ซีอีโอเซอร์เวย์ คาดครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยสดใส นโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ และการท่องเที่ยวหนุน จับตาเสถียรภาพทางการเมือง

น.ส.สุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัยสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (ซีอีโอ เซอร์เวย์) ในช่วงครึ่งหลังปี 61 โดยมีซีอีโอเข้าร่วมตอบแบบสอบถาม 119 บริษัท จาก 25 หมวดธุรกิจ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) คิดเป็น 41% ว่า  เศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 61 จะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก อยู่ในช่วง 3-4%  เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนของนโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ และการท่องเที่ยว ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตเศรษฐกิจ  ได้แก่ กำลังซื้อภายในประเทศ , เสถียรภาพด้านการเมืองภายในประเทศ, การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของเงินบาท  

“เสถียรภาพการเมืองในประเทศเป็นอีกปัจจัยที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากความมีเอกภาพในการบริหารบ้านเมืองและมีความชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนทางกฎหมาย เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องขอบเขตระยะเวลาที่มีขั้นตอนในการทูลเกล้า กฎหมายร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 11 เดือนนับจากเดือนมิ.ย.61 ส่วนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น แต่ระยะกลางและระยะยาวยังมีความเสี่ยงที่ต้องพึงระวัง ทั้งเรื่องผลกระทบจากความขัดแย้ง ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน”

ขณะที่ แนวโน้มการดำเนินธุรกิจ ซีอีโอส่วนใหญ่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปี 61 ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะปรับตัวดีขึ้น  โดยซีอีโอกว่า 71% คาดรายได้เติบโตมากกว่า 3%  และซีอีโอ 46% คาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 6% ส่วนแนวโน้มการดำเนินธุรกิจ ซีอีโอส่วนใหญ่คาดว่าต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันโลก เช่นเดียวกับราคาวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ซีอีโอส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าระดับการจ้างงานและสภาพคล่องจะอยู่ในระดับเดิม

สำหรับแนวโน้มการลงทุน ซีอีโอส่วนใหญ่วางแผนจะขยายการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยในช่วงครึ่งหลังปี 61  พบว่า 50% ของซีอีโอวางแผนขยายการลงทุน ทั้งในต่างจังหวัดและต่างประเทศ ซึ่งมีประเทศเป้าหมายการลงทุน คือ ประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม โดยแหล่งทุนหลัก 3