ซิงเกอร์ ปูพรมสาขาย่อยปีละ 1,000 แห่ง ตั้งเป้า 4 ปีครอบคลุมทุกตำบลเมืองไทย หวังใช้เป็นฐานในการเข้าถึงลูกค้า เผยหลังลงทุนเทคโนโลยี ส่งผลให้ยอดขายดีปรับตัวดีขึ้น

นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ ต้องการผลักดันสาขาย่อยให้เจาะลึกไปยังพื้นที่ต่างๆ ของเมืองไทยมากขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 650 สาขา เบื้องต้นคาดว่าช่วงที่เหลือของปี 2561 จะเพิ่มอีก 350 สาขา ส่งผลให้ตลอดปีเป็น 1,000 สาขา โดยมีเป้าหมายจะขยายปีละมากกว่า 1,000 สาขา หรืออีก 4 ปีจะครอบคลุม 7,000 ตำบลของประเทศไทย

สำหรับปัจจัยที่ต้องการขยายสาขาย่อยจำนวนมากนั้น เพราะบริษัทมองว่าจะทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างวงกว้างมากขึ้น ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการเข้าถึงและดูแลลูกค้าได้ง่ายกว่าเดิม โดยผู้สนใจหากมีพื้นที่เป็นของตัวเองก็สามารถติดต่อเข้ามาเป็นสาขาย่อยของซิงเกอร์ได้ แต่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ขณะเดียวกันบริษัทยังได้พัฒนาระบบเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำเทคโนโลยีมาใช้ผ่านแอพลิเคชั่น ซึ่งจะทำให้เรื่องการดูฐานลูกค้า การจ่ายเงิน หรือแม้แต่ด้านอื่นๆ สะดวกสบายมากกว่าเดิมอีกด้วย

“หลังจากนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ก็ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพทางการขาย และด้านการเงินได้ดียิ่งขึ้น โดยยอดขายที่สาขาย่อยทำให้บริษัทเพิ่มเป็น 186,000 บาทต่อสาขาต่อเดือน จากอดีตอยู่ที่ 140,000 บาทต่อสาขาต่อคนต่อเดือน รวมถึงยังตัดปัญหาเงินสูญหายได้ทางหนึ่ง เพราะเมื่อลูกค้าจ่ายเงินก็จะรายงานผลผ่านแอพฯ ทันที” นายกิตติพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ ยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อ (NPL)ปัจจุบันอยู่ที่ 15% ตั้งเป้าสิ้นปี 2561 ลดเหลือ 10% เนื่องจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการขาย ทำให้คนสามารถเข้าไปอยู่ในระบบบัญชีได้มากขึ้น จากยอดบัญชีลูกหนี้เดิมที่ 1.8 แสนบัญชี ปัจจุบันอยู่ที่ 2 หมื่นบัญชี โดยจากจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ชำระตรงตามเวลา 20%

นอกเหนือจากการขยายสาขาย่อยให้มากขึ้นแล้ว บริษัทยังมองเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ อีกด้วย โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นผลมาจากคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีอาชีพอิสระมากขึ้น หรือไม่มีเงินเดือนประจำ แต่ต้องการซื้อสินค้าก็หันมาใช้บริการของบริษัท ซึ่งการเติบโตจะไม่ได้อยู่ในเขตใจกลางเมือง แต่จะอยู่ทางแถบมีนบุรีและคันนายาว บริษัทก็มีสาขารองรับแล้วเช่นเดียวกัน