ทำไม 'แจ็ค หม่า' จะกลับไปเป็นครู? ทำไมเศรษฐีไทยควรทำเรื่องการศึกษา?


เพิ่มเพื่อน    


    ผมหวังว่าข่าวชิ้นนี้น่าจะกระตุ้นให้มหาเศรษฐีไทยได้ใคร่ครวญถึงบทบาทของตนต่อการช่วยการศึกษาของเด็กไทยได้บ้าง
    ไม่ใช่เพียงบริจาคเงินหรือให้ทุนการศึกษาเท่านั้น แต่ยังแปรประสบการณ์การบริหารธุรกิจกำไรสูงสุดเพื่อตน มาเป็นการยกระดับการศึกษาเพื่ออนาคตของประเทศอย่างจริงจัง
    บิล เกตส์ก้าวลงจากตำแหน่งบริหารสูงสุดของบริษัทไมโครซอฟท์ในวัย 58 เพื่อทำงานด้านการกุศลในมูลนิธิเพื่อช่วยคนทั้งโลกรวมถึงด้านการศึกษา
    วันจันทร์ที่ผ่านตรงกับวันเกิดของแจ็ค หม่า เขาประกาศว่าหนึ่งปีจากนี้ไปจะปลดตัวเองออกจากตำแหน่งประธานบริหารของอาลีบาบาที่ก่อตั้งเองในวัย 54 เพื่อทุ่มเทกับงานด้านการกุศลและการศึกษา
    “ผมอาจไม่มีวันรวยเท่าบิล เกตส์ แต่ผมจะชนะเขาอย่างหนึ่ง คือจะลงจากงานบริหารเพื่อทำงานเพื่อการศึกษาก่อนเขา เขาตัดสินใจเรื่องนี้ตอนอายุ 58 แต่ผมแค่ 54 ก็เปลี่ยนบทบาทแล้ว...” แจ็ค หม่ากล่าวไว้
    มหาเศรษฐีจีนแจ็คบอกว่าแม้จะไม่ได้ทำหน้าที่บริหารสูงสุด (เบอร์สองของเขาคือ Daniel Zhang คงจะก้าวขึ้นมาแทน) แล้ว แต่ก็จะยังเป็นกรรมการของบอร์ดบริษัทต่อไป
    แจ็คบอกว่าเขาชอบความเป็นครูสุดจิตสุดใจ
    เขาอยากจะกลับไปสอนหนังสือซึ่งเป็นอาชีพแรกก่อนจะตัดสินใจตั้งอาลีบาบา ที่วันนี้กลายเป็นอภิมหาธุรกิจด้านขายของออนไลน์และต่อยอดไปสู่ธุรกิจด้านอื่นๆ จนเอาหุ้นไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กอย่างคึกคักเมื่อ 4 ปีก่อน
    วันนี้มูลค่าของอาลีบาบามีมากกว่า 400,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 12.8 ล้านล้านบาท) มีกิจกรรมหลากหลายตั้งแต่อีคอมเมิร์สไปถึงการจ่ายเงินออนไลน์และ cloud computing
    ไม่เว้นแม้แต่การเข้าไปทำธุรกิจสร้างหนังของฮอลลีวูด
    “ผมคิดว่าผมสอนหนังสือได้ดีกว่าการทำหน้าที่เป็นซีอีโอของอาลีบาบา” เขาบอกกับหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ในการสัมภาษณ์ล่าสุด
    ก่อนหน้านี้แจ็คส่งสัญญาณว่าจะก้าวลงจากบทบาทการบริหารสูงสุดของอาลีบาบามาระยะหนึ่งแล้ว  พอได้จังหวะวันเกิดปีนี้ก็จึงประกาศการตัดสินใจนี้อย่างเป็นทางการ โดยให้เวลาสำหรับตัวเอง พนักงาน และผู้ถือหุ้นหนึ่งปีเต็มสำหรับการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ
    เขาออกจากตำแหน่งซีอีโอในปี 2014 เปิดทางให้เบอร์สองบริหารงานประจำวันของเครือธุรกิจยักษ์  ตัวเองทำหน้าที่เป็น “ประธานบริหาร” ซึ่งก็คือ “หน้าตา” ของอาลีบาบาบนเวทีทั้งในจีนและต่างประเทศ
    “ดัชนีมหาเศรษฐี” ของบลูมเบิร์กระบุว่า ความมั่งคั่งส่วนตัวของแจ็คล่าสุดอยู่ที่ 40,000 ล้านเหรียญ  (มากกว่า 1.2 ล้านล้านบาท)
    ทั้งๆ ที่เขาก่อตั้งอาลีบาบาเมื่อ 20 ปีที่แล้วนี่เอง
    แจ็คบอกว่าเขาได้เตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนบทบาทมาทำงานมูลนิธิมา 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะโอนทรัพย์สินส่วนตัวมาอยู่ในองค์กรใหม่เพื่อการกุศลและการศึกษาอย่างเดียวกับเศรษฐีอย่างบิล เกตส์, มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก และวอร์เรน บัฟเฟตต์ อย่างไรหรือไม่
    แต่ไม่ว่าเขาจะนั่งอยู่ในเก้าอี้ตัวไหน แจ็คก็คงจะยังมีบทบาทสำคัญในการวางยุทธศาสตร์หลักของธุรกิจในเครือ ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนตามเทคโนโลยีใหม่ๆ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่พลิกผันตลอด
    เพราะเขาไม่เคยหยุดคิด ไม่เคยหยุดมองหาสูตรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ หรือตั้งคำถามว่าอะไรคือสิ่งใหม่ๆ ที่จะมา “ป่วน” ธุรกิจของเขา
    ผมเชื่อว่าแจ็คคงจะยังมองหา The Next Big Thing เสมอ
    และการศึกษาเป็น passion ส่วนตัวของเขาที่เป็นแรงผลักดันแรกจนทำให้เกิดอาลีบาบา เพราะเขาไม่หยุดที่จะแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ที่จะนำมาซึ่งโอกาส ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจหรือสังคมเพื่อยกระดับความคิดความอ่านของผู้คน
    ครั้งหนึ่งขณะที่ผมรอสัมภาษณ์แจ็คที่สำนักงานใหญ่ของอาลีบาบาที่เมืองหางโจว เขาขออนุญาตขึ้นพูดกับครูใหญ่จากโรงเรียนไกลปืนเที่ยงของจีนกลุ่มหนึ่งที่ได้รับเชิญมาเข้าคอร์สของมูลนิธิของเขา
    แจ็คขึ้นเวทีพูดกับครูจากต่างจังหวัดอย่างจริงจัง ให้เวลาและความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการนำเสนอสินค้าตัวใหม่ของอาลีบาบา 
    เขากระตุ้นให้ครูใหญ่จากชนบทของจีนปรับเปลี่ยนทัศนคติ (mindset) ต่อนักเรียนและต่ออาชีพของการเป็นครู ให้เข้าใจโอกาสที่จะใช้เทคโนโลยีในการส่งต่อความรู้และการสอนให้นักเรียนยุคนี้คิดเองทำเอง
    ผมสังเกตจากลีลา น้ำเสียงและเนื้อหาที่เขาพูด พร้อมตอบคำถามจากครูต่างจังหวัดแล้วสัมผัสได้ถึงความรักในอาชีพของการเป็นครูอย่างแท้จริง ไม่ได้เสแสร้งแกล้งสร้างภาพเท่านั้น
    จึงไม่น่าแปลกใจที่แจ็คตัดสินใจเลือกวันเกิดที่ 54 ประกาศ “การเดินทางครั้งใหม่” ของตัวเองล่วงหน้าเพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองรักตั้งแต่วัยเด็ก
    เศรษฐีในโลกนี้น้อยคนนักที่จะกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองรักและสังคมได้ประโยชน์ เพราะติดยึดอยู่กับตำแหน่งและความมั่งคั่งของตัวเอง จนไม่อาจจะฉีกตัวเองออกมาทำงานที่จะ “คืนกำไรสู่สังคม”  อย่างแท้จริง
    หากเขารอให้อายุ 80 แล้วจึงทำงานด้านการศึกษา คงจะไม่น่าสนใจเท่ากับเขาเลือกที่จะประกาศก้าวย่างใหม่ในวัยเพียง 54
    ของจริงต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำจริง...อีกไม่นานคงรู้ว่าแจ็ค หม่า ทำจริงหรือเพียงสร้างภาพ!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"