เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ เผยผลสำรวจตลาดคอนโดฯไตรมาส 2 ปี 61 มีอุทปานเข้าสู่ตลาดเพิ่ม 9,395 ยูนิต จาก 20 โครงการ ขณะราคาขายเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 5% คาดใน 1-2 ปี กำลังซื้อต่างชาติจ่อขยายตัวมากขึ้น

28 ส.ค. 61 นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยถึงผลสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบันโดยพบว่า อัตราการเติบโตของอุปทานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี ส่วนด้านราคาปรับเพิ่มสูงขึ้น 8-12% ต่อปี ซึ่งราคาคอนโดมิเนียมที่สูงขึ้นเป็นเพราะปัจจัยหลัก คือ ราคาที่ดินที่สูงขึ้น ที่ดินหายากขึ้น ส่วนภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2561 ที่ผ่านมา พบว่าอุปทานคอนโดมิเนียมในตลาดกรุงเทพฯ เติบโตขึ้น 9,395 ยูนิต จาก 20 โครงการ ส่งผลให้ในตลาดมีคอนโดมิเนียมรวม 573,000 ยูนิต 

ในส่วนของราคาขาย พบว่าภาพรวมตลาดราคาเฉลี่ยคอนโดมิเนียมปรับตัวสูงขึ้น 5% โดยในช่วงครึ่งปีแรก ราคาขายอยู่ที่ 137,100 บาทต่อตร.ม. ซึ่งในกลุ่มตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองปรับตัวอยู่ที่ 6% หรือ 223,000 บาทต่อตร.ม. ส่วนตลาดรอบใจกลางเมืองปรับตัวขึ้น 4% หรือ 110,000 บาทต่อตร.ม. และตลาดรอบนอกปรับตัวสูงขึ้น 3% หรือประมาณ 75,000 บาทต่อตร.ม.สำหรับความต้องการในคอนโดมิเนียมช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา พบว่าเป็นดีมานด์จากคนไทยที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริงมากกว่า 80% แต่ในระยะเวลาช่วง 1-2 ปีนี้ จะเห็นได้ว่าเริ่มมีกำลังซื้อจากชาวต่างชาติมากขึ้น

สำหรับภาพรวมการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของตลาดคอนโดมิเนียมในช่วง 7 - 10 ปีที่ผ่านมานั้น พบว่า มีการเปลี่ยนแปลง 1.ด้านทำเลที่ตั้ง เพราะเมื่อเมืองขยายตัว ส่งผลให้การคมนาคมขนส่งที่ขยายตัวและเติบโตมากขึ้น          การเติบโตของคอนโดมิเนียมก็ขยายบริเวณออกไปด้วย 2.ด้านขนาดของห้อง 3.ด้านรูปแบบของห้อง และ 4.ด้านการเปลี่ยนแปลงด้านราคาต่อยูนิต สำหรับคอนโดมิเนียมในตลาดระดับกลาง และตลาดซิตี้คอนโด มีระดับราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท ถึง 3 ล้านบาทต่อยูนิต มีจำนวนหน่วยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมดในตลาด