อคส.ส่งอัยการฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายคลังสินค้าทำข้าวรัฐเสื่อม


เพิ่มเพื่อน    

 

อคส.ส่งอัยการฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายคลังสินค้าทำข้าวรัฐเสื่อม

อคส. ยันส่งอัยการฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง คู่สัญญาจำนำข้าวทำข้าวรัฐเสื่อมแล้ว 3 ราย อัยการส่งฟ้องศาลแล้ว 1 ราย อีก 2 ราย คาดส่งฟ้องสัปดาห์นี้ พร้อมยื่นโนติสให้คู่สัญญาชดใช้ความเสียหาย ครบแล้ว 244 สัญญา บางรายพร้อมจ่าย แต่เล่นแง่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ถึงความคืบหน้าการที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ยื่นฟ้องทางแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายคู่สัญญา ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตั้งแต่ปี 51/52, ปี 54/55, ปี 55/56 และปี 56/57 ให้ทันภายในสิ้นเดือนธ.ค.61 รวมทั้งสิ้น 244 สัญญาว่า ตั้งแต่เดือนก.ค.61 เป็นต้นมา อคส.ได้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการส่งฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหายกับคู่สัญญา ซึ่งเป็นคลังสินค้าแล้ว 3 ราย เพราะผิดสัญญาฝากเก็บข้าว โดยทำให้ข้าวสารที่อคส.ฝากเก็บเสื่อมสภาพไปจากมาตรฐาน เป็นเหตุให้รัฐเสียหาย โดยศาลพิจารณาเอกสารหลักฐานเสร็จสิ้น และส่งฟ้องแล้ว 1 ราย ส่วนอีก 2 รายอยู่ระหว่างการพิจารณาเอกสารหลักฐาน คาดว่า จะส่งฟ้องได้ภายในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ อคส. ได้ยื่นหนังสือทวงถาม (โนติส) ไปให้คู่สัญญา ทั้งที่เป็นเจ้าของคลังสินค้าที่อคส.เช่าเพื่อฝากเก็บข้าวสารจากโครงการรับจำนำ และบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) เพื่อให้มาชดใช้ค่าเสียหายให้กับอคส. กรณีที่ทำผิดสัญญา เช่น ทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ ครบแล้วทั้ง 244 สัญญา

อย่างไรก็ตาม คู่สัญญาได้ทยอยส่งหนังสือโต้แย้งกลับมาให้อคส.แล้ว โดยกว่า 100 สัญญา ยืนยันว่า ยินดีชดใช้ความเสียหายให้ แต่อคส.ต้องชี้แจงให้ชัดเจน หรือมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่า คู่สัญญาทำผิดสัญญาอย่างไร  ขณะนี้ อคส.อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของคู่สัญญาแต่ละราย จากนั้นจึงจะแจ้งให้คู่สัญญา ซึ่งต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนา จนคู่สัญญาไม่สามารถปฏิเสธการชดใช้ค่าเสียหายได้

ส่วนคู่สัญญาที่เหลืออีกกว่า 100 สัญญา หลังได้รับโนติสแล้ว ปฏิเสธที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ โดยยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดสัญญา ไม่ได้ทำให้ข้าวเสีย หรือเสื่อมคุณภาพ ตามผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบปริมาณ คุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 57 โดยมีม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน  เพราะดูแลรักษาคุณภาพ และรมยาตามหลักวิชาการอย่างถูกต้อง

ขณะที่คู่สัญญาบางรายฟ้องศาลขอให้คุ้มครองชั่วคราว โดยให้ศาลระงับผลการตรวจสอบคุณภาพข้าว ของคณะกรรมการตรวจสอบปริมาณฯ ของม.ล.ปนัดดา และบางราย โต้แย้งว่า การดูแลรักษาสภาพข้าวมีหลายวิธี แต่อคส.เลือกการรมยาอย่างเดียว ซึ่งจะป้องกันได้เพียงไม่ให้มอดกัดกินข้าวเท่านั้น และเหมาะสำหรับข้าวที่เก็บไว้ไม่เกิน 2 ปี แต่ข้าวในสต๊อก เก็บนานเกิน 2 ปี จึงมีสีเหลือง แตกหัก และเสื่อมสภาพมาก ซึ่งต้องใช้วิธีการอื่นในการดูแลรักษา

สำหรับคู่สัญญาที่ปฏิเสธการชดใช้ค่าเสียหายนั้น อคส.จะส่งเรื่องให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องร้องทันที โดยคาดว่า บางส่วนจะส่งฟ้องได้ตามแผนภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ พร้อมกันนั้น อคส.จะยึดหลักประกันสัญญา (แบงก์ การันตี) ของคู่สัญญาที่ปฏิเสธจะชดใช้ค่าเสียหายด้วย โดยจะทำหนังสือถึงธนาคารที่คู่สัญญาเหล่านี้นำเงินไปฝากไว้เป็นหลักประกันสัญญา เพื่อขอยึดหลักประกันสัญญา โดยธนาคารต้องนำเงินมาชำระหลักประกันสัญญาให้กับอคส.ตามกำหนด ไม่เช่นนั้น อคส.จะส่งให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องร้อง เพราะทำผิดสัญญาค้ำประกัน

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการส่งฟ้องทางแพ่งกับคู่สัญญาที่ทำให้รัฐเสียหาย ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ อคส.จะรายงานความคืบหน้าการดำเนินการทั้งหมด รวมถึงจะชี้แจงด้วยว่า อคส.จะเร่งส่งฟ้องคู่สัญญาให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทันกับกำหนดภายในสิ้นเดือนธ.ค.นี้ แต่หากไม่ทันกำหนด ก็จะเร่งรัดส่งฟ้องให้ทันก่อนคดีจะสิ้นอายุความในเดือนม.ค.63

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.57 ให้ อคส.และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) แจ้งความดำเนินคดีสำหรับข้าวในสต็อกรัฐบาลจากโครงการรับจำนำข้าวปี 51/52, 54/55, 55/56 และ 56/57 ซึ่งมีคุณภาพไม่ตรงตามมาตรฐานหรือเป็นข้าวเสื่อม พบว่า มีผู้กระทำความผิดทั้งคดีอาญา และคดีแพ่ง โดยมีคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนร่วมกระทำผิดด้วย 884 คดี มูลค่าความเสียหายประมาณ 115,000 ล้านบาท และนายวิษณุ ได้เร่งรัดให้ทำเรื่องให้อัยการส่งฟ้องทางแพ่งโดยเร็วก่อนหมดอายุความ
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"