ็มอีที่ติดปัญหาหนี้เอ็นพีแอล หรืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อปกติได้ จึงต้องให้ ธพว.ดูว่า ต้องแก้ไขหลักเกณฑ์อย่างไร เพื่อให้แก้ปัญหากลุ่มนี้เข้าถึงเงินทุนได้”นายสมชาย กล่าว

นายณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า สมาพันธ์ฯ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ระหว่างวันที่ 9 ส.ค.-14 ส.ค. พบว่า ปัญหาอันดับแรก ยังเป็นการไม่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน 73.96%  อันดับที่ 2 ความล่าช้าของกองทุนช่วยเหลือต่างๆ 41.20%  อันดับที่ 3 รัฐไม่เข้าใจปัญหาของผู้ประกอบการ 40.10%  อันดับที่ 4 ขาดช่องทางการตลาด 38.63%  อันดับที่ 5 ติดเครดิตบูโร ไปต่อไม่ได้ 37.04%  อันดับที่ 6 ใช้เอกสารเยอะในการติดต่อเรื่องต่างๆ กับภาครัฐ 35.82%  อันดับที่ 7 ภาครัฐไม่ดำเนินงานโครงการต่อเนื่อง 30.81%

“เป็นที่น่าแปลใจว่า สมาพันธ์ฯ เพิ่งเปิดรับสมัครสินเชื่อเพื่อคนตัวเล็กของเอสเอ็มอีแบงก์ วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทไป เมื่อเดือนก.ค. แต่ผลสำรวจล่าสุดยังพบปัญหาการไม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนอยู่ เบื้องต้นอาจเกิดจากความไม่พร้อมของผู้ประกอบการเอง หรืออาจเกิดจากขั้นตอนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของกองทุนต่างๆ ยังยุ่งยาก ซึ่งจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์และนำเสนอภาครัฐต่อไป เพื่อให้เกิดประโยชน์และตรงตามเป้าหมายของทุกฝ่ายมากที่สุด”นายณพพงศ์ กล่าว

ส่วนปัญหาการปล่อยสินเชื่อกองทุนใหม่ 1,800 ล้านบาทนั้น ต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมีความชัดเจนในเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อว่า ให้กลุ่มไหน เช่น กองทุนฯนี้ต้องการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีปัญหาการชำระเงิน ติดเครดิตบูโร แต่เจรจาปรับโครงสร้างหนี้บ้างแล้ว ก็ต้องเน้นให้คนกลุ่มนี้เฉพาะ อย่าให้ผู้พิจารณาปล่อยสินเชื่ออนุมัติให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายปกติ ไม่เช่นนั้นกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องเครดิตบูโรจริงๆ จะไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนมาปรับโครงสร้างธุรกิจได้เลย  ส่วนรายปกติ ให้ไปขอสินเชื่อสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ปล่อยให้อยู่แล้ว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"