"บิ๊กป้อม" ตั้งน้องเลิฟ "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" ผู้ช่วยโฆษกประจำตัว "นายพลคนดัง" ขานรับลุยงานแก้หนี้นอกระบบ ปลุกชาวบ้านใช้ชีวิตพอเพียงไม่ฟุ่มเฟือย   ส่วน "ครม." โยกย้าย ขรก.ล็อตใหญ่ ดัน "อธิบดีกรมข้าว"  ขึ้นปลัดกระทรวงเกษตรฯ "คมนาคม" ขยับ 9 ตำแหน่ง "ชัยวัฒน์" เป็น "ปลัดคมนาคม" ตกรางวัล "อานนท์" คุมกรมทางหลวง พร้อมจ่อกดปุ่มแผน PPP แสนล้านทันที  "อธิบดี ทล." ไม่ยอมขึ้นรองปลัดฯ เตรียมยื่นลาออก อ้างอยากพักผ่อน หึ่ง! โผพลิกอื้อ เชื่อแผนดันเด็กรองฯ สมคิดขับเคลื่อนแผนลงทุนรัฐบาลโค้งท้าย
    เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแต่งตั้งผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ได้ลงนามคำสั่งรองนายกรัฐมนตรีที่ 1/2561 เรื่องแต่งตั้งผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบการแต่งตั้งโฆษกรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.60 โดยแต่งตั้งให้ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เป็นโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) เป็นผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ช่วยปฏิบัติงานโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ตามที่รองนายกรัฐมนตรีหรือโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีมอบหมาย โดยมีคำสั่งตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.61 
    พล.ท.คงชีพกล่าวว่า งานด้านความมั่นคง พล.อ.ประวิตรได้รับผิดชอบในหลายด้าน ซึ่งตนเป็นโฆษกประจำตัว พล.อ.ประวิตร และกระทรวงกลาโหม แต่ในมิติด้านด้านความมั่นคงที่เกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย เช่น เรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายหน่วยงาน หรือเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่รุกไปยังต่างประเทศแล้ว เพื่อสร้างความร่วมมือในการจับกุม พล.อ.ประวิตร ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ รมว.กลาโหมต่างประเทศ สามารถโทรศัพท์พูดคุยกันได้ ดังนั้นการแต่งตั้ง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ มาเป็นผู้ช่วยโฆษก จึงถือว่ามาช่วยภาระงานด้านกฎหมาย และมาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย
    "พล.ต.ต.สุรเชษฐ์จะทำงานร่วมกับผม ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชน ในการสร้างความรับรู้และความเข้าใจงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะมาตรการทางกฎหมายที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่" โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว
    ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายงานจาก พล.ท.คงชีพ แต่คาดว่างานหลักที่จะได้รับมอบหมายให้ทำคือช่วยเสริมการทำงานของ พล.ท.คงชีพ และช่วยดูงานสร้างความเข้าใจกับประชาชน ในส่วนเรื่องความมั่นคงด้านงานอาชญากรรมในภาพรวมทั้งประเทศ โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงหนี้นอกระบบ ทั้งเจ้าหน้าที่ นายทุน และลูกหนี้ ให้มีความรู้ความเข้าใจใช้ชีวิตดำรงตนอย่างพอเพียง ไม่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ไม่ก่อหนี้เพิ่มเติม โดยเฉพาะนายทุน ต้องไม่รังแกคนไทยด้วยกันเอง
'โจ๊ก'ผู้ช่วยโฆษกบิ๊กป้อม
    "ผมจะเริ่มทำงานทันทีในด้านความมั่นคงอาชญากรรมข้ามชาติ และความมั่นคงอาชญากรรมด้านเศรษฐกิจ เน้นการบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร มีความห่วงใยประชาชนในเรื่องหนี้นอกระบบ และการเอารัดเอาเปรียบของนายทุน" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว
    ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัจจุบันความเดือดร้อนของประชาชนคือหนี้นอกระบบที่ฉ้อฉล กลโกงต่างๆ ที่มีการยึดบ้านและที่ดินมาเป็นของตนเอง และปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยเกินความจริง รวมทั้งปัญหาการหลอกลวงให้ลงทุนเป็นปัญหาระดับประเทศที่ทำลายความมั่นคง อาทิ กรณีบิตคอยน์ นอกจากนี้เรื่องปัญหาอาชญากรรม การหลอกลวงทางระบบโซเชียลมีเดีย และระบบคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ
    ขณะที่ พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติแต่งตั้งนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว เป็นปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง จำนวน 10 ราย ได้แก่ นายเกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นอธิบดีกรมสุขภาพจิต,  นายมรุต จิรเศรษฐสิริ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก,  นางพรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข  เป็นอธิบดีกรมอนามัย, นายโอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 
    นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, นายธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา,  นายศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายพิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายไพศาล ดั่นคุ้ม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองปลัดกระทรวง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 เป็นต้นไป
    ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้งข้าราชการบริหารระดับสูง จำนวน 9 ราย ได้แก่ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นปลัดกระทรวงคมนาคม, นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร, นางอัมพวัน วรรณโก ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.), นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม  
    นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม  เป็นอธิบดีกรมเจ้าท่า, นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม, นายอานนท์ เหลืองสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นอธิบดีกรมทางหลวง, นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม
     "ครม.ยังได้เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งนางสุกานดา วรเชษฐบัญชา ที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม แทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 เป็นต้นไป" ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
เด็ก'สมคิด'คุมคมนาคม
    ที่กระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ว่าที่ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จะเดินหน้าบริหารงานและขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปีของกระทรวงคมนาคม ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของชาติ ทั้งการขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ รวมไปถึงผู้พิการและผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
    "แนวทางขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงคมนาคม จะเน้นการบริหารงานในการใช้งบประมาณให้เหมาะสม และมีความคุ้มค่ามากที่สุด ผมยังไม่ได้มองว่าจะขับเคลื่อนโครงการใดเป็นพิเศษ แต่วางแผนในภาพใหญ่เดินหน้าตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงและของชาติให้สอดคล้องกัน ครอบคลุมบก น้ำ ราง อากาศ แล้วเมื่อภาพใหญ่เดินหน้าไปได้ ถึงจะไล่ลงมาในโครงการต่างๆ เพื่อให้เดินไปด้วยกัน ต้องคิดแผนแบบบูรณาการต่อไป" ว่าที่ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าว
    ส่วนนายอานนท์ เหลืองสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ว่าที่อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า คงต้องรอรับมอบนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก่อนเข้าขับเคลื่อนภารกิจในฐานะอธิบดี ทล.ต่อไป แต่เบื้องต้นคงจะต้องเร่งดำเนินโครงการเดิมตามแผนกระทรวง วงเงินรวมกันหลายแสนล้านบาท เริ่มตั้งแต่แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วนปี 2561 (Action Plan) ของกระทรวงคมนาคม เช่น โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยาย ดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 18 กิโลเมตร มูลค่า 2.9 หมื่นล้านบาท และโครงการทางยกระดับหมายเลข 35 เฟส 1 ช่วงบางขุนเทียน-มหาชัย วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท และยังมี เฟส 2 ช่วงมหาชัย-บ้านแพ้ว และเฟส 3 ช่วงบ้านแพ้ว-วังมะนาว 
    "โครงการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการภาครัฐ(PPP) ตามนโยบายของรัฐบาลนั้น ต้องเดินหน้าต่อด้วยเช่นกัน อาทิ โครงการมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ วงเงิน 8 หมื่นล้านบาท, โครงการมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ต้องเร่งของบเวนคืนเพิ่มเติม, โครงการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี วงเงินรวม 6.1 หมื่นล้านบาท ไปจนถึงโครงการที่ของบประมาณจากรัฐบาลในปี 2561ได้รับอนุมัติรวม 1.19 แสนล้านบาท ประกอบด้วย งบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเร่งด่วนตามแผนแอคชั่นแพลน, งบลงทุนพัฒนาโครงข่ายมอเตอร์เวย์, งบลงทุนถนนสายใหม่และงบซ่อมบำรุงรักษาถนนสายเดิม รวมถึงโครงการพัฒนาถนนในพื้นที่อีอีซี 2 หมื่นล้านบาท" ว่าที่อธิบดี  ทล.กล่าว
    มีรายงานว่า การแต่งตั้งนายอานนท์เป็นอธิบดี ทล. น่าจะเป็นการตกรางวัลที่สามารถผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และรถไฟทางคู่ได้สำเร็จ สมัยดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) 
    อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดี ทล. ซึ่งถูกแต่งตั้งไปเป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม เตรียมยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะมีการเข้ายื่นหนังสือในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ อีกทั้งยังอยากไปพักผ่อน รวมทั้งมีแผนจะเกษียณอายุก่อนกำหนดอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันนายธานินทร์เหลืออายุงานอีก 3 ปี 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง ครม.มีมติแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงคมนาคม 9 ตำแหน่ง ทำให้ข้าราชการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เพราะมองว่ามีการพลิกโผกันยกใหญ่ หลังจากที่ตัวเต็งหลายตำแหน่งหลุดโผนั่งเก้าอี้หัวหน้าหน่วย แต่ผู้ได้รับการแต่งตั้งกลับเป็นม้ามืด
    "เชื่อว่าน่าจะมาจากแผนของฝ่ายนโยบายด้านเศรษฐกิจ ที่ต้องการแต่งตั้งทีมงานฝ่ายรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ให้เข้ามาขับเคลื่อนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงโครงการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน PPP ที่ต้องเร่งดำเนินการก่อสร้างและเปิดประมูลให้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ" แหล่งข่าวระบุ
    ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีการตั้งสามทหารเสือของรองนายกฯ สมคิดเข้ากุมบังเหียนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจกระทรวงคมนาคม 3 แห่ง ได้แก่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) การบินไทย, นายสุรงค์ บูลกุล ประธานบอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และนายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานบอร์ด รฟท.